แก้กรรม!?
(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
ในฐานะแม่หมอ หน้าที่หนึ่งที่ทำประจำเวลาดูดวงนั่นคือ เป็นผู้ชี้กรรมให้ลูกค้า หรือพูดง่ายๆคืออ่านจากดวงที่ผูกได้ว่า มีจุดดีจุดเสียอย่างไร ช่วงนี้มีเรื่องอะไรที่อาจเข้ามาบ้าง
-ตามดวงเป็นคนที่ถ้าโมโหจะปากร้ายมากต้องระวัง
-ช่วงนี้มีเกณฑ์ผิดใจกับคนรอบตัวนะ จะทำอะไรก็ยั้งๆไว้หน่อย
-นี้ดวงความรักไม่ได้ดั่งใจนะ ต้องทำใจไว้นิดหนึ่ง
-ตั้งแต่วันที่ ถึงวันที่ ให้ระวังอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับ....
ฯลฯ
คำถามที่ตามมาคือ แล้วมันมีวิธีแก้มั้ยอ่ะแม่หมอ???
มี และ ไม่มี
มาเรื่องกรรมที่พอแนะนำวิธีแก้ได้บ้างก่อน หลักๆเลยก็จะพวกสิ่งที่เป็นผลโดยตรงจากการผิดศีลห้าบางข้อ ดังนี้
- มีกรรมประเภทสุขภาพไม่ค่อยแข็ง, มีเกณฑ์ไม่สบาย, ตามดวงมีแนวโน้มจะประสบอุบัติเหตุได้ง่าย อันนี้ที่ตรงที่สุดคือการผิดศีลข้อหนึ่งคือฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแบบตรงๆหรือเฉียดๆ ตามหลักที่ว่า ผู้ฆ่าย่อมถูกฆ่า ผู้ที่ทำให้สุขภาพคนอื่นเสื่อมโทรมย่อมมีสุขภาพน่าซึมเซา หรือไม่ก็สุขภาพไม่แข็งแรงจากเศษกรรมของการฆ่าที่เหลืออยู่
คำแนะนำที่ให้เพื่อนคือ พยายามทำบุญเกี่ยวกับการปล่อยสัตว์ ช่วยเหลือสัตว์ ถวายหยูกยาแก่พระสงฆ์ บริจาคเลือด หรือทำบุญกับโรงพยาบาลอะไรแบบนี้ นอกจากนี้ในทางโลกคือให้ดูแลตัวเอง กินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลัง
อย่างไรก็ดี ขอแสดงความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ในฐานะคนป่วยบ่อยสักนิด(ใครว่าเป็นหมอดูต้องดวงดี ไม่จริ๊งง ไม่จริง) เรารู้สึกว่าการป่วยง่ายมันคือการที่ร่างกายเราเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องชีวิตนี้ทั้งชีวิต ประมาณว่าแทนที่ชีวิตเราต้องเจอกับภยันตรายพวกอุบัติเหตุร้ายแรงหรือเจอศัตรูมาประหัดประหารกัน เราก็จะแคล้วคลาดจากสิ่งเหล่านั้นแล้วมาลงเอยด้วยการไอไม่หยุดเป็นเดือน เดินชนประตูหัวโน หรือผื่นขึ้นแขนคันคะเยอแทนอะไรแบบนี้ และเราก็ป่วยนิดหน่อย ฟกช้ำนิดหนึ่งมาทั้งชีวิต เราเลยคิดว่าแบบ เออ มันโอเค ดีกว่าเจอสิ่งที่แย่กว่านี้
- มีกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สิน ของหายบ่อย รักษาทรัพย์ไม่ทน ขัดสนไม่มีกิน อันนี้มีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากการผิดศีลข้อสองคือลักทรัพย์มาก่อน เมื่อทำความเสียหายแก่ทรัพย์สินคนอื่น เมื่อกรรมเผล็ดผลทรัพย์สินตัวเองย่อมวอดวายได้ง่ายเช่นกัน
วิธีแก้คือให้ทานอันเป็นการทำลายความตระหนี่ในจิตใจ การช่วยตนเองและผู้อื่นป้องกันรักษาทรัพย์สิน การเพิ่มความรอบคอบและระมัดระวัง รวมไปถึงการประกอบสัมมาชีพที่ไม่ข้องเกี่ยวกับการเอาของผู้อื่นมาเป็นของตน และสุดท้าย ลองอภัยๆไปเสียบ้างกับสิ่งที่หายไป อย่างน้อยจะได้สบายใจขึ้น
- พูดอะไรคนไม่ฟัง น้ำเสียงไม่หนักแน่น บอกอะไรไปไม่มีคนเชื่อ อันนี้ก็มีแนวโน้มมาจากการเคยผิดศีลข้อสี่ อันแตกย่อยไปด้วย พูดปด พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ อ่อ กรรมของการพูดปดถ้ามีการใส่ร้ายด้วยล่ะก็ ผลกรรมที่ได้คือจะโดนกล่าวตู่ด้วยถ้อยคำไม่จริงบ่อยๆอีกด้วย
วิธีแก้เหรอ ก็ตั้งใจพูดแต่สิ่งดี พูดแต่ความจริง พูดแต่ถ้อยคำที่มีประโยชน์ ใช้สติก่อนเริ่มพูด อะไรแบบนี้
นอกจากนี้ ถ้าอยากให้เสียงเพราะ ลองเปล่งเสียงสวดมนต์เป็นประจำดูนะ
นั่นเป็นกรรมอันเป็นผลโดยตรงจากการผิดศีล ส่วนถ้าใครสงสัยว่าแล้วอีกสองข้อนี่มันยังไงอ่ะคนเขียน เท่าที่เคยอ่านมานะคะ
- ผิดศีลข้อสามทำให้มีศัตรูมาก เพราะการลักลอบแบบนี้ก่อให้เกิดการผิดใจกันได้ง่าย
- ผิดศีลข้อห้า ถ้ารุนแรงที่สุดคือเกิดมาแล้วเป็นบ้า (สุราบั่นทอนประสิทธิภาพสมอง) ส่วนผลรองๆก็น่าจะเบลอบ่อย มึนๆ งงๆ ไรงี้
ส่วนเรื่องอื่นๆที่เคยแนะนำลูกค้าไปก็มี
- อยากผิวสวย : ให้ถวายดอกบัวไหว้พระ คือเคยอ่านหนังสือของคุณดังตฤณแล้วคุณดังตฤณบอกว่า ช่วยได้จริง
- มีคนรอบข้าง เช่น เพื่อน ลูกน้อง แฟน หัวหน้า ฯลฯ ไม่ดี : ก็เอาหลักจากงานเขียนคุณดังตฤณอีกนั่นแหละ ท่านบอกประมาณว่า ขอให้คิดว่าเราจะไม่เจอะเจอคนแบบนี้ในชีวิตเลย หากเราไม่เคยกระทำตัวแบบนี้หรือเป็นคนแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าในชาตินี้หรือชาติที่แล้ว
สรุปก็คือการเจอคนไม่ดีคือการรับผลกรรมที่เราเคยปฏบัติตัวแบบนี้ต่อผู้อื่นไว้นั่นแหละ
นี่เพิ่งแนะนำลูกค้ารายล่าสุดไป เธอเล่าว่าเธอหาบริวารดีๆไม่ได้เลย ซึ่งตามดวงเธอก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แนะนำแบบคิดเองว่าลองชักชวนคนรอบตัวไปร่วมบุญหรือทำบุญด้วยกันดู เพราะเชื่อเอาเองว่าผลบุญที่ทำร่วมกันจะสามารถทำให้คนรู้สึกดีต่อกันได้
นอกจากนี้ลองตั้งจิตอธิษฐานว่า หากเราอยู่ในสถานะ...(ที่เราเจอคนไม่ดี) เราจะไม่ทำตัวแบบที่เราพบเจอ ขอให้ผลการอธิษฐานและความตั้งใจในการปฏิบัติตัวที่ดีชักนำเราไปเจอแต่คนดีดีด้วยเถิด
- มักตัดสินใจผิดพลาดบ่อยๆ : ทางแก้คือก่อนตัดสินใจต้องคิดให้รอบคอบและถามคนรอบข้างก่อน อย่าด่วนตัดสินใจทันที
- ปากไม่ดี : ทางแก้(หรือควรเรียกว่าทางป้องกัน?)คือคิดก่อนพูด ถ้าเป็นไปได้พูดเท่าที่จำเป็นพอ หรือจะเขียนสคริปไว้ก่อนก็ได้
- ปัญหาความรัก : อันนี้คือท็อปฮิต เชื่อว่าถ้าทุกคนมีรักที่ดีหมอดูเกือบครึ่งจะตกงาน !!!
>>ไม่มีแฟน - แนะนำให้ไปลองขอที่ๆว่าศักดิ์สิทธิ อันนี้ไม่รู้นะ ทุกวันนี้แม่หมอก็ยังหาไม่ได้ เอิ้ก
>>โดนแย่งคนรัก - มีสองประเด็น คือถ้าเพราะอีกฝ่ายไม่ใช่คู่เราจริงๆ ก็คงเป็นเพราะเราเคยแย่งของๆคนอื่นมาก่อน ว่ากันว่า ได้มายังไงก็จะเสียไปอย่างนั้น ลองทำใจร่มๆ ไปขอโทษคู่กรณีที่เคยทำผิดต่อเขามา(เราแนะนำลูกค้าตัวเองแบบนี้จริงๆ) ถ้าเราตั้งใจเป็นคนดีเชื่อว่าสักวันจะเจอคนที่ดีพอกับเรา
>>ตามดวงบอกว่าได้แฟนไม่ดี - ตามตำราให้ตั้งจิตรักษาศีลห้าแล้วอธิษฐานให้เจอคนที่ศีลเสมอกับเรา
หลักๆก็จะประมาณนี้
มาดูสิ่งที่แก้ไม่ได้กันบ้าง
- เป็นกรรมเก่าที่ต้องเจอ อันนี้อย่าว่าแต่หาทางแก้ บางคนดูดวงด้วยอยู่หยกๆแท้ๆ แม่หมอยังหาจุดนี้มาเตือนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!! อารมณ์แบบเพิ่งดูดวงให้วันนี้ อีกไม่กี่วันตกบันไดขาหัก แม่หมอก็แบบ เฮ้ยยยย
อันนี้ก็ตัวใครตัวมันล่ะเด้อ ดูแลตัวเองด้วย
- วิบากที่เกิดจากกาละกิณีจรเล่นงานในปีเกิดแต่ละปี คือ ถ้าดูตามโหราศาสตร์ไทยบวกศาสตร์พม่าอ่ะค่ะ แต่ละคนจะอยู่ภายใต้การดูแลของดวงดาวที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี สิ่งที่ตามมาคือ มันจะมีดาว 1 ดวงที่จะไม่ให้คุณกับเราในปีนั้น ส่วนจะร้ายแรงแค่ไหนขึ้นอยู่กับดวงแต่ละคน(อธิบายละเอียดแล้วจะยาว)
ของตัวเองนี่เลย บ่งบอกว่าปีนี้มีปัญหาเรื่องงาน ซึ่งก็ทำให้เครียดสมองจะแตก เพื่อนถามว่า แล้วไม่มีวิธีแก้เหรอแก
ไม่มีว่ะ ทนสถานเดียว
- กรรมที่เกี่ยวแก่ "นิสัย" ส่วนตัว เช่น
>>เป็นคนไม่ขยันและ/หรือไม่อดทน วิธีแก้คือตัวเองและคนรอบข้างต้องช่วยกันเคี่ยวเข็ญให้เจ้าชะตาขยันและอดทน กำปั้นทุบดินมะ
>>เป็นคนไม่มีเล่ห์เหลี่ยม/เอาเปรียบใครไม่ค่อยเป็น ทางแก้ไม่มี คำแนะนำที่ให้คืออย่าเชื่อคนง่ายนัก จะทำอะไรนี่ดูทิศทางลมด้วย แล้วข่าวสารต่างๆน่ะตามบ้าง คนรอบตัวสอนทริคอะไรก็หัดจำๆไว้หน่อย
>>ไม่มีความเป็นผู้หญิง(กรณีที่เป็นผู้หญิง)/ไม่ห้าวหาญแบบผู้ชาย(กรณีที่เป็นผู้ชาย) เอาเป็นว่า ถ้าคุณไม่เดือดร้อนกับการห้าวๆ(ญ) หรือติ๋มๆ(ช) ของตัวเองแล้วก็ช่างมันเถอะ แต่ถ้าเดือดร้อนก็พยายามเปิดเนตหาข้อมูลดูว่ามันต้องทำยังไง (ทุกวันนี้แม่หมอก็ไม่ค่อยเหมือนผู้หญิง หาได้แคร์ไม่)
สรุปก็คือถ้ามันเกิดที่นิสัย มันก็ต้องแก้ที่นิสัยอ่ะ ซึ่งถ้ามันแก้ง่ายล่ะก็คุณคงไม่เป็นแบบที่คุณเป็นทุกวันนี้หรอก
จริงไหม?
- ความรักไม่ได้ดั่งใจ ต้องอธิบายนิดหนึ่งว่าในทางโหราศาสตร์ไทย การอาภัพรักมันมีสามกรณีค่ะคุณ หนึ่งอาภัพคู่หรือได้คู่ไม่ดี อันนี้แก้ตามข้างบนดังที่กล่าว สองเกิดวันอาทิตย์ สามอาภัพรักหรือมีความรักที่ไม่ได้ดั่งใจ อารมณ์ประมาณว่าจะรู้สึกว่าเรารักเขามากกว่าเขารักเรา อะไรแบบเนี้ย
อันที่สองกะสามนี่แหละค่ะที่แก้ไม่ได้ สิ่งเดียวที่เตือนเพื่อนคือ "ทำใจเหอะแก" หรืออีกอย่างที่อาจเตือนได้ "มีแฟนก็อย่ารักแฟนมากนัก"
ได้แค่นี้แหละ
อย่างไรก็ดี มีสิ่งที่ทำแล้วช่วยได้แบบครอบจักรวาลเช่นกัน หรืออย่างน้อยที่สุด มันก็ทำให้เรามีกำลังใจที่จะเผชิญหน้ากับชีวิตมากขึ้นได้บ้าง
- ให้ทาน ให้ทานคือการทำบุญที่ง่ายที่สุดในความคิดของเรา มันคือการที่เราตั้งใจสละอะไรสักอย่างที่เรามีด้วยความรู้สึกที่อยากให้เกิดผลดีแก่ผู้รับ ที่เห็นกันง่ายสุดคือบริจาคเงินทำบุญ นอกจากนี้ก็เช่น สละเวลาช่วยเหลือผู้อื่น ตั้งใจเอาความรู้ในสาขาที่ตนมีบอกเล่าให้เกิดประโยชน์หรือทำให้ผู้อื่นมีความรู้ในด้านนั้น ให้อภัย และที่ดูจะได้กุศลที่สุดคือ ธรรมทาน หรือ ให้ธรรมเป็นทาน
อย่างไรก็ดี คนกิเลสหนาอย่างเราๆท่านๆนี่ แค่ให้ทานประเภทอื่นให้สม่ำเสมอก็ยังความสุขแก่ใจได้มากแล้วหนา
- สวดมนต์ จริงนะ เราว่าทำให้จิตใจสงบ เมื่อใจสงบก็จะเกิดสมาธิ เมื่อมีสมาธิก็จะเกิดปัญญาได้ง่าย แต่ขณะสวดอย่าฟุ้งซ่านนะก๊ะ ประเดี๋ยวจิตใจกระเจิดกระเจิงทำให้กำลังใจในบทสวดน้อยทำให้ไม่เกิดผลแล้วจะมาบ่นแม่หมอเข้าอีก
อ่อ จะบอกว่า บทสวดมนต์แต่ละบทจะมีผลดีข้างเคียงในตัวของตัวเอง เป็นต้นว่าถ้าสวดชินบัญชรบ่อยๆจะช่วยคุ้มครองป้องภัยได้ และในหนังสือคุณดังตฤณบอกว่าทำให้มีเสน่ห์ขึ้นได้ อะไรแบบนั้น เชิญกูเกิ้ลผลของบทสวดมนต์แล้วเลือกสวดกันได้ตามศรัทธา
แต่สวดแล้วต้องเป็นคนดีด้วยนะท่าน สัญญานะ!!!
- นั่งสมาธิ/วิปัสสนา ในทางพุทธถือว่าเป็นยอดแห่งการปฏิบัติ เพราะจิตที่นิ่งและรู้ตื่นทำให้เกิดปัญญาขั้นเอกอุ และหากปฏิบัติเป็นประจำควบไปกับการรักษาศีลให้บริบูรณแล้ว จะเปิดโอกาสในการบรรลุธรรมขั้นสูงได้เลยทีเดียว
ใครทำแล้วได้ผลดีมาเล่าด้วยนะ ทุกวันนี้แม่หมอยังนั่งสมาธิไม่ค่อยสำเร็จเลย...
- รักษาศีลห้า เขาว่าความตั้งใจในการรักษาศีลห้าให้ได้ถือเป็นบุญอย่างมาก ยิ่งหากผ่านการทดลองใจจากธรรมชาติแล้วยังไม่ผิดศีลสักข้อ อันนี้จะกุศลแรง แล้วก็ใช้ความตั้งใจตรงนี้แหละเป็นสัจจาธิษฐานในการขอต่างๆ เช่นขอให้เจอคนที่ศีลเสมอกัน ดังที่กล่าวไปแล้ว
การรักษาศีลห้าได้ตลอดชีวิตเป็นบันไดขั้นแรกของการบรรลุโสดาบันนะ ใครทำได้แม่หมอขออนุโมทนาด้วย
- หนี เป็นอะไรที่ไม่เกี่ยวกับหลักพุทธ แต่ช่วยได้ในบางกรณี เป็นต้นว่าถ้าคุณอยู่ที่ๆหนึ่งแล้วเจองานไม่ดี คนไม่ดี บางทีการลาออก ย้ายที่อยู่ ก็ช่วยตัดรอนสิ่งแย่ๆที่เจอลงได้บ้างเหมือนกัน ยิ่งไปไกลเท่าไหร่ยิ่งดี
เพราะมีจริงๆนะตามดวงบางคน คืออยู่บ้านเกิดตัวเองจะไม่ดี ทางแก้คือให้ไปไกลๆ ไปคนละจังหวัด หรือจะคนละประเทศเลย ชีวิตจะดีขึ้น
แถมก่อน คุณต้องเช็คดวงตัวเองนะ ถ้าดวงคุณเป็นประเภทอยู่ที่ไหนก็เจอแบบเดิมตลอดชีวิต เช่นพวกดวงกำเนิดได้เพื่อนไม่ดีงี้ การหนีไม่ช่วยอะไรนะคุณ
หลักๆก็ประมาณนี้ ต้องขอโทษสำหรับคนนับถือศาสนาอื่น เผอิญแม่หมอนับถือศาสนาพุทธ คำอธิบายเลยจะอิงหลักพุทธเป็นส่วนมาก แต่คิดว่าการตั้งใจสวดมนต์และรักษา..เอ่อ...ศาสนาอื่นเขาเรียกศีลรึเปล่า เอาเป็นว่าการปฏิบัติตามหลักศาสนาที่สอนให้เป็นคนดีก็น่าจะได้ผลไม่ต่างกันค่ะ
ที่สุดแล้ว สิ่งที่ปรากฏในแผ่นดวงชะตาของแต่ละคน มันเป็นเพียงคำบอกเล่าว่าเรามีอะไรเป็นต้นทุนในชีวิตนี้บ้างและ/หรือเรามีแนวโน้มจะประสบกับอะไรบ้างในแต่ละช่วงเวลา กระนั้น มันก็มีช่องโหว่มากมายที่ไม่สามารถจะบอกได้ในชีวิตของแต่ละคน
ช่องโหว่ที่ว่าเป็นผลมาจาก "การตัดสินใจ" ของคนๆนั้น ที่จะคิด ทำ หรือพูดอะไรออกมา ซึ่งจะปฏิบัติให้ตรงตามดวงก็ได้ ต่างจากดวงก็ได้
ดวงเป็นสิ่งที่ถูกลิขิตมาแล้ว แต่ชีวิตเป็นของคุณ
จำไว้เพียงอย่างเดียวก็พอว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แม้บางทีมันอาจจะไม่เห็นชัดเจนในชาตินี้ก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่า กรรมดีที่ทำจะช่วยเกื้อกูลคุณได้ และกรรมชั่วจะฉุดคุณให้ล้มได้ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
หมอดูอ่านได้เพียงสิ่งที่อยู่ในดวง แต่คุณจะยอมให้มันเป็นเช่นนั้นหรือไม่ อยู่ที่ทางเลือกของคุณเอง
จงใช้ชีวิตอย่างมีสติ และขอให้มีความสุขในทุกๆวันของชีวิต
ในฐานะแม่หมอ หน้าที่หนึ่งที่ทำประจำเวลาดูดวงนั่นคือ เป็นผู้ชี้กรรมให้ลูกค้า หรือพูดง่ายๆคืออ่านจากดวงที่ผูกได้ว่า มีจุดดีจุดเสียอย่างไร ช่วงนี้มีเรื่องอะไรที่อาจเข้ามาบ้าง
-ตามดวงเป็นคนที่ถ้าโมโหจะปากร้ายมากต้องระวัง
-ช่วงนี้มีเกณฑ์ผิดใจกับคนรอบตัวนะ จะทำอะไรก็ยั้งๆไว้หน่อย
-นี้ดวงความรักไม่ได้ดั่งใจนะ ต้องทำใจไว้นิดหนึ่ง
-ตั้งแต่วันที่ ถึงวันที่ ให้ระวังอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับ....
ฯลฯ
คำถามที่ตามมาคือ แล้วมันมีวิธีแก้มั้ยอ่ะแม่หมอ???
มี และ ไม่มี
มาเรื่องกรรมที่พอแนะนำวิธีแก้ได้บ้างก่อน หลักๆเลยก็จะพวกสิ่งที่เป็นผลโดยตรงจากการผิดศีลห้าบางข้อ ดังนี้
- มีกรรมประเภทสุขภาพไม่ค่อยแข็ง, มีเกณฑ์ไม่สบาย, ตามดวงมีแนวโน้มจะประสบอุบัติเหตุได้ง่าย อันนี้ที่ตรงที่สุดคือการผิดศีลข้อหนึ่งคือฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแบบตรงๆหรือเฉียดๆ ตามหลักที่ว่า ผู้ฆ่าย่อมถูกฆ่า ผู้ที่ทำให้สุขภาพคนอื่นเสื่อมโทรมย่อมมีสุขภาพน่าซึมเซา หรือไม่ก็สุขภาพไม่แข็งแรงจากเศษกรรมของการฆ่าที่เหลืออยู่
คำแนะนำที่ให้เพื่อนคือ พยายามทำบุญเกี่ยวกับการปล่อยสัตว์ ช่วยเหลือสัตว์ ถวายหยูกยาแก่พระสงฆ์ บริจาคเลือด หรือทำบุญกับโรงพยาบาลอะไรแบบนี้ นอกจากนี้ในทางโลกคือให้ดูแลตัวเอง กินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลัง
อย่างไรก็ดี ขอแสดงความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ในฐานะคนป่วยบ่อยสักนิด(ใครว่าเป็นหมอดูต้องดวงดี ไม่จริ๊งง ไม่จริง) เรารู้สึกว่าการป่วยง่ายมันคือการที่ร่างกายเราเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องชีวิตนี้ทั้งชีวิต ประมาณว่าแทนที่ชีวิตเราต้องเจอกับภยันตรายพวกอุบัติเหตุร้ายแรงหรือเจอศัตรูมาประหัดประหารกัน เราก็จะแคล้วคลาดจากสิ่งเหล่านั้นแล้วมาลงเอยด้วยการไอไม่หยุดเป็นเดือน เดินชนประตูหัวโน หรือผื่นขึ้นแขนคันคะเยอแทนอะไรแบบนี้ และเราก็ป่วยนิดหน่อย ฟกช้ำนิดหนึ่งมาทั้งชีวิต เราเลยคิดว่าแบบ เออ มันโอเค ดีกว่าเจอสิ่งที่แย่กว่านี้
- มีกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สิน ของหายบ่อย รักษาทรัพย์ไม่ทน ขัดสนไม่มีกิน อันนี้มีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากการผิดศีลข้อสองคือลักทรัพย์มาก่อน เมื่อทำความเสียหายแก่ทรัพย์สินคนอื่น เมื่อกรรมเผล็ดผลทรัพย์สินตัวเองย่อมวอดวายได้ง่ายเช่นกัน
วิธีแก้คือให้ทานอันเป็นการทำลายความตระหนี่ในจิตใจ การช่วยตนเองและผู้อื่นป้องกันรักษาทรัพย์สิน การเพิ่มความรอบคอบและระมัดระวัง รวมไปถึงการประกอบสัมมาชีพที่ไม่ข้องเกี่ยวกับการเอาของผู้อื่นมาเป็นของตน และสุดท้าย ลองอภัยๆไปเสียบ้างกับสิ่งที่หายไป อย่างน้อยจะได้สบายใจขึ้น
- พูดอะไรคนไม่ฟัง น้ำเสียงไม่หนักแน่น บอกอะไรไปไม่มีคนเชื่อ อันนี้ก็มีแนวโน้มมาจากการเคยผิดศีลข้อสี่ อันแตกย่อยไปด้วย พูดปด พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ อ่อ กรรมของการพูดปดถ้ามีการใส่ร้ายด้วยล่ะก็ ผลกรรมที่ได้คือจะโดนกล่าวตู่ด้วยถ้อยคำไม่จริงบ่อยๆอีกด้วย
วิธีแก้เหรอ ก็ตั้งใจพูดแต่สิ่งดี พูดแต่ความจริง พูดแต่ถ้อยคำที่มีประโยชน์ ใช้สติก่อนเริ่มพูด อะไรแบบนี้
นอกจากนี้ ถ้าอยากให้เสียงเพราะ ลองเปล่งเสียงสวดมนต์เป็นประจำดูนะ
นั่นเป็นกรรมอันเป็นผลโดยตรงจากการผิดศีล ส่วนถ้าใครสงสัยว่าแล้วอีกสองข้อนี่มันยังไงอ่ะคนเขียน เท่าที่เคยอ่านมานะคะ
- ผิดศีลข้อสามทำให้มีศัตรูมาก เพราะการลักลอบแบบนี้ก่อให้เกิดการผิดใจกันได้ง่าย
- ผิดศีลข้อห้า ถ้ารุนแรงที่สุดคือเกิดมาแล้วเป็นบ้า (สุราบั่นทอนประสิทธิภาพสมอง) ส่วนผลรองๆก็น่าจะเบลอบ่อย มึนๆ งงๆ ไรงี้
ส่วนเรื่องอื่นๆที่เคยแนะนำลูกค้าไปก็มี
- อยากผิวสวย : ให้ถวายดอกบัวไหว้พระ คือเคยอ่านหนังสือของคุณดังตฤณแล้วคุณดังตฤณบอกว่า ช่วยได้จริง
- มีคนรอบข้าง เช่น เพื่อน ลูกน้อง แฟน หัวหน้า ฯลฯ ไม่ดี : ก็เอาหลักจากงานเขียนคุณดังตฤณอีกนั่นแหละ ท่านบอกประมาณว่า ขอให้คิดว่าเราจะไม่เจอะเจอคนแบบนี้ในชีวิตเลย หากเราไม่เคยกระทำตัวแบบนี้หรือเป็นคนแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าในชาตินี้หรือชาติที่แล้ว
สรุปก็คือการเจอคนไม่ดีคือการรับผลกรรมที่เราเคยปฏบัติตัวแบบนี้ต่อผู้อื่นไว้นั่นแหละ
นี่เพิ่งแนะนำลูกค้ารายล่าสุดไป เธอเล่าว่าเธอหาบริวารดีๆไม่ได้เลย ซึ่งตามดวงเธอก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แนะนำแบบคิดเองว่าลองชักชวนคนรอบตัวไปร่วมบุญหรือทำบุญด้วยกันดู เพราะเชื่อเอาเองว่าผลบุญที่ทำร่วมกันจะสามารถทำให้คนรู้สึกดีต่อกันได้
นอกจากนี้ลองตั้งจิตอธิษฐานว่า หากเราอยู่ในสถานะ...(ที่เราเจอคนไม่ดี) เราจะไม่ทำตัวแบบที่เราพบเจอ ขอให้ผลการอธิษฐานและความตั้งใจในการปฏิบัติตัวที่ดีชักนำเราไปเจอแต่คนดีดีด้วยเถิด
- มักตัดสินใจผิดพลาดบ่อยๆ : ทางแก้คือก่อนตัดสินใจต้องคิดให้รอบคอบและถามคนรอบข้างก่อน อย่าด่วนตัดสินใจทันที
- ปากไม่ดี : ทางแก้(หรือควรเรียกว่าทางป้องกัน?)คือคิดก่อนพูด ถ้าเป็นไปได้พูดเท่าที่จำเป็นพอ หรือจะเขียนสคริปไว้ก่อนก็ได้
- ปัญหาความรัก : อันนี้คือท็อปฮิต เชื่อว่าถ้าทุกคนมีรักที่ดีหมอดูเกือบครึ่งจะตกงาน !!!
>>ไม่มีแฟน - แนะนำให้ไปลองขอที่ๆว่าศักดิ์สิทธิ อันนี้ไม่รู้นะ ทุกวันนี้แม่หมอก็ยังหาไม่ได้ เอิ้ก
>>โดนแย่งคนรัก - มีสองประเด็น คือถ้าเพราะอีกฝ่ายไม่ใช่คู่เราจริงๆ ก็คงเป็นเพราะเราเคยแย่งของๆคนอื่นมาก่อน ว่ากันว่า ได้มายังไงก็จะเสียไปอย่างนั้น ลองทำใจร่มๆ ไปขอโทษคู่กรณีที่เคยทำผิดต่อเขามา(เราแนะนำลูกค้าตัวเองแบบนี้จริงๆ) ถ้าเราตั้งใจเป็นคนดีเชื่อว่าสักวันจะเจอคนที่ดีพอกับเรา
>>ตามดวงบอกว่าได้แฟนไม่ดี - ตามตำราให้ตั้งจิตรักษาศีลห้าแล้วอธิษฐานให้เจอคนที่ศีลเสมอกับเรา
หลักๆก็จะประมาณนี้
มาดูสิ่งที่แก้ไม่ได้กันบ้าง
- เป็นกรรมเก่าที่ต้องเจอ อันนี้อย่าว่าแต่หาทางแก้ บางคนดูดวงด้วยอยู่หยกๆแท้ๆ แม่หมอยังหาจุดนี้มาเตือนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!! อารมณ์แบบเพิ่งดูดวงให้วันนี้ อีกไม่กี่วันตกบันไดขาหัก แม่หมอก็แบบ เฮ้ยยยย
อันนี้ก็ตัวใครตัวมันล่ะเด้อ ดูแลตัวเองด้วย
- วิบากที่เกิดจากกาละกิณีจรเล่นงานในปีเกิดแต่ละปี คือ ถ้าดูตามโหราศาสตร์ไทยบวกศาสตร์พม่าอ่ะค่ะ แต่ละคนจะอยู่ภายใต้การดูแลของดวงดาวที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี สิ่งที่ตามมาคือ มันจะมีดาว 1 ดวงที่จะไม่ให้คุณกับเราในปีนั้น ส่วนจะร้ายแรงแค่ไหนขึ้นอยู่กับดวงแต่ละคน(อธิบายละเอียดแล้วจะยาว)
ของตัวเองนี่เลย บ่งบอกว่าปีนี้มีปัญหาเรื่องงาน ซึ่งก็ทำให้เครียดสมองจะแตก เพื่อนถามว่า แล้วไม่มีวิธีแก้เหรอแก
ไม่มีว่ะ ทนสถานเดียว
- กรรมที่เกี่ยวแก่ "นิสัย" ส่วนตัว เช่น
>>เป็นคนไม่ขยันและ/หรือไม่อดทน วิธีแก้คือตัวเองและคนรอบข้างต้องช่วยกันเคี่ยวเข็ญให้เจ้าชะตาขยันและอดทน กำปั้นทุบดินมะ
>>เป็นคนไม่มีเล่ห์เหลี่ยม/เอาเปรียบใครไม่ค่อยเป็น ทางแก้ไม่มี คำแนะนำที่ให้คืออย่าเชื่อคนง่ายนัก จะทำอะไรนี่ดูทิศทางลมด้วย แล้วข่าวสารต่างๆน่ะตามบ้าง คนรอบตัวสอนทริคอะไรก็หัดจำๆไว้หน่อย
>>ไม่มีความเป็นผู้หญิง(กรณีที่เป็นผู้หญิง)/ไม่ห้าวหาญแบบผู้ชาย(กรณีที่เป็นผู้ชาย) เอาเป็นว่า ถ้าคุณไม่เดือดร้อนกับการห้าวๆ(ญ) หรือติ๋มๆ(ช) ของตัวเองแล้วก็ช่างมันเถอะ แต่ถ้าเดือดร้อนก็พยายามเปิดเนตหาข้อมูลดูว่ามันต้องทำยังไง (ทุกวันนี้แม่หมอก็ไม่ค่อยเหมือนผู้หญิง หาได้แคร์ไม่)
สรุปก็คือถ้ามันเกิดที่นิสัย มันก็ต้องแก้ที่นิสัยอ่ะ ซึ่งถ้ามันแก้ง่ายล่ะก็คุณคงไม่เป็นแบบที่คุณเป็นทุกวันนี้หรอก
จริงไหม?
- ความรักไม่ได้ดั่งใจ ต้องอธิบายนิดหนึ่งว่าในทางโหราศาสตร์ไทย การอาภัพรักมันมีสามกรณีค่ะคุณ หนึ่งอาภัพคู่หรือได้คู่ไม่ดี อันนี้แก้ตามข้างบนดังที่กล่าว สองเกิดวันอาทิตย์ สามอาภัพรักหรือมีความรักที่ไม่ได้ดั่งใจ อารมณ์ประมาณว่าจะรู้สึกว่าเรารักเขามากกว่าเขารักเรา อะไรแบบเนี้ย
อันที่สองกะสามนี่แหละค่ะที่แก้ไม่ได้ สิ่งเดียวที่เตือนเพื่อนคือ "ทำใจเหอะแก" หรืออีกอย่างที่อาจเตือนได้ "มีแฟนก็อย่ารักแฟนมากนัก"
ได้แค่นี้แหละ
อย่างไรก็ดี มีสิ่งที่ทำแล้วช่วยได้แบบครอบจักรวาลเช่นกัน หรืออย่างน้อยที่สุด มันก็ทำให้เรามีกำลังใจที่จะเผชิญหน้ากับชีวิตมากขึ้นได้บ้าง
- ให้ทาน ให้ทานคือการทำบุญที่ง่ายที่สุดในความคิดของเรา มันคือการที่เราตั้งใจสละอะไรสักอย่างที่เรามีด้วยความรู้สึกที่อยากให้เกิดผลดีแก่ผู้รับ ที่เห็นกันง่ายสุดคือบริจาคเงินทำบุญ นอกจากนี้ก็เช่น สละเวลาช่วยเหลือผู้อื่น ตั้งใจเอาความรู้ในสาขาที่ตนมีบอกเล่าให้เกิดประโยชน์หรือทำให้ผู้อื่นมีความรู้ในด้านนั้น ให้อภัย และที่ดูจะได้กุศลที่สุดคือ ธรรมทาน หรือ ให้ธรรมเป็นทาน
อย่างไรก็ดี คนกิเลสหนาอย่างเราๆท่านๆนี่ แค่ให้ทานประเภทอื่นให้สม่ำเสมอก็ยังความสุขแก่ใจได้มากแล้วหนา
- สวดมนต์ จริงนะ เราว่าทำให้จิตใจสงบ เมื่อใจสงบก็จะเกิดสมาธิ เมื่อมีสมาธิก็จะเกิดปัญญาได้ง่าย แต่ขณะสวดอย่าฟุ้งซ่านนะก๊ะ ประเดี๋ยวจิตใจกระเจิดกระเจิงทำให้กำลังใจในบทสวดน้อยทำให้ไม่เกิดผลแล้วจะมาบ่นแม่หมอเข้าอีก
อ่อ จะบอกว่า บทสวดมนต์แต่ละบทจะมีผลดีข้างเคียงในตัวของตัวเอง เป็นต้นว่าถ้าสวดชินบัญชรบ่อยๆจะช่วยคุ้มครองป้องภัยได้ และในหนังสือคุณดังตฤณบอกว่าทำให้มีเสน่ห์ขึ้นได้ อะไรแบบนั้น เชิญกูเกิ้ลผลของบทสวดมนต์แล้วเลือกสวดกันได้ตามศรัทธา
แต่สวดแล้วต้องเป็นคนดีด้วยนะท่าน สัญญานะ!!!
- นั่งสมาธิ/วิปัสสนา ในทางพุทธถือว่าเป็นยอดแห่งการปฏิบัติ เพราะจิตที่นิ่งและรู้ตื่นทำให้เกิดปัญญาขั้นเอกอุ และหากปฏิบัติเป็นประจำควบไปกับการรักษาศีลให้บริบูรณแล้ว จะเปิดโอกาสในการบรรลุธรรมขั้นสูงได้เลยทีเดียว
ใครทำแล้วได้ผลดีมาเล่าด้วยนะ ทุกวันนี้แม่หมอยังนั่งสมาธิไม่ค่อยสำเร็จเลย...
- รักษาศีลห้า เขาว่าความตั้งใจในการรักษาศีลห้าให้ได้ถือเป็นบุญอย่างมาก ยิ่งหากผ่านการทดลองใจจากธรรมชาติแล้วยังไม่ผิดศีลสักข้อ อันนี้จะกุศลแรง แล้วก็ใช้ความตั้งใจตรงนี้แหละเป็นสัจจาธิษฐานในการขอต่างๆ เช่นขอให้เจอคนที่ศีลเสมอกัน ดังที่กล่าวไปแล้ว
การรักษาศีลห้าได้ตลอดชีวิตเป็นบันไดขั้นแรกของการบรรลุโสดาบันนะ ใครทำได้แม่หมอขออนุโมทนาด้วย
- หนี เป็นอะไรที่ไม่เกี่ยวกับหลักพุทธ แต่ช่วยได้ในบางกรณี เป็นต้นว่าถ้าคุณอยู่ที่ๆหนึ่งแล้วเจองานไม่ดี คนไม่ดี บางทีการลาออก ย้ายที่อยู่ ก็ช่วยตัดรอนสิ่งแย่ๆที่เจอลงได้บ้างเหมือนกัน ยิ่งไปไกลเท่าไหร่ยิ่งดี
เพราะมีจริงๆนะตามดวงบางคน คืออยู่บ้านเกิดตัวเองจะไม่ดี ทางแก้คือให้ไปไกลๆ ไปคนละจังหวัด หรือจะคนละประเทศเลย ชีวิตจะดีขึ้น
แถมก่อน คุณต้องเช็คดวงตัวเองนะ ถ้าดวงคุณเป็นประเภทอยู่ที่ไหนก็เจอแบบเดิมตลอดชีวิต เช่นพวกดวงกำเนิดได้เพื่อนไม่ดีงี้ การหนีไม่ช่วยอะไรนะคุณ
หลักๆก็ประมาณนี้ ต้องขอโทษสำหรับคนนับถือศาสนาอื่น เผอิญแม่หมอนับถือศาสนาพุทธ คำอธิบายเลยจะอิงหลักพุทธเป็นส่วนมาก แต่คิดว่าการตั้งใจสวดมนต์และรักษา..เอ่อ...ศาสนาอื่นเขาเรียกศีลรึเปล่า เอาเป็นว่าการปฏิบัติตามหลักศาสนาที่สอนให้เป็นคนดีก็น่าจะได้ผลไม่ต่างกันค่ะ
ที่สุดแล้ว สิ่งที่ปรากฏในแผ่นดวงชะตาของแต่ละคน มันเป็นเพียงคำบอกเล่าว่าเรามีอะไรเป็นต้นทุนในชีวิตนี้บ้างและ/หรือเรามีแนวโน้มจะประสบกับอะไรบ้างในแต่ละช่วงเวลา กระนั้น มันก็มีช่องโหว่มากมายที่ไม่สามารถจะบอกได้ในชีวิตของแต่ละคน
ช่องโหว่ที่ว่าเป็นผลมาจาก "การตัดสินใจ" ของคนๆนั้น ที่จะคิด ทำ หรือพูดอะไรออกมา ซึ่งจะปฏิบัติให้ตรงตามดวงก็ได้ ต่างจากดวงก็ได้
ดวงเป็นสิ่งที่ถูกลิขิตมาแล้ว แต่ชีวิตเป็นของคุณ
จำไว้เพียงอย่างเดียวก็พอว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แม้บางทีมันอาจจะไม่เห็นชัดเจนในชาตินี้ก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่า กรรมดีที่ทำจะช่วยเกื้อกูลคุณได้ และกรรมชั่วจะฉุดคุณให้ล้มได้ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
หมอดูอ่านได้เพียงสิ่งที่อยู่ในดวง แต่คุณจะยอมให้มันเป็นเช่นนั้นหรือไม่ อยู่ที่ทางเลือกของคุณเอง
จงใช้ชีวิตอย่างมีสติ และขอให้มีความสุขในทุกๆวันของชีวิต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น