บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2016

เตือน : ก่อนซื้อโน้ตบุ้ค

เตือน ! ใครที่ไป Forture Tower แถวพระรามเก้าเพื่อซื้อพวกคอม โน้ตบุ้ค หรือมือถือ ถ้าไปซื้อที่ร้าน A... ที่แปลว่าให้คำแนะนำ ที่อยู่ชั้นสาม ก็ระวังกันหน่อยนะ คนขายมนุษยสัมพันธ์ดี ถ้าซื้อเงินสดมีลดราคา มีของแถมให้ แต่....อย่าหลงเชื่อเดินไปติดฟิล์มตามที่เขาบริการเด็ดขาด ทำไมน่ะหรือ ตอนเราซื้อโน้ตบุ้ค(เดือนที่แล้ว) ทางร้านพาไปติดฟิล์มที่ร้านๆหนึ่ง โดยติดฟิล์มที่หน้าจอและฝาหลัง ราคาที่ร้านนี้ติดต่อให้คือ ฟิล์มฝาหลัง 700 ฟิล์มหน้าจอ 300 ก็ติดๆไป ไม่คิดอะไร วันนี้ ลุงเราไปซื้อโน้ตบุ้คจากอีกร้านนึง(ชื่อแปลว่าเมือง...) เขาพาไปติดฟิล์มเช่นกัน อันที่จริงก็ร้านติดเดียวกันด้วย แต่ราคาที่ได้คือ ฟิล์มฝาหลัง 400 ฟิล์มหน้าจอ 300 และฟิล์มที่...เรียกอะไ รล่ะ พื้นผิวบริเวณที่เป็นคีย์บอร์ดและเมาส์อ่ะ อีก 400   สรุปว่าจ่ายแพงกว่า 100 แต่ติดครอบคลุมกว่าเยอะเลย พอแม่รู้นี่บ่นไม่หยุดเลย เราเลยอยากเตือนว่า ถ้าจะไปซื้อโ น้ตบุ้คล่ะก็ เลือกร้านดีดีนะคะ และอย่าเพิ่งติดจนกว่าจะแน่ใจว่าราคาโอเคจริงๆ จะได้ไม่ต้องมารู้สึกเสียรู้แบบเราและแม่ ปล ฉันเตือนในฐานะผู้มีส่วนได้เสีย อันที่จ

เสียงครวญของเรือจ้าง : ค่าของความเป็น "ครู" อยู่ที่ไหน

    วันดีคืนดี  น้องสาวคนสนิทของเราก็ทักไลน์มา  ด้วยข้อความที่แสนจะห่อเหี่ยวใจ....   น้อง  :  พี่คะ  เบื่อจัง  เบื่องานมากเลย...  พยายามคิดอยู่ว่า  ชีวิตต้องการอะไร   เรา  :  อ้าว  เกิดอะไรขึ้นเหรอ       (เป็นเรื่องที่แปลกมาก  เพราะปกติน้องเป็นคนที่รักในงานของตัวเอง  เลือกเรียนครุเอง  ชอบสอน  บอกว่าอยู่กับเด็กแล้วมีความสุข)   น้อง  :  ที่มาเป็นครูเพราะชอบสอน  ชอบงานในห้อง  แต่ตอนนี้ต้องทำงานนอกห้อง...     แล้วน้องก็เล่าให้ฟังว่าการเป็นอาจารย์ในโรงเรียนยุคนี้ต้องทำงานเอกสารโน่นนี่นั่น  เพื่อประเมินคุณภาพอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะมาก....   น้อง  :  คิดดูสิคะ  ที่ทำก็ไม่ได้ชอบ  ที่ชอบก็ไม่ได้ทำ  สู้ครูสมัยก่อนก็ไม่ได้  อยู่กับตัวเอง  สอนอย่างเดียว  เดี๋ยวนี้อย่างกับคนจัดอีเวนท์  ทุเรศตัวเองทุกครั้งที่พอเขาสั่งให้ทำก็ต้องทิ้งห้องเรียน  บอกเด็กว่า  ครูไปทำ...ก่อนนะ  เอางานอื่นมาทำก่อนแล้วกัน  อายตัวเอง  ยิ่งทำยิ่งรักงานน้อยลง   เรา  :  เปลี่ยนโรงเรียนไม่ได้เหรอ   น้อง  :  เหมือนกันทุกที่แหละค่ะ!!!  เว้นแต่ไปอยู่โรงเรียนที่ผอ.ไม่บ้าผลงาน  ซึ่ง.......ไม่ใช่ผอโรงเรียนหนู    

เมื่อถูกคนชอบประจานเล่นงาน

  มีใครเป็นพวกมีเวรมีกรรม  มีคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดเป็นพวกชอบประจานคนข้างๆตัวเองต่อหน้าคนอื่นมั้ย  ถ้ามี  ลองอ่านบทความนี้ดู...   การถูกประจานหรือว่าแรงๆต่อหน้าคนอื่น  ยิ่งถ้าคนได้ยินร่วมผสมโรงด้วยแล้วเนี่ย  มันเป็นอะไรที่เสียหน้าและน่าอายมากถึงมากที่สุด...   ....และถือเป็นการทำร้ายกันอย่างหนึ่ง....   คิดว่าคนที่สามารถทำร้ายคนอื่นได้โดยไม่ต้องกระพริบตา  ไม่ว่าภายนอกเขาจะดูดีแค่ไหน  เป็นคนดีหรือไม่ดี...   ตอบได้แล้วทดในใจไว้ก่อน...    ต่อไป  ตามหลักจิตวิทยาที่เคยอ่านแล้วเนี่ย  คนที่สมบูรณ์  เต็มในตัวเอง  หรือพอใจในตัวเองระดับหนึ่ง  จะไม่ค่อยไปยุ่ง  ไปก้าวก่าย  หรือไปจ้องจับผิดชาวบ้านหรือคนรอบตัวเท่าใดนัก   พวกชอบไปวอแวให้คนอื่นเปลี่ยนอย่างนั้นอย่างนี้  แท้จริงแล้วคือพวกไม่พอใจในตัวเอง  แต่ขลาดกลัวและอีโก้สูงเกินกว่าจะยอมรับและแก้ไข  เลยหาเรื่องคนอื่นเพื่อปกปิดความบกพร่องของตัวเองไปวันๆ    น่าสมเพชสิ้นดี   ยิ่งไปกว่านั้น  การที่ใครสักคนพยายามเป็นคนดีด้วยการกดคนอื่นให้ต่ำลงตลอดเวลา  นั่นแสดงว่า  ลึกๆแล้ว  เขารู้  ว่าถ้าใช้วิธีขาวสะอาดแล้ว  ตัวเองไม่มีทางดูดีขึ้นมาได

รู้ไว้ใช่ว่า : วิธีจับภาพหน้าจอของผลิตภัณฑ์แต่ละยี่ห้อ

   มีใครเคยเป็นแบบเราหรือเปล่าไม่รู้    มีมือถือ smart phone กะเขาอยู่เครื่องหนึ่ง  บางครั้งอยากจะถ่ายภาพหน้าจอตัวเอง  แต่ทำไม่เป็น - -'  สุดท้าย  เมื่อมือถือเดิมบกพร่องเรื่องความสามารถ(ในการใช้สอย)  จึงเลือกมือถือที่มีปากกา  เพราะเข้าใจว่าทำให้สามารถจับภาพหน้าจอได้....    ยิ่งเล่าก็ยิ่งหน้าขายหน้าเนอะ    วันดีคืนดีค่ะ  เริ่มเกิดความอยากรู้(เกิดขึ้นช้ามาก!)ว่า  มือถือรุ่นอื่น  ยี่ห้ออื่น  สามารถจับภาพหน้าจอได้หรือเปล่า     google  สิคะ  ณ  จุดนี้     เฮ้ย  เจอ  เจอวิธีจับภาพหน้าจอของมือถือแต่ละรุ่นจนได้  โห  คือ  บื้ออยู่นานมาก  ว่าแล้วเลยเอามาแปะไว้ในนี้ดีกว่า  เผื่อในอนาคตต้องการจะใช้จะได้ไม่ต้องไปหาให้วุ่นวาย...     ....และทำให้ผู้ที่อ่านโพสต์นี้ไม่ต้องเซ่อแบบเรา.....   เริ่มกันเลย     จากการค้นคว้า  เราพบว่า  มือถือทั่วไปจะมีวิธีกดปุ่มเพื่อจับภาพหน้าจอด้วยกันสองวิธีหลัก  นั่นคือ  วิธีแรก  กดปุ่ม Power  พร้อมกับปุ่ม Home  ค้างไว้ประมาณ 2-3 วินาที  วิธีนี้มีสามยี่ห้อที่ใช้  นั่นคือ  Apple,  Htc,  และ  Samsung  ในส่วน Samsung นั้น  สำหรับรุ่น Galaxzy ท

รู้ไว้ใช่ว่า : ว่าด้วยเรื่องปีชง

    เผอิญว่าเพิ่งดูรายการ Line กนก  ซึ่งเขาทำสกู๊ปเกี่ยวกับปีชง  จึงมาเล่าสู่กันฟังเผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย     แต่จะไม่ลงลึกนะคะ  เพราะไม่ได้ศึกษาศาสตร์นี้มา  คิดเสียว่าจำเขามาเล่าให้ฟังแล้วกันนะ      วิธีนับปีชง      แต่ละปีนักษัตรจะมีปีชงของตัวเองอยู่สี่ปี  และวิธีนับง่ายๆแบบไม่ต้องเข้ากูเกิ้ลก็คือ.....    -  แบมือค่ะ  หันฝ่ามือ(ข้างที่มีเส้นลายมือ)เข้าหาตัว    -  เอานิ้วโป้งลง(แบบนับเลขสี่น่ะ)  จะเหลือสี่นิ้วถูกมะ  มองไปที่ทั้งสี่นิ้ว  เราจะเห็นช่องของนิ้วเรา 12 ช่อง  คือแต่ละนิ้วจะมีสามข้อถูกมั้ยคะ  มีสี่นิ้วคูณสี่เข้าไปเป็น 12    -  จะเริ่มที่นิ้วชี้หรือนิ้วก้อยก็ได้  ติ๊ต่างว่าเริ่มนิ้วชี้  ให้นับช่องแรกของนิ้วชี้(ข้อบนสุด)เป็นช่องที่หนึ่ง  ช่องถัดมา(ข้อกลาง)ของนิ้วชี้เป็นช่องที่สอง  ช่องท้าย(ข้อล่างสุด)เป็นช่องที่สาม  ถัดมาช่องที่สี่คือข้อแรกของนิ้วกลาง  ไล่ไปเรื่อยๆจนถึงข้อล่างสุดของนิ้วก้อย  เป็นช่องสิบสอง   -  ใส่ปีละนะ  ใส่ปีชวดที่ช่องที่หนึ่ง  ปีฉลูที่ช่องที่สอง  ไล่ไปจนถึงปีกุนที่ช่องสุดท้าย  (ลำดับปีนะคะ  ชวด  ฉลู  ขาล  เถาะ  มะโรง

โลกนี้แปลก

    มีใครรู้สึกมั้ยว่า  โลกนี้แปลก...  ผู้ซึ่งไม่ได้เลือกให้ร่างกายมี/ทำ กลิ่นไม่พึงประสงค์ มักถูกรังเกียจและต่อว่าให้อับอาย  ส่วนพวกตั้งใจปล่อยสารพิษด้วยตัวเอง เช่น  สูบบุหรี่  พ่นควันพิษ  ทำเชิดหน้าชูคอเหมือนเท่นักหนา.. ...ถ้าโลกนี้ไร้กฎสักสิบนาที  แม่จะคว้าไม้หน้าสามไปแพ่นกบาลสิงห์อมควันสักหน่อย  ทำจมูกฉันสะบักสะบอมมาก..  เช่นเดียวกัน  รวยจนที่เลือกไม่ได้นี่ถูกเอามาตั้งประเด็นดูแคลนกันเหลือเกิน  ส่วนดีชั่ว  ทำเป็นเฉย  เว้นแต่เกี่ยวกะตัวเองโดยตรง  เฮอะ....   นิสัยค่อนไปทางร้าย  แต่คุยเก่ง  อัธยาศัยโคตรจะดี  อุ๊ยเขาดีนะ  (โดนแทงข้างหลังมาแล้วค่อยด่ากันอีกที)   ส่วนพวกเงียบๆ  โลกส่วนตัวสูง  มักลืมยิ้มให้  เห็นโอกาสไม่อำนวยก็ไม่ทัก.........อุ๊ย  ยัยนี่หยิ่ง  (ได้ข่าวว่ามาขอความช่วยเหลือตรูก็ช่วยป่ะว้าา)   ตั้งแง่กล่าวหา  เพราะไม่มีปัญญาทำให้เราคุ้นเคยด้วย  แถวบ้านเรียก  องุ่นเปรี้ยว  นะ...  พอเอากระติกมาเก็บน้ำแข็งที่ร้านอาหารกลับ.......น่าเกลียด  ไม่มีใครเขาทำกัน  เห็นบางคนเอาถุงพลาสติกมาห่ออาหารที่ร้านกลับ.......แหมดีจัง  ได้อาหารกลับมากินอีกมื้อนึง ...

เด็กติดเกม (1)

         นอกจากบ้าบอลแล้ว  งานอดิเรกประจำตัวที่ไม่ค่อยจะหญิงเท่าไหร่อันวอนถูกด่าประจำอีกอย่างของคนเขียน  นั่นคือเล่นเกม        .........มากแค่ไหน?   แค่  "ติด"  น่ะ        จุดเริ่มต้นคงมาจากเจ้าเกมบอยรุ่นเครื่องใหญ่  ที่วัสดุเป็นแบบโปร่งใสมองเห็นกลไกข้างในได้  ส่วนเกมแรกที่เล่น...     ....ชื่ออะไรล่ะ  ที่เป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆพยายามเดินเข้าปราสาท  ผ่านกำแพงก็ต้องกดปุ่ม A เพื่อดูว่ามีอะไรซ่อนอยู่รึเปล่า      จำได้แต่ว่า  ไม่ผ่านสักที      Play Station  ก็เคยเล่นนะ  ยืมญาติมาเล่นอยู่พักหนึ่ง  ต่อมา  เจ้าของเขาขอคืน  แล้วจึงไม่ได้เล่นอีกเลยนับจากนั้น      เครื่องเกมต่อมาที่เป็นเจ้าของคือ  วีดีโอเกมของ nintendo  ที่เครื่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีแดงขาว  เล่นกับตลับเกม  ที่หาซื้อได้แผ่นละร้อยจากตลาด  ก่อนเล่นถ้าเปิดไม่ติดต้องถูๆเป่าๆก่อน      แผ่นนึงมีเป็นร้อยเกม  แต่เอาจริง  พอขึ้นเกมที่สิบยี่สิบ  ชื่อมันก็ซ้ำละ  แต่ส่วนใหญ่ก็เล่นอยู่แค่นั้นแหละ      เล่นอะไรมั่งน่ะหรือ? - เกมละครสัตว์  ที่ด่านแรกเป็นตัวผู้หญิงขี่สิงโตลอดบ่วงไฟ  ต่อด้วยเดินบนเชือก  รู้สึกจะไปตายตร

ผู้หญิงย้อนแย้ง

       เรื่องของผู้หญิงคนหนึ่ง  ซึ่งดูแล้วรู้สึกระคายตามาก        เธอบอกว่าเธอไม่มีคนคุยด้วยหรอก..............แต่ไลน์เธอดังทั้งวัน        เธอชอบหาว่าคนนั้นคนนี้ขี้เหงา............แต่เธออยู่เงียบๆไม่เคยได้  ถ้าไม่เปิดทีวีก็ต้องหาคนคุยด้วย        เธอบอกว่าเธอนี่แหละคือสุดยอดแห่งการพึ่งตนเอง................เธอเรียกผู้ชายใกล้ตัวมาทำโน่นทำนี่ทุกครั้งที่โอกาสเอื้ออำนวย        (อยากมีผู้ชายไว้ใช้มั่งจัง  อุ๊บส์)        เธอบอกว่าเธอชอบทำอะไรด้วยตัวเอง.................เธอต้องหาคนไปเป็นเพื่อนทุกครั้งเวลาไปไหน  เว้นแต่หาไม่ได้จริงๆเธอจึงจะไปคนเดียว        และถ้าเหตุผลไม่ดี  คนปฏิเสธจะถูกยัดเยียดข้อหา  "แล้งน้ำใจ"  ให้ทันที  (คนเคยถูกยัดข้อหาบ่นว่า  กรูก็มีธุระตัวเองมั่งป่ะวะ)        เธอบอกว่าเธอไม่ชอบเข้าสังคม............แต่ภาพที่ทุกคนเห็นจนชินตาคือ  เธอคุยไม่หยุด  ไม่ว่าคู่สนทนาจะเป็นคนที่เธอรู้จักมาสิบปีหรือสิบนาทีก็ตาม        เธอชอบบอกว่าเราอยากได้/เราไม่อยากได้.................โดยที่ความจริงมีอยู่ว่า  "เรา"  ที่ว่า  หมายถึงเธอคนเดียว        เธอโอดค

เล่าความหลัง : ขอบคุณที่เข้าข้างกัน

   จู่ๆนึกถึงมาเลยอยากเล่าต่อ :D    เราว่า  ต้นเหตุของความรู้สึกดีดีสาเหตุหนึ่งนั้นมาจาก  การที่อยู่ดีดีก็มีคนเข้าข้างเรา  โดยที่เราไม่ได้ขอ     วันหนึ่งในช่วงที่เรียนปริญญาโท  พี่ที่เรารู้จักรับปริญญา  คือเค้าเรียนปริญญาโทสองใบเหมือนกับเราและเรียนก่อนเราปีนึง  ช่วงที่เราไปเรียนปริญญาโทใบแรก  เขาเรียนใบที่สอง  วันที่กล่าวถึงนี้  เป็นวันซึ่งมหาวิทยาลัยมอบปริญญาโทใบแรกให้แก่เขา  ซึ่งใบแรกเขาก็เรียนที่มหาลัยนี้แหละ  เราก็ไปร่วมยินดี     มีหลายคนเลยล่ะไปร่วมแสดงความยินดีด้วย  หนึ่งในนั้นคือเพื่อนซึ่งเรียนหลักสูตรเดียวกับเราและรู้จักกันมาตั้งแต่ปริญญาตรีเพราะอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน  วันนี้เธอมากับพี่สาวอีกคนหนึ่ง(กล่าวถึงครั้งต่อไปจะเรียกว่า "พี่สาว" ก็แล้วกัน)ซึ่งคุ้นเคยกันดีกับทั้งเราและเธอ  เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่ช่วงมาเรียนภาษาปรับพื้นฐานแล้ว  เจอกันก็ทักทายพูดคุยและถ่ายรูปกันตามปกติ    หนึ่งในคนที่มาร่วมยินดีมีพี่ที่เรียนปริญญาเอกคนหนึ่ง  เห็นกันสักพักหล่อนก็เดินเข้ามาหาเรา  "นี่  วันรับปริญญาเขาทั้งที่ทำไมไม่แต่งตัวให้ดีกว่านี้หน่อยล่ะ  อ่อ  เป็นผู้หญิงแนวแ

ปากกาที่เขียนไม่ติดกับสิ่งที่คิดได้

   สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกท่าน  ขอให้เป็นปีที่ดีสำหรับทุกท่านนะคะ ^_^    วันนี้เราไม่ได้หยุด  เพราะที่ๆติวไว้เขาให้มาเรียนเพิ่ม  มาก็มา    ก่อนเข้าเรียน  เพื่อนร่วมห้องผู้ซึ่งนั่งห่างไปหนึ่งแถวเดินมายืมปากกา  หยิบส่งให้ด้ามนึง    เขาเรียกเราว่าน้องแฮะ  ทั้งๆที่เรารู้สึกว่าอายุน่าจะเท่ากันรึไม่ก็น้อยกว่า  แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น...    เรียนไปได้ประมาณสองชั่วโมง  เราได้ยินว่าเขาขอยืมปากกาจากคนที่นั่งข้างหลังเขา...    แปลได้ว่าปากกาเราคงเขียนไม่ออก !    เราไม่รู้เราโดยทั่วไปแล้วเราควรรู้สึกอย่างไร  รู้แค่ว่า  เรารู้สึกแย่    รู้สึกแย่ที่ปล่อยปละละเลย  ไม่คอยตรวจสอบว่าปากกายังอยู่ในสภาพใช้ได้ทุกด้ามหรือเปล่า    ในเส้นทางของชีวิต  หลายครั้งเหลือเกินที่เราให้ความสนใจกับรายละเอียดหลักๆหรือใหญ่ๆในชีวิต     เช่นการมาเรียนนี่  ก็จะดูแต่สมุดพอมั้ย  เอาประมวลมารึเปล่า  ปิ่นโตกลางวันเตรียมรึยัง     ส่วนกระเป๋าดินสอ  จับปากกาที่มีได้ก็โยนเข้าไป  ไม่ได้เช็คสภาพก่อนว่าเขียนติดมั้ย    ลงท้ายต้องมานั่งลุ้นก่อนเรียน  ว่าเขียนได้รึเปล่า  ยิ่งถ้าให้คนยืมแล้วใช้ไม่ได้ก็มารู้สึกผิดเองอีก..