มันถูกกำหนดไว้แล้ว

     ตอนขึ้นปีสอง  เราได้ทำบ้านรับน้องปีหนึ่งที่มหาวิทยาลัย  ซึ่งในตอนแรกนั้น  เรารับหน้าที่เป็นฝ่ายทะเบียน  ที่คอยประจำอยู่ซุ้มหน้ามหาวิทยาลัย  ไม่ต้องปะหน้าปะตาน้องๆ  โดยมีเงื่อนไขว่าต้องไปถึงมหาวิทยาลัยตั้งแต่หกโมงเช้าเพื่อเตรียมระบบลงทะเบียน
     .......ซึ่งเป็นเจตนารมย์ของข้าพเจ้าเองที่ไม่ต้องการพบหน้าผู้คน

     แต่แล้ว  เมื่อวันงานมาถึง

     เราตื่นขึ้นเมื่อตอนเจ็ดโมงเช้าและพบว่า  โทรศัพท์ของตัวเองมีสายไม่ได้รับนับครั้งไม่ถ้วน
     .............เพื่อนโทรตามว่าทำไมไม่มาสักที................

     ท้ายที่สุด  นางคนเขียนเลยต้องประจำอยู่ฐานรับน้อง  มีหน้าที่ดูแลเทคแคร์น้องๆไปตามระเบียบ...

     และด้วยความที่คุยไม่เก่ง  นี่ก็ไม่ค่อยจะคลิกกับใครเขาเล้ยยยย  จนกระทั่ง
     ช่วงเที่ยง........เราไปนั่งกินข้าวหันหน้าชนกับน้องคนหนึ่ง  น้องคนนั้นแนะนำตัว  และบอกว่าอยู่คณะๆหนึ่ง  ซึ่งอยู่ใกล้กับคณะของเรา

     "พี่ชอบไปกินน้ำปั่นที่คณะน้อง"  นั่นคือคำที่เราทักและยิ้มให้น้อง  แล้วเราก็แลกเบอร์และสื่อในการติดต่อของกันและกัน


     ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ  ทุกวันนี้  น้องคนนั้นเป็นรุ่นน้องคนเดียวที่ยังคงจำเราได้  แต่ติดต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

     ตอนแรก  เราคิดว่าตัวเองโคตรซวยเลย  ที่ตื่นไม่ทันไปทำหน้าที่เป็นฝ่ายทะเบียนในวันนั้น

     แต่  คิดๆไป  หากวันนั้นเราตื่นเช้า  เราคงไม่เจอน้องคนนั้น  และเราคงไม่สามารถสานสัมพันธ์กันมาได้จนถึงทุกวันนี้...



     คุณว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญรึเปล่า  ที่เราได้พบกับใครสักคน 

     เราว่า.....ไม่ใช่

     เหมือนโชคชะตาจะลิขิตมาแล้วว่า  เราจะต้องพบเจอกับใครบ้าง

     และทุกๆคนที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของเรานั้น  ล้วนมาปรากฏตัวเพื่อสอนอะไรบางอย่างให้กับเราทั้งสิ้น

     .......บ้างสอนให้เรารู้จักความเกลียดชัง
     .......บ้างทำให้เราเห็นค่าของคำว่ามิตรภาพ
     .......บ้างทำให้เรารู้สึกอยากเป็นคนที่ดีกว่าเดิม
     .......และ  บางคน  ก็เดินเข้ามาทำให้เรารู้จักคำว่ารัก

     แต่ถึงแม้ทุกคนจะเดินเข้ามาในชีวิตเราเพื่อจุดประสงค์อะไรสักอย่างเหมือนกัน  แต่สิ่งที่ต่างกันแน่ๆ  นั่นคือระยะเวลาที่เขาจะอยู่ในชีวิตของเรา

     ......บางคนเข้ามายั่วโมโหเราแล้วก็หายจากไปในชั่วระยะเวลาเดียว
     ......บางคนก็ทำให้เราได้หลักการชีวิตอยู่ประมาณปีสองปีแล้วค่อยเดินจากไป
     ......ขณะที่บางคนเหมือนจะปักหลักตั้งรกรากอยู่ในชีวิตเราอย่างถาวร  ไม่ว่าเราจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม

     เขาก็แค่ทำหน้าที่ของเขาเท่านั้นเอง 



     อย่าไปเสียใจมากนักกับการสูญเสียใครไป

     .....อย่าฟูมฟายหากเราตามคนบางคนกลับมาในชีวิตไม่ได้
     .....อย่าร้องไห้ที่จู่ๆเพื่อนบางคนก็เลิกสนิทกับเรา
     .....อย่าโวยวายว่าทำไมกับคนบางคน  ความสัมพันธ์ถึงมาไกลได้....แค่นั้น

     ทุกสิ่งอย่างมีีที่มาที่ไปของมัน  และคนบางคนก็อยู่ในชีวิตเราได้แค่บางสถานะเท่านั้น


     แต่จงดีใจ  กับคนที่เรามีอยู่

     .....จงเห็นคุณค่าของคนที่รู้สึกคลิกกันได้  และยังคงญาติดีกันมาจนปัจจุบัน
     .....จงขอบคุณทุกคนที่เคยรักเรา  และยังคงรักเราอยู่จนทุกวันนี้
   
     และต่อให้วันนี้ไม่ได้รักกันแล้ว  ก็จงดีใจ  ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเข้ามาในชีวิตเรา  และสอนอะไรบางอย่างให้กับเรา
     ............แม้มันจะเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเดียวก็ตาม



     ความเป็นจริงตามหลักธรรมมีอยู่ว่า  ตราบใดที่เส้นทางกรรมของใครยังคงผูกอยู่กับเรา  ตราบนั้นเราจะยังคงเจอกันอยู่ร่ำไป 
     แต่หากเมื่อไหร่ที่เส้นทางกรรมเดินทางมาถึงทางแยกแล้ว  เมื่อถึงครานั้น  แม้ไม่อยากจาก  ก็ต้องจากกันอยู่ดี

     สิ่งที่ทำได้  มีเพียงทำวันนี้ให้ดีที่สุด  รักษาคนที่ยังอยู่ให้ดีที่สุด  สร้างกรรมดีต่อกันไว้  เผื่อว่าวันหน้ามาเจอกันใหม่  ความสัมพันธ์จะได้เป็นไปในทางที่ดี
     ....หรือยิ่งกว่านั้น  ถ้าต่างฝ่ายต่างสมัครใจที่จะรักษากันและกันไว้  เราอาจอยู่ในชีิวิตของกันและกันไปทุกภพทุกชาติก็ได้  (อย่าเบื่อกันเสียก่อนล่ะ)

     ส่วนที่เหลือ  ก็ปล่อยให้โชคชะตาทำให้มัันเป็นไป 


     เพราะทุกคนที่เราต้องเจอในชีวิตนั้น


                                                   ....มันถูกกำหนดไว้แล้ว....


     
   

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ