บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม, 2016

แนะนำเว็บไซต์ฝึกเล่นอูคูเลเล่

     สวัสดีค่ะ      สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสุดสัปดาห์ที่สนุกสนานในระดับหนึ่ง  เนื่องจากเป็นสุดสัปดาห์ที่ยัยคนเขียนนั่งเกาอูคูเลเล่แหกปากร้องเพลงเป็นชั่วโมงๆ สองคืนติดต่อกัน      เสียงแหบมั้ย  ไม่หรอกค่ะ  เสียงเหลือเฟือ 555      ...แค่เจ็บมือนิดๆหน่อยๆเอ๊งงง      สาเหตุนั้นเนื่องจากเราไปเจอเว็บๆหนึ่งเข้า  เว็บๆนี้ไม่เพียงสอนวิธีจับคอร์ดต่างๆ  แต่ยังมีเพลงให้เล่นให้ร้องเยอะแยะไปหมด  โดยแยกชื่อเพลงเป็นหมวดหมู่เรียงตามตัวอักษรไว้อย่างสวยงาม      เพลงเยอะมากกก      และเว็บนั้นก็คือ http://chordsmelody.com/          เจอเพลงที่รู้คอร์ดก็จบ  แต่หากเจอเพลงที่ไม่รู้จักคอร์ด  หรือคอร์ดไหนเล่นไม่ได้  เราจะใช้วิธีเปิดหน้าต่างคอร์ดนั้นขึ้นมาอีกหน้าต่างหนึ่ง  ดูว่าเล่นได้  หรือพอเล่นได้ไหม  หากได้  ก็ลองร้องไปเล่นไป      ไม่ได้ก็เปลี่ยนเพลง  ไม่มีอะไรยากกว่านั้น  เหอๆ      เลยอยากจะเอามาแนะนำลงในบล็อก  เผื่อใครกำลังฝึกเล่นอูคูเลเล่  หรืออยากหาเพลงฝึกเล่นอูคูเลเล่  เอาเว็บนี้เป็นทางเลือกหนึ่งก็ไม่เลวนัก      นอกจากเว็บนี้  จะมีอีกสองสามเว็บที่เราไว้ฝึกเล่น  เช่น      http

"คนมีเสน่ห์" เพราะความงามไม่คงที่ แต่ความดีสิคงทน

     "พอดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน  ไม่ต้องมาเขิน  ฉันพูดจริงๆ.."      เชื่อว่าหากใครเปิดวิทยุคลื่นเพลงไทยสากลคงจะผ่านๆหูกับเพลง  "คนมีเสน่ห์" ของคุณป้าง นครินทร์  กันบ้าง      ...เผลอๆวันนึงเกินสองสามรอบด้วย  ฮิตเสียไม่มีล่ะ      เรารู้จักเพลงนี้ครั้งแรก  ตอนที่เล่นยูทู้ปแล้วบังเอิญกดเข้าไปดูเอ็มวี      ....แล้วก็แบบ  เออ  เอ็มวีมุ้งมิ้งดีแฮะ      พอได้ฟังอีกครั้งทางวิทยุ.....      เฮ้ย  เพลงนี้แม่งกวนตีนว่ะ  โดยเฉพาะท่อนแรก     แล้วก็รู้สึกว่าหลายๆคำที่ร้องนั้น  ฟังไม่รู้เรื่องวุ้ย     และทุกวันที่ฟังวิทยุจะต้องได้ยินเพลงนี้อย่างน้อยหนึ่งครั้งเสมอ  เปิดบ่อยจริ๊งงง      ..แต่อย่างน้อยก็เพราะดี  ฟังๆไปไม่เสียหาย      ฟังไป  ฟังไปเรื่อยๆ  จนเนื้อเพลงท่อนหนึ่งติดหู  ยิ่งพอได้อ่านเนื้อเพลงทั้งหมด  ยิ่งติดหูหนักกว่าเดิม  ท่อนนั้นคือ      "..น่ารักตอนเธอพูดจา  ลึกซึ้งถ้าเป็นเรื่องใจ  เธอมองอะไรๆด้วยความอ่อนโยน..."      พยายามคิดว่าตัวเองเป็นแบบนี้รึเปล่า  555  แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น(เดียว)ที่สะดุดใจหรอกนะ      เรารู้สึกว่าเพลงนี้เป็

ไดอารี่วันวาน : รำพึงวันฝนตก

     สวัสดีค่ะ  :D      เผอิญไปเจอบันทึกเก่าของตัวเองที่เขียนไว้ตอนอายุยี่สิบ(โห  จะสิบปีแล้วนะเนี่ย O_o)  แล้วมีเรื่องหนึ่งที่อ่านแล้วชอบมาก  เลยอยากเอามาแบ่งปัน      เริ่มตั้งแต่ต้นเลยละกันนะ  :)      15/9/51      ฝนตกอีกแล้ว...      ขณะกางร่ม...พลันสายตาฉันก็เหลือบไปเห็นคู่รักกางร่มให้กันอยู่      .......โรแมนติกจัง      .......มองๆไปแล้วก็แอบอิจฉาเล็กๆ      เผลอแปบเดียว........ฉันก็ผ่านมายี่สิบฝนเสียแล้ว      อายุขนาดนี้  เพื่อนหลายคนของฉัน      บ้าง..........ก็มีแฟนแล้ว      บ้าง..........ก็เพิ่งเลิกกัน      บ้าง..........ก็กำลังจีบๆและดูใจกันอยู่  (เหมือนดาราเลยวุ้ย)        มีเพื่อนไม่น้อย  ที่ผ่านประสบการณ์เรื่องความรักมาแล้ว      ..........ซึ่งต่างจากฉันลิบลับ      เส้นทางชีวิตของฉันแม้มันจะมีหลายสี  แต่มันก็ไม่เคยเป็นสีชมพูเลย.......สักครั้งเดียว      แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก  เพราะมีเพื่อนจำนวนไม่น้อย  ที่มีชะตากรรมเดียวกับฉัน  และหลายคนรวมทั้งฉันก็ไม่ได้อนาทรร้อนใจกับเรื่องนี้  และยังคงสนุกกับชีวิตโสดไปเรื่อยๆ      แต่...แน่นอน  ก็มี

คือความเปลี่ยนแปลง

     เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงลงกลางกระหม่อม      เมื่อจู่ๆเพื่อนร่วมงานเดินมาบอกว่า  "เดือนหน้าเราจะลาออกแล้วนะ"      'อ้าว'  คำหนึ่งผุดขึ้นมาในห้วงความคิด      ถามไปถามมาได้ความว่าคิดถึงครอบครัว  เลยกลับบ้านดีกว่า      ....      บ่ายแรกของวันที่รู้  ทำงานด้วยความรู้สึกสองสามอย่างผสมปนเปกันไปหมด  แยกได้ดังนี้      1.  ใจหาย  -  คงเพราะทั้งทีมมีกันอยู่แค่สองคน  ไม่รวมเจ้านาย  และเขาก็เป็นคนสอนงานแทบทุกอย่างให้เรา  จึงค่อนข้างสนิทกัน  พอทราบข่าวว่าจะจากไปอย่างกะทันหันเลยเกิดอาการใจหายว่า  ต่อไป...      คงไม่มีเพื่อนระดับเดียวกันชวนกันคุยเรื่องงานแล้วสินะ      2.  กังวล  -  ที่ผ่านมา  เวลาต้องไปทำงานนอกสถานที่  ก็จะนั่งแท็กซี่ไปกันสองคน  แต่อีกเดือนหนึ่งหลังจากนี้  เวลาทำงานนอกสถานที่  คงต้องนั่งแท็กซี่ไปคนเดียว      ปัญหาคือ  ตั้งแต่เกิดมา  ยายคนเขียนยังไม่เคยนั่งแท็กซี่คนเดียวเลยสักครั้ง!!!      เอาล่ะ  เอาเป็นว่า  วันนั้นมาถึงเมื่อใด  ข้าพเจ้าจะท่องชินบัญชรเก้าจบ  พร้อมอัญเชิญและปลุกเสกพระของตัวเองทุกองค์เลยก็แล้วกัน...      3.  หนักใจ  -  ตล

เหตุผลของคนชอบเล่นเกม

     สวัสดีสัปดาห์กลางเดือนค่ะ          ในสายตาของผู้ใหญ่  ผู้ปกครอง  หรือผู้อาวุโสหลายๆท่าน  สิ่งหนึ่งที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของความเป็นเด็กดีในตัวบุตรหลานของตัวเอง  ก็คือเกม....      ต่อต้านกันเหลือเกิน  เล่นเกมทำไม  ไร้สาระ  บลาๆๆ  หรือแบบว่า  ลูกนั่งดูทีวีเป็นวันๆ  นั่งเกากีตาร์แหกปากร้องเพลงเป็นชั่วโมงๆ  ไม่มีใครว่าอะไร  พอหยิบเครื่องเกมขึ้นมาห้านาที  ตาเขียวปั๊ดเริ่มมองมาทันที      "วันๆทำแต่เรื่องไร้สาระ  หนังสือหนังหาน่ะหัดอ่านบ้าง"  ....นี่ตูเพิ่งเปิดเครื่องเองนะเฮ้ย -*-      เอาแต่มองกันจังว่าเกมให้แต่ผลร้าย  แล้วรู้รึเปล่าว่า  ทำไมเกมจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนนิยมเล่นกันอย่างเป็นสากล  เคยถามคนเล่นไหม  ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงถอนตัวจากเกมไม่ได้เสียที      ต่อไปนี้คือเหตุผลตัวอย่าง  ที่ทำให้ใครหลายคนชอบเล่นเกม     1. คลายเครียด  :  เพราะการเล่นเกมทำให้คนเราหลุดออกจากโลกของตัวเองไปสู่โลกเสมือนในตัวเกม  และในเกมบางเกมก็สามารถสร้างความบันเทิงใจให้กับผู้เล่นได้  ทำให้ยิ้ม  หัวเราะ  หรือแม้แต่ลืมเรื่องเครียดๆ  เศร้าๆ  ไปได้ชั่วขณะหนึ่ง      ...แต่ยกตัวอย่างไม่ค

แง่มุมที่น่าสนใจจากเรื่องนารีริษยา

     สวัสดีวันแม่ค่ะ      วันนี้ตอนท่องอินเตอร์เนต  เผอิญไปเจอละครที่ฟอร์มไม่ใหญ่แต่เหมือนกระแสจะดีเกินคาดเรื่องหนึ่งเข้า      "นารีริษยา"      ก็เลยเข้าไปอ่านเรื่องย่อ  เอ้อ  นางเอกสองคน  คนหนึ่งร้ายตอนแล้วเปลี่ยนมาดีประมาณกลางๆเรื่อง  ส่วนอีกคนดีตอนต้นแล้วก็ร้ายมาตลอดเรื่อง  แล้วเหมือนจะสำนึกตอนท้ายสุด      ...แต่ก็ยังอุตส่าห์มีคู่กับเขา(คู่หน้าตาดีอีกตะหาก)      เหย  เนื้อเรื่องดูแหวกแนวแฮะ  เลยลองเข้าไปดูบางตอน      ...นี่ก็โรคจิต  แทนที่จะดูทุกตอน  ไม่  อ่านเรื่องย่อ  ขอดู(ตัวอย่าง)บางตอน  แล้วข้ามไปดูตอนจบเลย      แล้วก็ไปเจอบางช่วงที่น่าประทับใจของเรื่องนี้เข้า      ไม่ได้ประทับใจฉากสลับพฤติกรรมหรอกหนา  แต่ประทับใจความเป็นไประหว่างตัวละครสองคน  ชายหนึ่ง  หญิงหนึ่ง  ตะหากล่ะ      ตามเนื้อเรื่อง  ตอนแรกๆนั้นคู่นี้ไม่ได้สัมพันธ์กันด้วยดีนักหรอก  แต่มีเหตุบางอย่างที่ทำให้ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่ต่างจังหวัด  จากที่ไม่ค่อยได้คุยจึงเริ่มได้คุย  เริ่มสนิทและเห็นใจกันในที่สุด      ...ดูแล้วสรุปได้ว่าที่สุดแล้วก็รักกัน  เพียงแต่ไม่ได้คู่กัน      ค่ะ  

ศัพท์ ศัพท์ ศัพท์

   คือ  วันอาทิตย์จะสอบภาษาอังกฤษ  เลยท่องเวบฝึกภาษาอังกฤษไปเรื่อย  แล้วไปเจอเอาเวบนึง  http://english-for-thais-2.blogspot.com/2015/07/501-synonym-and-antonym-words-1.html  โอ๊ยของให้ฝึกเยอะมาก  แล้วหน้าเวบ  โอ๊ยศัพท์เยอะดีจัง  แถมหลายคำที่คือ...มีคำนี้ในโลกด้วยเหรอ(วะ???)    ดังนั้น  เพื่อช่วยในการจดจำ  เราเลยจะบันทึกตัวอย่างศัพท์บางคำที่เราไม่รู้ลงในโพสต์นี้  โดยการแปลด้วยภาษาของเราเอง  และเรียงตามตัวอักษรให้  เผื่อว่าจะจำได้สัก....5คำก็ดีใจแล้วนะ  และเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์แก่คุณผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย   abject  (adj)  =  น่าสงสาร  สิ้นหวัง   =  despondant   aloof  (adj)  =  ห่างไกล(มักใช้กับความรู้สึก)   antediluvian  (adj)  =  ก่อนสมัยน้ำท่วมโลก  (ถ้าเป็นนามแปลว่า  คนหัวโบราณ)   apathy  (n)  =  การขาดความสนใจ  การขาดความกระตือรือร้น   appall  (v)  =  ทำให้ตกใจ   apportion  (v)  =  จัด  แบ่งเป็นส่วนๆ  (เป็นคำลงท้ายด้วย tion  ที่เป็นกริยานะคะ  ระวัง)   astute  (adj)  =  ที่ฉลาด  ที่เฉียบคม  =  acute   austerity (adj) =  ที่เข้มงวด  เคร่งครัด สมถะ  =  rigor  

เรื่องของคนชอบหมุนปากกา

     ชอบหมุนปากกากันไหมคะ?      เรานี่ติดการหมุนปากกาขนาดนัก  โดยเฉพาะเวลา...อ่านหนังสือ  ขนาดที่ว่าต้องเอาปากกาไว้ข้างๆตลอดเวลา..      ..ไม่ได้ไว้จด  เอาไว้หมุน  ถ้าไม่มีนี่เหมือนขาดอะไรไป..      จุดเริ่มต้นแห่งความสนใจน่าจะเริ่มขึ้นช่วงมัธยม  ซึ่งได้ยินอาจารย์ท่านหนึ่งเล่าว่า  มีเด็กพิเศษคนหนึ่งหมุนปากกาได้เก่งมาก...      ...แล้วจึงเริ่มคิด  ปากกาหมุนยังไง(วะ)      เรื่อยมาจนช่วงอยู่มหาวิทยาลัยปีสองปีสาม  เผอิญมีโอกาสเสวนากับกลุ่มเพื่อนผู้ชอบหมุนปากกา  หมอก็พูดไปเรื่อย      "เฮ่ย  มันต้องฝึกเว่ย  ต้องทุ่มเท"      ทุ่มเทขนาดไหนวะ??      "ต้องจริงจังอ่ะ  ฝึกไปเรื่อยๆ  อาจต้องยอมเสียปากกาไปเป็นด้ามๆเลย  จนกว่าจะเก่ง"      ก็เกินไป๊  ขอฝึกตามมีตามเกิดดีกว่า      เราก็หัดเองแบบตามมีตามเกิด  หมุนไปหมุนมามันจึงเป็นความเคยชินที่ต้องหมุน  เมื่อใดก็ตามที่มือถือปากกา  หรือมีปากกาอยู่ใกล้มือ  แล้วไม่ได้ใช้เขียน...      .....มันก็จะเริ่มหมุน......      หมุนจนร่วงหล่นพื้นเสียไปก็มี  แต่ส่วนใหญ่ไม่เสียหรอก  เสียหน้ามากกว่าที่หล่นแล้วทำเสียงดัง    

Pokemon Go เธอดีไม่พอ หรือฉันขอ(หวัง)มากไป

     สวัสดีค่ะ      ตอนนี้กระแส Pokemon go กำลังมาแรงมาก  ด้วยความที่ทางนินเทนโดโปรโมทมาตั้งแต่ปีที่แล้ว  แต่เพิ่งมาปล่อยให้เล่นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา      ...และยัยคนเขียนก็เล่นกับเขาด้วย  ด้วยความที่เป็นแฟนพันธ์ุแท้โปเกมอนมานานตั้งกะภาคการ์ตูน(ซาโตชิจอมกาก)  เกม(หลายภาค)  จนถึงคอมมิคสุดมัน(เร้ดผู้แสนเก่งและเยลโล่ผู้น่ารัก)      ไม่รอช้า  โหลดมาเลย      แต่ว่านะ....      ทำไมมันไม่สมใจดังที่รอคอยมาก็ไม่รู้สิ      ข้อจำกัดแรกคงเป็นที่การเล่นเกมนี้ต้องใช้ทรัพยากรรอบตัวเป็นอย่างมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนตและแบตเตอร์รี่ของโทรศัพท์มือถือ      ...ซึ่งการผลาญทรัพยากรนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่ถนัด  เพราะเป็นคนถนัดเก็บโดยกมลสันดาน...      ใช้ไปก็บ่นไป  อะไร  เดินแล้วเดินอีกไม่เจอสักที  เปลืองเนตเปลืองแบต  บ่นๆๆๆ      ...เล่นไปบ่นไป      ปกติก็จะใช้วิธี  จะเล่นค่อยเปิดเนต  ไม่เล่นก็ปิด  เพื่อประหยัดเนต  และแน่นอน  ประหยัดแบต  เว้นแต่บางครั้งที่อยากรู้ว่าตามทางที่ไปจะเจออะไรบ้างรึเปล่า  ก็จะลองเสี่ยงดวงเปิดเนตดู      ....ก็  ไม่ค่อยเจอ  แถมเจอแต่ละทีก็ตัวเดิมๆที่เคยจับได้แล้ว

โลกแห่งการทำงาน

     ขอต้อนรับเข้าสู่โลกของการทำงาน  โลกซึ่ง... 1.  คุณไม่สามารถถามว่า  "ไม่ทำได้มั้ย"  เมื่อได้รับมอบหมาย  หากมันคืองาน  และอยู่ในขอบข่ายหน้าที่  คุณถามได้แค่  "แล้วต้องทำยังไงบ้างคะ"     หรือไม่ก็...."ต้องการให้ส่งวันไหนคะ" 2.  นอกจากข้อข้างบน  คำตอบประมาณว่า  "ไม่ได้ค่ะ"  ก็ไม่เป็นที่ยอมรับเช่นกัน  เมื่อได้รับคำสั่งโดยชอบใดใด  ท่องคำนี้ไว้ให้แม่น  "ได้ค่ะ"  "เดี๋ยวจัดการให้ค่ะ"  "สักครู่นะคะ" 3.  ที่นี่ไม่ใช่มหาฯลัย  คุณไม่มีพี่เปิ้ล  พี่หมู  พี่ดา  หรือพี่อะไรก็แล้วแต่จากร้านถ่ายเอกสารมาคอยบริการ  สิ่งที่คุณมี  คืองานหนึ่งชิ้น  และเครื่องถ่ายเอกสารหนึ่งเครื่อง(ซึ่งโดยทั่วไปมักเป็นเครื่องปริ๊นและเครื่องสแกนด้วย)      โอเค  แรกๆ  อาจมีคนคอยสอนคุณว่ามันทำงานยังไง  แต่หลังจากนั้น  คุณต้องทำเอาเอง      ...อ่อ  อย่าเผลอเตะมันถ้าไม่ได้ดั่งใจล่ะ  อย่าลืมว่ามันไม่ใช่ของคุณ 4.  ตารางเวลาคือเรื่องสำคัญ  ลืมไปได้กับวิถีชีวิตแบบเรียนแปดโมงเข้าเก้าโมง(แล้วเอ็งก็ยังเอ)  หรือเรียนได้สามสิบนาทีกลับ...      คุณต้

เมื่อความซวยมาเยือน กับ คำปลอบใจ

     คำที่ปลอบกันมานมนานเวลาใครเจอเรื่องแย่ๆมักมีว่า      "เฮ้ย  ยังมีคนโชคร้ายกว่าแกเยอะนะ"      เอาเข้าจริง  เวลาความซวยมาเยือนชีวิตและความรู้สึก  จะมีสักกี่คนที่เลิกรู้สึกแย่เพราะคิดได้ว่าตัวเองไม่ใช่คนที่โชคร้ายที่สุด      จิตใจสะบักสะบอมกันไปกี่รอบแล้วล่ะ      มันก็ใช่แหละ  ว่า ณ ขณะที่ความซังกะบ๊วยมาเยือน  เราอาจพอรู้บ้างว่า  ไม่ใช่เราคนเดียวที่กะลังเหี้ยอยู่ตอนนี้      ..น่าจะมีอีกหลาย...ร้อยหลายพันคน  ที่คงประสบเคราะห์กรรมที่ต่างกันไป       ใช่  เราไม่รู้หรอกเขาเจออะไร  แต่       ...เขาก็ไม่รู้เหมือนกันนี่  ว่าเรารู้สึกแย่ขนาดไหนในตอนนี้      การที่เราไม่ใช่คนที่โชคร้ายที่สุด  ไม่ได้แปลว่าเราไม่มีสิทธิเศร้าใจ  เสียความรู้สึก  หรือรู้สึกผิดซักกะหน่อย      ใช่มั้ย??      เลิกปลอบด้วยวิธีนี้เถอะ  มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย  จริงๆ      ว่าแต่...แล้วจะปลอบว่าอะไรดีล่ะ      "เอาน่า  คิดเสียว่าฟาดเคราะห์"      เออ  คำนี้เข้าท่านะ  คิดดูดิ  วันดีคืนดี  ไอ้เรื่องประเภท..      ...จู่ๆก็เหมือนจะเป็นสาเหตุของความเลวร้ายจนต้องรู้สึก

คน(อยาก)ธรรมดา

     ในสังคมที่คนทั่วไปแข่งกันเด่น  แข่งกันประชันความงาม  เชื่อไหมล่ะว่า  ผู้หญิงแบบนี้ยังมีอยู่จริงในโลก...      ในโลกนี้ยังมีผู้หญิงบางคน  ที่จริงๆแล้ว  เธอก็รู้นะ  ว่าเธอสวย  แต่เธอกลับไม่ใคร่ใส่ใจที่จะแสดงสิ่งที่ตนมีออกมา  ตรงกันข้าม  เธอกลับพยายามทำตัวให้ธรรมดาที่สุด  หรือสุดกว่านั้นคือ  เธอพยายามทำให้ตัวเองดูขี้เหร่ไปเลย      ...แถมยังพอใจกับความขี้เหร่ที่ตนเองปรุงแต่งขึ้นมาอย่างมากเสียด้วย      หากจะถามว่าทำไมผู้หญิงบางคนจึงพอใจที่จะทำตัวธรรมดาๆ  แทนที่จะอวดความสะสวยของตัวเอง  เหตุผลที่เป็นไปได้ก็มี 1.  เธอไม่เห็นความสำคัญของการทำตัวสวย  :  บางครั้ง  หรืออาจจะหลายครั้งที่สาวๆเหล่านี้ได้ยินคำแนะนำว่า  ถ้าอยากจะสวยก่อนออกจากบ้านให้ตื่นสักตีสี่  อาบน้ำทำผม  เจ็ดโมงก่อนออกจากบ้านก็สวยเสร็จพอดี      ตีสี่!!!  โหย  มันห่างจากหกโมง(เวลาตื่น)ตั้งสองชั่วโมงเชียวนะ  ฝันได้ตั้งหลายเรื่อง  จะตื่นทำไมเนี่ย??     ยิ่งถ้าใครดูบอลจนตีหนึ่ง  แล้วยังจะต้องแหกตาตื่นมาเพื่อทำอะไรแบบนี้ซึ่งไม่เห็นจะได้ประโยชน์เลยเนี่ยนะ     ....ขอเถอะ  ขอผ่าน      แล้วก็ไอ้คำแนะนำประเภทว่า  เนี่ย