ดวงกับความสัมพันธ์


      คนที่ศึกษาศาสตร์การทำนายจะทราบว่า  หลาายๆศาสตร์การดูดวงล้วนกำหนดให้ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งเป็นศัตรูกับอีกตำแหน่งหนึ่งเสมอ


        ทำนายตามกรุ๊ปเลือด  เช่น  กรุ๊ปเอจะไม่ถูกกับกรุ๊ปบี  กรุ๊ปเอบีจะไม่ถูกกับกรุ๊ปโอ

        ศาสตร์ของจีน  เช่น  ปีเถาะจะไม่ถูกกับปีระกา  ปีมะโรงจะไม่ถูกกับปีจอ

       ดูวันเกิด  เช่น  คนวันศุกร์ไม่ถูกกับคนวันเสาร์  คนวันอาทิตย์ไม่ถูกกับคนวันอังคาร

       หรือแม้แต่การผูกดวงตามโหราศาสตร์ไทย  ที่ถือว่าราศีซึ่งเป็นภพเสียของกันและกันจะไม่ถูกกัน

        ฯลฯ


        คำถามคือ  ในความเป็นจริง  จำเป็นเหรอที่เราต้องตั้งหน้าตั้งตาเป็นศัตรูกับคนทุกคนที่มีกรุ๊ปเลือด  วัน  ปี  หรือราศีไม่ถูกโฉลกกับเรา  ดังที่เขาทำนายไว้จริงๆ

         ถ้าถามเรา......เราว่าไม่จำเป็น



        ในฐานะคนธรรมดาทั่วไป  ถามว่าเคยรู้สึกมั้ยว่า  คนนั้นพบหน้าแล้วถูกชะตา  คนนี้พบหน้าแล้วรู้สึกอยากมีเรื่องกัน

        โอ๊ย  ทำไมจะไม่เคย  คนนะคะ  เกิดมาอสงไขย  ย่อมมีทั้งมิตรและศัตรูมาแต่ชาติปางก่อนไม่ต่างจากคนอื่นๆ

        ยิ่งในฐานะหมอดู  พอมาผูกดวงคนนั้นคนนี้แล้วยิ่งเข้าใจเลยว่า  ทำไมถึงเข้ากับคนนั้นได้ดีจัง  หรือทำไมกับคนนี้ถึงเหมือนมีช่องว่างระหว่างกันได้ตลอดเวลา



        ถึงแบบนั้นก็เถอะ  เราก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกหรือดวงมาชี้นำตลอดเวลาว่าเราจะต้องยิ้มหรือบึ้งใส่คนนั้นคนนี้  เพราะเรายึดหลักที่ว่า

        "ถ้าใครดีกับเรา  ก็ไม่มีเหตุผลที่เราต้องร้ายใส่เขา  ไม่ว่าในความเป็นจริงแล้วนั้น  เขาจะมีกรุ๊ปเลือด  วันเกิด  หรือราศีเป็นอะไรกับเราก็ตาม"

        ซึ่งความเป็นจริงก็มีอยู่ว่าเรามีเพื่อนและคนในครอบครัวอยู่ไม่น้อยที่เรารู้ว่าเขามี  "อะไรๆ"  ซึ่งตามคำทำนายแล้วต้อง  "เกลียด"  เรา  แต่เขาก็ไม่ได้เกลียดเราอย่างที่ควรจะเป็นแต่อย่างใด  ในทางกลับกัน  ก็มีคนอีกมากมายที่ไม่ชอบเรา  ซึ่งเขาอาจมี  "อะไรๆ"  ที่ตามคำนายต้อง  "ชอบ"  เราก็ได้  ใครจะไปรู้  (คือเราดูดวงเฉพาะคนที่มาขอให้ดู  ซึ่งก็มีแต่เพื่อนที่รู้จักกันทั้งนั้น)

       ....แต่ยอมรับนะว่า  ถ้าไม่ถูกชะตาแต่แรกเห็น  กว่าจะมาสนิทกันได้ก็ต้องใช้ความพยายามมองคนในแง่ดีมากกว่าคนอื่นนิดนึง

       เพราะ  "ความรู้สึก"  และ  "ดวง"  ไม่ใช่พระเจ้าของชีวิตที่บงการได้ทุกอย่างเพียงเพราะมันบอกให้เราเป็น  และเราเชื่อเสมอว่าคนที่จะเป็น  "เพื่อน"  กันได้  ต่างฝ่ายต่างต้องใช้แค่อย่างเดียวเท่านั้น

       .........นั่นคือ  "ใจ"  ที่  "จริง"  ต่อกัน  และความต้องการที่จะสานสัมพันธ์ให้เป็นมากกว่าคนที่เดินผ่านกันไป

       แค่มีใจก็เป็นเพื่อนกันได้แล้วล่ะ  :D



    แต่  แต่นะคะ  ถ้าจะมาเป็นอะไรสักอย่างที่ต้อง  "ร่วม"  ไม่ว่า  "ร่วมทุน"  หรือ  "ร่วมชีวิต"  ยังคงยืนยันว่าการรู้ว่าดวงทั้งสองฝ่ายเข้ากันหรือไม่เป็นสิ่งสำคัญ

   เพราะการมีได้และเสียนั้นสามารถกระทบจิตใจและส่งผลให้คนแสดงด้านลบของตนออกมาได้  จึงจำเป็นต้องรู้ว่าทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มจะไปด้วยกันได้แค่ไหน  และหากเกิดข้อขัดแย้งขึนมา  เรามีแนวโน้มจะทนได้หรือไม่เพียงใด

  อย่างเรื่องคู่เนี่ย  ถ้าจะถามเรา  เราจะดูสองอย่างหลัก  คือราศี  และความชอบของแต่ละฝ่าย  (ดูได้จากการผูกดวงน่ะแหละ)

  เพราะหากราศีไม่เป็นมิตรกัน  หรือร้ายกว่านั้นคือเป็นอริกันในตัว  เป็นไปได้สูงว่าความสัมพันธ์จะมีช่องว่างระหว่างกันอยู่........ซึ่งเราไม่คิดว่ามันจะสนุกถ้าอยู่ด้วยกัน

  ยิ่งถ้าคนสองคนมีความสุขที่ขัดกันอย่างรุนแรง(อ้างอิงจากดวงนะ).........อยู่ด้วยกันอาจหาความสุขได้ยาก  เพราะมีแนวโน้มว่า  ความสุขของคนๆหนึ่งจะเป็นความทุกข์ของอีกฝ่ายหนึ่ง

  ,,,,ไม่ดีเลยแบบนั้น....



   ดังนั้นนะ  ถ้าถามว่าดวงมีความสำคัญแค่ไหนกับคนสองคน  ถ้าคบเป็นเพื่อนล่ะก็  คบไปเห้อ  ไม่ต้องไปสนใจอะไรมากหรอก  แต่ถ้าจะเป็นมากกว่าเพื่อนทั่วไปล่ะก็....

 
   ..........การคบกันมีความเสี่ยง  ควรปรึกษาหมอดูแถวบ้านก่อนสร้างความสัมพันธ์ด้วยนะคะ


                   ........เผื่อจะเจ็บน้อยลงได้บ้าง...........

ความคิดเห็น

  1. 555555555 อันนี้คือแม่หมอมาเอง รับดูดวง ดูกฤษ์แต่งงานมั้ยคะ 555

    ตอบลบ
  2. เรื่องนี้อ่ะ เชื่อมแต่ละประเด็นดีมาก ไหล และประด็นชัด

    ตอบลบ
  3. รอสอบอัยการเสร็จก่อนถ้ายังไม่มีอะไรทำก็กะว่าจะรับแล้วล่ะค่ะ เหอๆ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ