บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2017

ได้ทั้งนั้น

     เคยฟังเพลง "ได้ทั้งนั้น" มั้ยคะ      เพลงนี้เป็นผลงานการแต่งของคุณแสตมป์ อภิวัชร์ และขับร้องโดยวง เฟย์-ฟาง-แก้ว (FFK)      ใจความในเพลงคร่าวๆคือ  คนร้องยินดีจะเป็นทุกอย่างเพื่อความสุขของคนที่ตัวเองรัก      โอ้....โห....ซึ้ง      เผอิญเมื่อวาน  เราอารมณ์เสียเนื่องจากเล่นเกมไม่ผ่านสักที  พอสงบอารมณ์สักพัก  จู่ๆ  เราก็ฮัมเพลงนี้ออกมา      ฮัมเนื้อไปแล้วคิดตาม  ชักเริ่มตั้งคำถามว่า      "ทำไมเราไม่มีใครมาทำแบบเพลงนี้ให้บ้าง..."      แต่ก่อนที่ความสงสารตัวเองจะทำหน้าที่ของมัน  จู่ๆก็มีเสียงหนึ่ง  ดังก้องอยู่ในหัว       "ก็เป็นให้ตัวเองซะสิ"       เอออออ  พูดจามีประเด็น      แล้วเลยลองเอาเนื้อเพลงแต่ละท่อนมาลองจับว่า  เราสามารถเป็นแบบนี้ให้ตัวเองตามเพลงได้หรือไม่  นี่คือผล      " เธอต้องการใครสักคนใช่ไหม....ดูแลแต่เธอทุกๆวัน " (เ...

introvert ในโลกกว้าง

     เกิดเป็น introvert นี่มันลำบากนะ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ในโลกที่มีแต่ extrovert เต็มไปหมดแบบนี้      พวก extrovert ชอบงานสังสรรค์รื่นเริง  พอถึงเทศกาลสำคัญๆ  พวกนี้ก็มาบีบบังคับเราว่า  ต้องอยู่ร่วมงานนะ  ไม่งั้นถือว่ากระด้างกระเดื่อง  ไม่มีมารยาท  ยิ่งเด็กใหม่ๆในที่ทำงานนี่  โอ๊ยยยย  อะไรนักหนา      ไม่เห็นใจคนไม่ชอบเข้าสังคมก็ช่วยเห็นใจคนบ้านไกลนิดหนึ่งไม่ได้เหรอ      แอบบ่น  คือ  เอาอะไรมาวัดว่าการร่วมกิจกรรมพวกนี้คือคุณลักษณะที่พึงประสงค์อ่ะ  อีกะแค่อยู่แปบเดียว  มันเทียบเท่าการตั้งใจทำงานเป็นวันๆได้จริงๆน่ะเหรอ???      พวก extrovert ชอบไปไหนกันเป็นกลุ่มๆ  แล้วพอเรารู้สึกว่าคนมันเยอะไป  แถมบางครั้งไปตั้งไกล  ให้เราเดินตามไปอีกงี้      แล้วพอเราไปคนเดียว  ก็มาเขม่นเราอีก  เอ๊าาาา  อะไร  คนเราก็ออกมาจากท้องพ่อท้องแม่คนเดียว  ทำไมจะไปคนเดียวไม่ได้ล่ะ      บา...

หูที่หายไป

    เราเป็นคนที่มีชีวิตอยู่โดยไม่ค่อยมีคนรับฟัง       ตั้งแต่เล็กๆ  ด้วยความที่เราเป็นคนที่เด็กที่สุดในบ้าน  นั่นทำให้ทุกคนรู้สึกว่า  ในการสนทนานั้น  หน้าที่หลักของเรา      ...คือฟัง...      ดีที่สุดที่เรามี  คือคนที่ปล่อยให้เราพูดไปเรื่อยๆจนพอใจ  แล้วค่อยนำสิ่งที่เราพูดมาหาว่ามีอะไรควรจะหาวิธีแก้ปัญหาบ้าง  หรือไม่ก็เล่าเรื่องตัวเองที่คล้ายๆกับเราให้ฟัง  (ที่ใครบอกว่าเวลาผู้ชายฟังปัญหา  เขาจะพยายามหาวิธีแก้ปัญหา  ข้าพเจ้าพิสูจน์แล้วว่า...เป็นความจริง)      บางทีก็ฟังเพลินๆไป  แต่เวลาที่เครียดมากๆ  บางครั้ง  เราก็อยากแค่ระบาย  ไม่ได้อยากฟัง      แย่ลงมาอีกหน่อยคือฟังเราพูดเหมือนกัน  แต่ฟังแล้วเอาไปป่าวประกาศต่อ      ....ถือเป็นการทรยศต่อความไว้ใจอย่างหนึ่ง  ต่อแต่นั้นจึงไม่ได้เล่าอะไรมาก  เว้นแต่มีวัตถุประสงค์เคลือบแฝง...      แย่กว่าคือฟังเราอยู่ประมาณสองสามประโยค  แล...

มันถูกกำหนดไว้แล้ว

     ตอนขึ้นปีสอง  เราได้ทำบ้านรับน้องปีหนึ่งที่มหาวิทยาลัย  ซึ่งในตอนแรกนั้น  เรารับหน้าที่เป็นฝ่ายทะเบียน  ที่คอยประจำอยู่ซุ้มหน้ามหาวิทยาลัย  ไม่ต้องปะหน้าปะตาน้องๆ  โดยมีเงื่อนไขว่าต้องไปถึงมหาวิทยาลัยตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อเตรียมระบบลงทะเบียน      .......ซึ่งเป็นเจตนารมย์ของข้าพเจ้าเองที่ไม่ต้องการพบหน้าผู้คน      แต่แล้ว  เมื่อวันงานมาถึง      เราตื่นขึ้นเมื่อตอนเจ็ดโมงเช้าและพบว่า  โทรศัพท์ของตัวเองมีสายไม่ได้รับนับครั้งไม่ถ้วน      .............เพื่อนโทรตามว่าทำไมไม่มาสักที................      ท้ายที่สุด  นางคนเขียนเลยต้องประจำอยู่ฐานรับน้อง  มีหน้าที่ดูแลเทคแคร์น้องๆไปตามระเบียบ...      และด้วยความที่คุยไม่เก่ง  นี่ก็ไม่ค่อยจะคลิกกับใครเขาเล้ยยยย  จนกระทั่ง      ช่วงเที่ยง........เราไปนั่งกินข้าวหันหน้าชนกับน้องคนหนึ่ง  น้องคนนั้นแนะนำตัว  และบอกว่าอยู่คณะๆหนึ่ง  ซึ่งอยู่ใกล้ก...

เส้นเจอคนถูกใจ

    เวลาดูลายมือ  คำถามท็อปฮิตที่สุดอย่างหนึ่งที่คนจะถามกันคือ...      "เมื่อไหร่จะเจอเนื้อคู่"      ซึ่งไม่สามารถตอบไปว่า  "ไม่รู้สิ  แม่หมอก็ยังไม่เจอเลย"  ได้      เพราะนอกจากลูกค้าจะหายหมดแล้ว  เผลอๆยังอาจโดนลูกค้าตะบันหน้าเอาได้      แต่  ไม่เป็นไร  เราได้รับการสอนมาแล้ว  ว่าจะดูว่าจะเจอคนถูกใจช่วงนี้หรือเปล่านั้น  ต้องดูเส้นไหน     มันคือเส้นที่ลากจากเนินจันทร์  ซึ่งคือพื้นที่บริเวณใต้นิ้วก้อยและเส้นจิต(เส้นแนวนอนยาวๆที่อยู่ใกล้นิ้วก้อยมากสุด) ไปชนกับเส้นวาสนา(เส้นแนวตั้งที่อยู่ประมาณกึ่งกลางฝ่ามือ)          หลักคือ  ต้องลากไปชนเท่านั้น  จึงมีแนวโน้มที่จะเจอ ...ถ้ายังไม่ถึง  แปลว่ายังไม่เจอ ...ส่วนถ้าตัดผ่านเส้นวาสนาไปแล้ว  แปลว่าผ่านไปแล้ว      ไม่น่าเชื่อว่าเส้นๆเดียวเนี่ย  หากินได้หลายงาน  และทำให้แต่ละคนเพ่งดูมือตัวเองกันอย่างเอาจริงเอาจัง ....ที่เส้นยังไม่ชนก็ง้...

หวัดกับความรัก

    หากความรักจะเหมือนโรคภัยไข้เจ็บสักอย่าง  มันคงจะเหมือนโรคหวัด      ...แทบไม่มีใครไม่เคยเป็นหวัด      ...หวัดชอบย่องมาหาเราในยามที่ร่างกายหรือจิตใจอ่อนแอ  รู้ตัวอีกที  ก็เป็นหวัดไปแล้ว       ...ไม่ถึงกับตาย  และหายได้เอง  เว้นแต่เจอเชื้อรุนแรง  หรือมีโรคแทรกซ้อน       ที่สำคัญ      ... ไม่ว่าจะเป็นหวัดมากี่ครั้ง  ดูเหมือนจะไม่มีภูมิคุ้มกันหวัดดีขึ้นมาสักที  ยังคงกลับไปเป็นหวัดได้อยู่เรื่อย       ...ความรุนแรงของเชื้อก็ไม่เท่ากัน  ขึ้นอยู่กับว่า  ไปติดเชื้อตัวไหนมา       หวัดแย่กว่าความรักตรงที่  เราไม่สามารถปิดใครเวลาที่เราเป็นหวัดได้  เพราะอาการมันจะแสดงออกมา      แต่หวัดก็ดีกว่าความรักตรงที่  มันหายได้เองโดยไม่ยุ่งยากวุ่นวายอะไร      ..........ไม่เจ็บตัว  และไม่เจ็บใจ  เท่าใดนัก       เบื่อจังเวลาเป็นหวัด...

วิถีเกมเมอร์

     กับเรื่องที่คนไม่เล่นเกมอาจไม่เข้าใจ      1. วงจรการเล่นเกม      เจอเกมที่อยากเล่น >>>> หามาเล่น >>>> เล่นจนจบ/สาแก่ใจ >>>> เลิกเล่น/ลบไป      เกมไหนที่เล่นแล้วยังเก็บไว้เล่นอีก  มันต้องสนุกมากหรือพิเศษมาก  ถามว่ามีไหม  มี  แต่ไม่เยอะหรอก      2. เล่นเกมเสียสตางค์/เวลา/สายตา  แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าติดยาละกัน      3. อาจารย์บอกว่าให้หาเวลาเล่นกีฬาเสียบ้าง      อาจารย์คะ  ตอนนี้เกมถือเป็น e-sport แล้วนะคะ  /  หลบหมัด      4. สิ่งที่ผู้ชายไม่เล่นเกม กับ ผู้หญิงเล่นเกม โดนเหมือนกัน  คือโดนมองด้วยสายตาแปลกๆ      เกมเมอร์ไม่มีเพศค่ะ  มีแต่เล่นกะไม่เล่น      จบมะ!?!      5. นั่งมองยอดเงินในเกมแล้วรู้สึกว่า  ถ้าเอามาใช้ในโลกแห่งความเป็นจริงได้      รับรองรวยเละ!!!      6. ที่เห็นเ...

หน้าที่ของระยะทาง

     ระยะทางมีประโยชน์อย่างไรบ้าง?      เอาไว้วัด!      ผิด  เอ๊ย  ไม่ผิด  แต่ก็ไม่ถูกนัก  ไม่ถูกต้องตามที่ใจคิด      ถ้าจะกล่าวกันในทางนามธรรมอันมีผลกระทบต่อจิตใจแล้วเนี่ย  เราว่า  ระยะทางมันก็มีประโยชน์ดังต่อไปนี้      1. เป็นเครื่องทดสอบความผูกพัน      ถ้าเลือกได้  คงไม่มีใครอยากอยู่ห่างจากคนที่เรารัก  ไม่ว่าจะเป็นแฟน  เพื่อน  หรือครอบครัวก็ตาม  แต่ความเป็นจริง  ชีวิตก็ไม่สามารถเลือกได้ดังใจเสมอไป  ดังนั้น  การต้องอยู่ห่างไกลคนที่ห่วงใยจึงเกิดขึ้นได้เสมอในชีวิต      แล้วสถานะไหนจะถูกระยะทางทดสอบมากที่สุด      เราว่า..........แฟน       คือสถานะอื่นมันดูเป็นสถานะที่มั่นคงในตัวของมันเองอยู่แล้วป่ะ  ยิ่งสายเลือดนี่ไม่ต้องพูดถึง  ตัดให้ขาดคงจะยาก      ส่วนเพื่อน  ถ้าไม่ทะเลาะกันให้ตายไปข้างนึง  มึนตึงใส่กัน  หรือทรยศกัน...

ว่าด้วยเรื่องการคุยกัน

          (เรื่องนี้เขียนขึ้นเนื่องจากคนเขียนคิดงานไม่ออก  อย่าไปหวังสาระอะไรมากนัก)      คนเราจะมาคุยกันได้นั้นน่าจะมีสาเหตุจากอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง  นั่นคือ       "มีเรื่องให้คุย"  และ  "อยากจะคุย"      มาว่ากันทีละข้อ      "มีเรื่องให้คุย"       การคุยกันที่เย็นชาและห้วนที่สุด  นั่นคือการคุยกันที่  เราไม่ได้อยากจะคุยกับอีกฝ่ายเลย  แต่เรามีเรื่องจำเป็นที่ต้องติดต่อ  สื่อสาร  หรือไปรบกวนเขา       ถ้าเป็นการคุยต่อหน้า  เราคงจะมองเขาจากที่ไกลๆ  ถอนใจหนึ่งเฮือก  สูดลมหายใจลึกๆ  แล้วเดินเข้าไปคุย      ถ้าเป็นการคุยผ่านตัวอักษร  เราคงเลื่อนหน้าจอไปยังชื่ออีกฝ่าย  ชั่งใจอยู่แวบนึงว่า  คุยดี...ไม่คุยดีว้า  สุดท้ายก็  เอาวะ  แล้วทักไป      แล้วโดยทั่วไป  หากอีกฝ่ายไม่ค่อยยินดีที่จะคุยกับเราเหมือนกัน  มันก...

แค่อยากเล่า : ปาร์ตี้แฟนซี

รูปภาพ
     เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา  ที่ทำงานเราจัดงานเลี้ยงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ทุกคนจะย้ายไปราชการต่างที่กัน  และธีมการแต่งตัวของการจัดงานคือ  "อะไรก็ได้แฟนซี"      ตอนแรกกุมขมับมาก  ไม่รู้จะแต่งอะไรดี  คิดไปคิดมา  งั้นแต่งเป็นแม่หมอดีกว่า  ทำตัวเซอร์ๆปนยิปซีติดอยู่ตรงที่.......แม่บอกว่า  เพื่อให้เข้ากันต้องแต่งหน้าเข้มๆหน่อย      .....เวรละ  แต่งหน้าไม่เป็น -_-'      แต่แล้วจู่ๆก็เกิดดวงตาเห็นธรรม  เอ๊ย  ไม่ใช่  เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า  เราน่าจะหาอะไรสักอย่างที่เรามีอยู่แล้ว  จะได้ไม่ต้องไปเดินซื้อให้เสียเวลา      แล้วคำว่า  "โปเกมอนเทรนเนอร์"  ก็แวบขึ้นมาในหัว      ปัญหาต่อไป  แล้วจะแต่งเป็นตัวละครตัวไหนล่ะ??      ตอนแรกตั้งใจว่าจะแต่งเป็นซาโตชิ  แต่คิดๆไป.....       เราไม่ได้อยากเป็นตัวละครตัวใดในเรื่องสักหน่อย  เราแค่อยากยัดตัวเองเข้าไป...

เขาไม่รักเรา

     (บทความนี้ไม่ใช่บทความอกหัก รักคุด แต่เป็นแนวคิดที่เราใช้เตือนตัวเองเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง)      เวลาพบเจอหรือปะทะสัมพันธ์อะไรกับใคร  เรามักตั้งธงในใจไว้ก่อนเลยว่า      "เขาไม่รักเรา"      เพราะเรารู้สึกว่า  การตั้งธงแบบนี้มันดีกว่าในการวางตัว  ดังนี้      1. เราจะระวังตัว      ถ้าพบเจอกันใหม่ๆ  แล้วเราเหมารวมไปเลยว่าทุกคนชอบเราหมดเนี่ย  เราจะลดมาตรการป้องกันตัวเองลง  ยิ่งถ้าเราเป็นคนคุยเก่งอยู่แล้วเป็นทุนเดิมเนี่ย  มันมีโอกาสสูงมากที่เราจะหลุดปากบอกอะไรออกไป      .........อันอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง  หากอีกฝ่ายเขาประสงค์ร้ายต่อเรา  แล้วเอาสิ่งที่เราพูดไปใช้สร้างความเดือดร้อนแก่เรา      แต่ถ้าเราคิดไปก่อนแล้วว่า  "เขาไม่รักเรา"  เราจะเริ่มรู้สึกว่าไม่อยากเล่าอะไรมากไปกว่าที่จำเป็น  เพราะเขาไม่รักไง  เล่าเรื่องตัวเองไปเขาก็ไม่สนใจหรอก      หรือถ้ามองโลกใ...

(ควร)สอน(ไว้) ให้ใช้เป็น

     (หมายเหตุ  บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวจากมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น ต้องขออภัยหากจะไปกระทบต่อบุคคลอื่น หรือทำให้บุคคลอื่นไม่เห็นด้วย)      ถ้าใครได้ดูข่าวบันเทิงวันนี้  เชื่อว่าคงจะเจอข่าวว่านักร้องรุ่นใหญ่คนหนึ่งหัวใจวายตายกลางเวทีขณะกำลังร้องเพลงอยู่      เราก็เห็น  แต่ตอนแรกยังไม่ได้อะไรกับข่าวนั้นมาก      จนกระทั่งช่วงบ่าย  แม่เล่าให้ฟังว่า  ผู้ตายล้มลงไปกลางเวที  เพื่อนคิดว่าหลับ  พอรู้ว่าไม่ใช่จึงตะโกนให้เรียกรถพยาบาล      "เขาบอกว่า  ถ้าปั๊มหัวใจตั้งแต่แรกเลย  คือสี่นาทีแรกที่เกิดเหตุการณ์  ผู้ตายอาจจะไม่ตายก็ได้"      หากเป็นแบบนั้นก็น่าสงสาร  ทั้งที่มีโอกาสรอดแท้ๆ..      "น่าจะมีการสอนอะไรแบบนี้ในโรงเรียนบ้างนะ"  แม่เปรยขึ้น     "โรงเรียนส่วนใหญ่เคยสอนอะไรที่ใช้ได้ในชีวิตจริงด้วยเหรอ?"  นั่นคือคำที่เราหลุดปากออกไป      ยิ่งมาคิดดูแล้ว  ก็ยิ่งรู้สึกว่าใช่...

ชีวิตกับผีเสื้อ

     ถ้าชีวิตเปรียบดังผีเสื้อ  ปัญหาคงไม่ต่างอะไรกับช่วงเวลาที่เป็นดักแด้      คนทั่วไปน่าจะเคยเห็น  เคยอ่าน  หรือรู้จักผีเสื้อกันมาบ้างไม่มากก็น้อย      ผีเสื้อเป็นสัตว์ในไฟลัมแอนโทรโพดา คลาสอินเซคตา  เป็นสัตว์ลำตัวเป็นข้อปล้องซึ่งไม่มีกระดูกสันหลัง      ผีเสื้อมีวงจรชีวิตที่น่าสนใจ  เมื่อเริ่มต้นแห่งชีวิต  มันจะเป็นหนอนตัวเล็กๆที่กัดกินใบไม้ไปเรื่อยๆ  จนกระทั่งถึงเวลา  เจ้าหนอนตัวจ้อยจะพ่นใยออกมาคลุมตัวเองแล้วกลายเป็นดักแด้  และเมื่อเป็นดักแด้ไปสักพัก  หนอนตัวน่าเกลียดน่าชังก็จะออกมาจากดักแด้      และกลายมาเป็นผีเสื้อแสนสวย      แต่ช่วงเวลาเป็นดักแด้นี้เป็นช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายของผีเสื้อ  เพราะเป็นช่วงซึ่งมันต้องอยู่นิ่งๆ  เคลื่อนไหวตัวเองไม่ได้  จึงง่ายที่จะถูกทำร้าย  เช่น  ดักแด้บางตัวที่ไม่สามารถเป็นผีเสื้อได้เพราะถูกพวกต่อแตนฆ่าตายเพื่อใช้เป็นแหล่งอาหารของตัวอ่อนของตัวเอง      แต่ถึงก...

Beauty ? no no

     เป็นคนไม่ค่อยอยากสวย      เอ้า  จริงๆนะ  ไม่ได้ล้อเล่น  ไม่ได้เพี้ยน  และไม่ได้องุ่นเปรี้ยวด้วย      ไม่ค่อยอยากสวยเรี่ยราดไปทั่ว  จริงๆนะ      ทำไมน่ะเหรอ      ประการแรก  ความสวยมักเป็นจุดรวมสายตา      ใครๆก็ชอบมองสิ่งสวยงามและคนรูปงามกันทั้งนั้นแหละ  ยิ่งในสตรีเพศนี่  อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย  ผู้หญิงด้วยกันเองก็มอง      แต่ถึงแม้การมีหน้าตาสะดุดตาจะดึงดูดทุกสายตาได้เหมือนๆกัน  แต่เราไม่อาจรู้ได้เลยว่า  ในสายตาที่มองมาพร้อมๆกันน่ะ  มีเจตนาในทางบวกเหมือนๆกันหรือเปล่า      คนบางคนอาจมองมาที่เราหากเราสวยด้วยสายตาที่ชื่นชมในความสวย  ในขณะที่บางคนมองมา      .......ด้วยสายตาแทะโลมที่อยากจะมองให้ทะลุเข้าไปถึงในเสื้อ!........      ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำตัวเป็นอาหารตาให้พวกโรคจิตเอาไปจินตนาการเล่น  ดังนั้นแล้ว  ก็ตัดไฟแต่ต้นลม  ทำตัวไม่สว...

Gifted or cursed : ดูดวง

     คุณว่าการดูดวงได้เป็นพรหรือคำสาป?      เราว่า...เป็นทั้งสองอย่างนั่นแหละ      ที่ว่าเป็นพรจากฟ้านั้น  มีเหตุผลดังนี้      1. มนต์เรียกมิตร      สำหรับใครที่เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนฝูงอยู่แล้ว  ความสามารถนี้แทบไม่มีผลอะไรกับข้อนี้เลย      แต่สำหรับคนโลกส่วนตัวสูงคนหนึ่ง  การมีความสามารถนี้ประดับกายนั้นให้ผลด้านเมตตามหานิยมได้อย่างไม่น่าเชื่อ      ลองนึกภาพว่าเราเดินไปเจอเพื่อนในสถานที่สักที่หนึ่ง  ถ้าเจอเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่แล้ว  เราก็จะทักกัน  ยิ้มให้กัน  ถ้าเจอเพื่อนที่คุ้นๆนิดหน่อย  เราอาจแค่ยิ้มให้กันเฉยๆ  แล้วถ้าเจอคนเฉยๆหรือมองเราแง่ลบล่ะ      เขาก็จะมองเหมือนเราเป็นก้อนกรวด  มองเราด้วยหางตา  หรือน่ารำคาญกว่านั้น  คือพยายามค่อนแคะต่างๆนานา  เช่น  เดินคนเดียว(หนักหัวแกรึไง?)  แว่นหนาเตอะ  ผมกระเซิง  กระโปรงเช้ย..เชย  (ว่างมากเนอะ  มาสนใจคนอื่นอยู่ได้) ...