เมื่อความซวยมาเยือน กับ คำปลอบใจ
คำที่ปลอบกันมานมนานเวลาใครเจอเรื่องแย่ๆมักมีว่า
"เฮ้ย ยังมีคนโชคร้ายกว่าแกเยอะนะ"
เอาเข้าจริง เวลาความซวยมาเยือนชีวิตและความรู้สึก จะมีสักกี่คนที่เลิกรู้สึกแย่เพราะคิดได้ว่าตัวเองไม่ใช่คนที่โชคร้ายที่สุด
จิตใจสะบักสะบอมกันไปกี่รอบแล้วล่ะ
มันก็ใช่แหละ ว่า ณ ขณะที่ความซังกะบ๊วยมาเยือน เราอาจพอรู้บ้างว่า ไม่ใช่เราคนเดียวที่กะลังเหี้ยอยู่ตอนนี้
..น่าจะมีอีกหลาย...ร้อยหลายพันคน ที่คงประสบเคราะห์กรรมที่ต่างกันไป
ใช่ เราไม่รู้หรอกเขาเจออะไร แต่
...เขาก็ไม่รู้เหมือนกันนี่ ว่าเรารู้สึกแย่ขนาดไหนในตอนนี้
การที่เราไม่ใช่คนที่โชคร้ายที่สุด ไม่ได้แปลว่าเราไม่มีสิทธิเศร้าใจ เสียความรู้สึก หรือรู้สึกผิดซักกะหน่อย
ใช่มั้ย??
เลิกปลอบด้วยวิธีนี้เถอะ มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลย จริงๆ
ว่าแต่...แล้วจะปลอบว่าอะไรดีล่ะ
"เอาน่า คิดเสียว่าฟาดเคราะห์"
เออ คำนี้เข้าท่านะ คิดดูดิ วันดีคืนดี ไอ้เรื่องประเภท..
...จู่ๆก็เหมือนจะเป็นสาเหตุของความเลวร้ายจนต้องรู้สึกผิด
....ถ้าให้ซวยกว่านั้นคือดันมีคนถ่ายคลิปไปช่วยประจานอีก
หรืออยู่ดีดี ปัญหาก็วิ่งมาชนโครมแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่
...หาคนช่วยไม่ได้อีกตะหาก เอาให้เหมาะ
หรือ..ไหงกลายเป็นแพะรับบาปของเรื่องบางเรื่องไปได้
...กูไม่ได้ทำโว้ยยย แค่อยู่ผิดที่ผิดเวลา
fineeee(กรุณาอ่านและแปลแบบไทยๆ) คือ มันจะเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่...
เคราะห์กรรมนำพา
ฟาดเคราะห์จริงๆเลยตรู
"เดี๋ยวมันก็ผ่านไป"
เออ คำนี้ก็เข้าท่านะ แม้จะดูเหมือนเป็นคำปลอบอันเป็นผลต่อเนื่องจากข้างบนก็ตามที...
คือ ขอวาร์ปไปช่วงที่ผ่านไปแล้วเลยได้มั้ย
แบบว่า...รีบ
อะไรอีกดี คิดไม่ออกละ แต่...เอาเป็นว่า แต่นี้ต่อไปคงเลิกยึดคำประมาณว่า "ไม่ใช่คนที่แย่ที่สุดไม่เห็นต้องเครียด" เป็นคำปลอบใจแล้วล่ะ
เพราะเจอกับตัวแล้วประจักษ์ว่า นอกจากแม่งจะไม่ช่วยอะไรแล้ว..
ยังวอนถูกประทุษร้ายจากคนโชคร้ายที่ฟังอยู่อีกตะหาก
เฮ้ออออ T_T
สวัสดี
ปล. สำหรับคนโชคดีบางคนที่มีอ้อมแขนและสายตาที่ห่วงใยเป็นของตัวเอง บางที...คำปลอบใจอาจไม่จำเป็นก็ได้
มั้ง.....นะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น