เรื่องของคนชอบหมุนปากกา




     ชอบหมุนปากกากันไหมคะ?


     เรานี่ติดการหมุนปากกาขนาดนัก  โดยเฉพาะเวลา...อ่านหนังสือ  ขนาดที่ว่าต้องเอาปากกาไว้ข้างๆตลอดเวลา..
     ..ไม่ได้ไว้จด  เอาไว้หมุน  ถ้าไม่มีนี่เหมือนขาดอะไรไป..



     จุดเริ่มต้นแห่งความสนใจน่าจะเริ่มขึ้นช่วงมัธยม  ซึ่งได้ยินอาจารย์ท่านหนึ่งเล่าว่า  มีเด็กพิเศษคนหนึ่งหมุนปากกาได้เก่งมาก...

     ...แล้วจึงเริ่มคิด  ปากกาหมุนยังไง(วะ)


     เรื่อยมาจนช่วงอยู่มหาวิทยาลัยปีสองปีสาม  เผอิญมีโอกาสเสวนากับกลุ่มเพื่อนผู้ชอบหมุนปากกา  หมอก็พูดไปเรื่อย

     "เฮ่ย  มันต้องฝึกเว่ย  ต้องทุ่มเท"

     ทุ่มเทขนาดไหนวะ??

     "ต้องจริงจังอ่ะ  ฝึกไปเรื่อยๆ  อาจต้องยอมเสียปากกาไปเป็นด้ามๆเลย  จนกว่าจะเก่ง"

     ก็เกินไป๊  ขอฝึกตามมีตามเกิดดีกว่า


     เราก็หัดเองแบบตามมีตามเกิด  หมุนไปหมุนมามันจึงเป็นความเคยชินที่ต้องหมุน  เมื่อใดก็ตามที่มือถือปากกา  หรือมีปากกาอยู่ใกล้มือ  แล้วไม่ได้ใช้เขียน...
     .....มันก็จะเริ่มหมุน......

     หมุนจนร่วงหล่นพื้นเสียไปก็มี  แต่ส่วนใหญ่ไม่เสียหรอก  เสียหน้ามากกว่าที่หล่นแล้วทำเสียงดัง
     ........แต่ก็ไม่หยุดหมุนนะ  ;p



     แล้วเราก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆจนไปเรียนเนติฯ  นั่งเรียนอยู่กับเพื่อน  แล้วก็หมุนปากกาไปด้วย

     เพื่อน  :  "เฮ้ยๆๆ  แก  เราก็หมุนได้"  ว่าแล้วเธอก็หมุนโชว์บ้าง  แต่มันพิเศษกว่าตรงที่

     เธอหมุนไปแล้วหมุนกลับได้!!  ในขณะที่เราหมุนไปอย่างเดียว  กลับไม่ได้


     แล้วเพื่อนสาวสองคนก็มานั่งหมุนปากกาเทียบกัน  และพยายามลองหมุนในแบบของอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อจะพบว่า
     ......ทักษะนี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนการเรียนรู้กันได้โดยง่าย

     เพื่อนหมุนแบบเราไม่ได้  และเราเองก็ไม่สามารถหมุนแบบเพื่อนได้เช่นกัน

     "เราอาจชินกับแบบของตัวเองแล้ว  จึงไม่สามารถหมุนในแบบของอีกคนได้ก็เป็นได้"  เพื่อนสรุปสั้นๆ
     ......."แต่หมุนแบบแกเท่ห์ดีนะ"  หล่อนทิ้งท้าย



     แต่ถึงกระนั้น  เราก็ไม่ได้ละความพยายาม  เราทำถึงขนาดให้มือซ้าย(ซึ่งปกติไม่ได้จับปากกาเขียนหนังสือ)  ฝึกหมุนปากกาด้วย  เผื่อว่าหมุนคนละมือจะสามารถหมุนคนละแบบได้
     ...และผลที่ได้คือ

     เราหมุนปากกาได้สองมือ  แต่หมุนได้แบบเดียวกันทั้งสองมือ
     ......ให้หมุนพร้อมกันก็ได้นะ  แต่ไม่รับรองความยืนยาวในการอยู่บนนิ้ว  555
     ...แต่  เพื่อความยืนยงและยาวนาน  หมุนทีละมือจะดีกว่า  -_-


     งั้น  ลองใหม่  เราลองหมุนในลักษณะต่างออกไปบ้าง  เผื่อว่าเราจะสามารถหมุนไปหมุนกลับได้  แต่จนแล้วจนรอด  เราก็ยังไม่สามารถหมุนไปหมุนกลับได้อยู่ดี

     การหมุนลักษณะที่ต่างไปส่งผลแค่ทำให้เราหมุนท่าใหม่ๆได้  แต่มันก็ยังไม่กลับ!!!

     แค่หมุนครบรอบหรือเกินรอบแล้วรับได้  แค่นั้น...

     ....คงถึงเวลาต้องยอมรับความจริงสินะ....


     แม้จะหมุนได้แค่แบบเดียว  เรายังคงสนุกกับการหมุนปากกาไปเรื่อยๆ  โดยเฉพาะเมื่อมืออยู่ว่างๆและมีปากกาวางอยู่ใกล้ๆ
     มันเพลินดี..



     แต่ความสนุกของการหมุนปากกาไม่ได้มีแค่การได้หมุนปากกาหรอก  ความสนุกมันอยู่ที่ปฏิกิริยาของคนรอบข้างที่มีต่อการหมุนปากกาของเราด้วย

     กลับมาที่การเรียนเนติฯ  หลังจากที่เราและเพื่อนเรียนไปหมุนปากกาไปเรื่อยๆสักระยะ  เราทั้งคู่พบว่า
เพื่อนข้างๆซึ่งหมุนปากกาไม่ได้  เริ่มพยายามหัดหมุนปากกาดูบ้าง...

     เห็นแล้วก็อดยิ้ม  อดแซวไม่ได้


     หลังจากจบเนติฯ  เราไปเรียนปริญญาโทต่อ  และยังทำพฤติกรรมเดิม  หมุนปากกาทุกครั้งที่สะดวก  ผลคือ

     เพื่อนข้างๆเริ่มหัดหมุนปากกาบ้าง  บางคนมองเราแล้วก็เริ่มแสดงความสามารถในการหมุนปากกาเช่นกัน  ที่ตลกกว่านั้น

     ...คือเพื่อนคนหนึ่งเข้ามาถาม(พร้อมปากกาในมือ)ว่า  "ช่วยสอนหมุนปากกาหน่อยได้มั้ย"


    โอ๊ย  อย่างกะโรคติดต่อ  555



     ทุกวันนี้เราก็ยังคงดำรงชีวิตอยู่ด้วยการมีปากกาอยู่ข้างๆมือทุกครั้งที่ทำได้  แม้แต่เวลาอ่านหนังสือ  เช่นตอนนี้  พอเขียนถึงการหมุนปากกาสักพักแล้วไม่รู้จะเขียนอะไรต่อ  เราก็หยิบปากกาขึ้นมาหมุน..เล่น  แก้เซ็ง  ไปวันๆ

    หมุนๆๆ  ร่วง  เก็บ  หมุนๆๆ  รับได้  ทำตัวเท่ห์นิดนึง  หมุนต่อ หล่น  เก็บ  หมุนๆ  หยุด

    วนอยู่แบบนี้  ^^'


     มันคงเกินคำว่านิสัย  บางที  มันอาจทะลุไปเป็นสันดานแล้ว  แต่มันก็....เพลินดี  และมันก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน
     ....เว้นแต่ตอนปากการ่วงเสียงดังกระมัง....


     ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้วแฮะ...


     ไปหมุนปากกาก่อนนะคะ  สวัสดีค่ะ  555

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ