บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2019

อันนินทากาเล...

       อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ                   ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดไปกรีดหิน   แม้แต่พระปฏิมายังราคิน                           คนเดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา          คงเป็นกลอนที่หลายคนคุ้นตากันดี  พระยาสุนทรโวหาร(สุนทรภู๋)ท่านประพันธ์ไว้นานแล้ว  แต่ดูเหมือนจะยังใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย      เชื่อว่าไม่มีใครไม่เคยถูกนินทา  แล้วก็เชื่อ  ว่าคนทั่วไปก็คงเคยมีส่วนในการนินทาคนอื่นมาบ้างไม่มากก็น้อย  ไม่เป็นคนเริ่มสนทนาเองก็เออออห่อหมกไปกับเขา  หรืออย่างน้อยที่สุด  ก็น่าจะเคยอยู่ร่วมในวงสนทนาที่มีการนินทามาบ้าง      เมื่อประมาณเดือนที่แล้วพูดคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง  เธอบอกไม่ค่อยสบายใจที่มีคนใส่ใจชีวิตของเธอและเอาไปพูดกันต่างๆนานามากเกินไป  เช่น  เธอสนิทกับเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งก็เอาไปเม้าท์ว่าเป็นแฟนกันทั้งๆที่มันไม่ใช่  หรือการแต่งตัวที่ใส่กางเกงขาสั้นก็มีคนเหล่ว่าทำไมต้องใส่ขาสั้น      นี่คงไม่ใช่เรื่องแรก  และน่าจะไม่ใช่เรื่องสุดท้าย      อ่านที่เธอเล่า(คุยไลน์)มาพักหนึ่ง  ก่อนจะให้ความเห็นไปว่า  "ถ้าเราไม่ได้เป็นจริงดังเขาว่าก็ช่างเถิด  คนเขาก็พูดไปเรื่อย..."      &

แก้กรรม!?

     (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)      ในฐานะแม่หมอ  หน้าที่หนึ่งที่ทำประจำเวลาดูดวงนั่นคือ  เป็นผู้ชี้กรรมให้ลูกค้า  หรือพูดง่ายๆคืออ่านจากดวงที่ผูกได้ว่า  มีจุดดีจุดเสียอย่างไร  ช่วงนี้มีเรื่องอะไรที่อาจเข้ามาบ้าง      -ตามดวงเป็นคนที่ถ้าโมโหจะปากร้ายมากต้องระวัง      -ช่วงนี้มีเกณฑ์ผิดใจกับคนรอบตัวนะ  จะทำอะไรก็ยั้งๆไว้หน่อย      -นี้ดวงความรักไม่ได้ดั่งใจนะ  ต้องทำใจไว้นิดหนึ่ง      -ตั้งแต่วันที่  ถึงวันที่  ให้ระวังอุบัติเหตุ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับ....      ฯลฯ      คำถามที่ตามมาคือ  แล้วมันมีวิธีแก้มั้ยอ่ะแม่หมอ???      มี  และ  ไม่มี      มาเรื่องกรรมที่พอแนะนำวิธีแก้ได้บ้างก่อน  หลักๆเลยก็จะพวกสิ่งที่เป็นผลโดยตรงจากการผิดศีลห้าบางข้อ  ดังนี้      -  มีกรรมประเภทสุขภาพไม่ค่อยแข็ง,  มีเกณฑ์ไม่สบาย,  ตามดวงมีแนวโน้มจะประสบอุบัติเหตุได้ง่าย  อันนี้ที่ตรงที่สุดคือการผิดศีลข้อหนึ่งคือฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแบบตรงๆหรือเฉียดๆ  ตามหลักที่ว่า  ผู้ฆ่าย่อมถูกฆ่า  ผู้ที่ทำให้สุขภาพคนอื่นเสื่อมโทรมย่อมมีสุขภาพน่าซึมเซา  หรือไม่ก็สุขภาพไม่แข็งแรงจากเศษ

เด็กใหม่ในโลกแห่งการทำงาน

      ที่สุดแล้ว  พวกเราทุกคนก็ได้รับคำสั่งให้ออกปฏิบัติงานจริง ณ ต่างจังหวัด  ราวกับลูกนกที่ถูกพ่อแม่นกตะเพิดให้บินออกสู่โลกกว้างเอง      เราไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่นเป็นเช่นไร  แต่สำหรับเรา  สามคำสั้นๆคงหนีไม่พ้น      มัน-เละ-มาก      การทำงานจริงไม่มีอะไรง่ายสักอย่าง  แม้จะเคยได้รับการอบรมและฝึกหัดมาอยู่บ้าง  แต่มันแทบจะทำอะไรไม่ได้เลยเมื่อพบของจริง     ... ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กฝึกงานระยะรอผ่านโปรช่วงสามเดือน (ซึ่งหากประเมินจริงๆคงไม่ผ่าน)      ไอ้โน่นก็ผิด  ไอ้นี่ก็ลืม  รายละเอียดที่ควรใส่ไม่เขียน  รายละเอียดที่ไม่ต้องเขียนดันไม่ใส่     ...คงต้องมีคนนินทากันบ้างแหละว่า วันนี้ยายเด็กใหม่จะทำพลาดอะไรอีก      สงสารก็แต่คนที่ต้องทำงานกันเราโดยตรง  ที่ต้องคอยสอนงานต่างๆและพบว่า  ยัยนี่ไม่รู้หลายเรื่องมาก      เหนื่อยแทนเขา  ท้อใจกับตัวเอง      จริงๆตอนทำงานบริษัทเอกชนยังไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้นะ      ล่าสุด  เขาเรียกมาสอนว่า  การออกงานเขียนของเรานั้น  หากจะปฏิเสธคำขอใดๆจะต้องให้เหตุผลเสมอ...      ซึ่ง... เราไม่รู้      คือ  รู้อยู่บ้าง  แต่ไม่คิดว่ามันเคร่งครัด