Gifted or cursed : ดูดวง

     คุณว่าการดูดวงได้เป็นพรหรือคำสาป?

     เราว่า...เป็นทั้งสองอย่างนั่นแหละ



     ที่ว่าเป็นพรจากฟ้านั้น  มีเหตุผลดังนี้

     1. มนต์เรียกมิตร

     สำหรับใครที่เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนฝูงอยู่แล้ว  ความสามารถนี้แทบไม่มีผลอะไรกับข้อนี้เลย

     แต่สำหรับคนโลกส่วนตัวสูงคนหนึ่ง  การมีความสามารถนี้ประดับกายนั้นให้ผลด้านเมตตามหานิยมได้อย่างไม่น่าเชื่อ

     ลองนึกภาพว่าเราเดินไปเจอเพื่อนในสถานที่สักที่หนึ่ง  ถ้าเจอเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่แล้ว  เราก็จะทักกัน  ยิ้มให้กัน  ถ้าเจอเพื่อนที่คุ้นๆนิดหน่อย  เราอาจแค่ยิ้มให้กันเฉยๆ  แล้วถ้าเจอคนเฉยๆหรือมองเราแง่ลบล่ะ
     เขาก็จะมองเหมือนเราเป็นก้อนกรวด  มองเราด้วยหางตา  หรือน่ารำคาญกว่านั้น  คือพยายามค่อนแคะต่างๆนานา  เช่น  เดินคนเดียว(หนักหัวแกรึไง?)  แว่นหนาเตอะ  ผมกระเซิง  กระโปรงเช้ย..เชย  (ว่างมากเนอะ  มาสนใจคนอื่นอยู่ได้)
     ทั้งหมดนี่แม่หมอเจอมาหมดแล้ว....

     แต่  พอเขารู้ว่าเราดูดวงเป็นเท่านั้นแหละ  คนจากทั่วสารทิศจะเข้ามาเพื่อปะหน้าปะตากับเรา
     แม้ในตอนแรกคนเหล่านั้นจะไม่เคยเห็นเราในสายตาเลยก็ตาม

     พอดูมือๆหนึ่ง  ก็จะมีอีกหนึ่ง  สอง  สาม  ไปเรื่อยๆยื่นมือมาให้เราดูบ้าง
    ....ไม่เคย(อยาก)รู้จักก็จะรู้จักกันตอนนี้แหละ
     แล้วดูอะไรทีจะมีเสียงสะท้อนช่วยพูดช่วยขยายความให้เต็มไปหมด

     แค่ดูดวงได้นี่  อยู่ดีดีก็มีเพื่อนเยอะอ่ะคุณ


     2. ยันต์กันเล่ห์

     ถ้าเรารู้ดวงชะตาไม่ได้  เราจะต้องวิ่งไปหาหมอดูเพื่อให้เขาทำนายให้  และความเสี่ยงมีอยู่ว่า  เขาอาจจะหลอกลวงเราเพื่อผลประโยชน์ตัวเองก็ได้
     นอกจากไปหาเองแล้ว  มีบางกรณีที่จู่ๆก็มีคนมาเชิญให้ใช้บริการอ่านดวงของเขา  ซึ่งถ้าไปก็ไม่รู้จะโดนหลอกรึเปล่า

     แต่  ถ้าเราพอมีความรู้ตรงนี้อยู่บ้าง  เราจะสามารถพยากรณ์ตัวเองคร่าวๆว่าช่วงนี้จะเป็นอย่างไร  ตัวเราเป็นอย่างไร  นั่นทำให้เรามีภูมิคุ้มกันจากคำทำนายซี้ซั้วหรือเวอร์วังเพื่อหลอกใช้ความตื่นกลัวหรือหลงตัวเองของผู้รับคำทำนายให้ทำอะไรสักอย่างตามประสงค์ของผู้ทำนาย
     แต่ถ้ามีความรู้ตรงนี้  ความหลงเพ้ออย่างงมงายก็อาจลดลง

     ดูดวงมั้ยหนู  :  ไม่เป็นไรค่ะ  ดูให้ตัวเองได้

     ดวงคุณเป็นงี้ๆๆๆ  :  ตรงนี้..เป็นไปได้  แต่อีกส่วน....แกมั่วและ  ชั้นรู้นะว่า....  (คือด่ากลับ  แบบ  อย่าใส่ร้ายราศีชั้นอะไรงี้)

     จะต้องสะเดาะเคราะห์ด้วย..  :  หยุด!!  ชั้นสวดอิติปิโสและชินบัญชรทุกวันอยู่แล้ว  และชั้นสามารถสวดพระไตรปิฎกแก้ชาตาได้  มาทางไหนไปทางนั้นเลย
     (ดูเป็นกรณีๆไปนะ  ถ้าพระหรือผู้ที่น่านับถือจริงๆเตือนก็ต้องฟังหน่อย)

     เห็นมะ  เก๋จะตาย  หึหึ


     3. รู้จักตัวเอง

     จุดเริ่มต้นในการดูดวงของแม่หมอนั้นเพื่อที่จะสามารถตรวจชะตาชีวิตของตัวเองได้  ดังนั้น  แม่หมอจะมีดวงของตัวเองอยู่ในหัวอยู่แล้ว
     ซึ่งภาพดวงในหัวนั้นสามารถใช้ตรวจสอบจุดอ่อน  จุดแข็ง  ตลอดจนศักยภาพของตัวเองในการดำเนินชีวิต  เพื่อจะได้ไม่ประเมินตนเองต่ำหรือสูงไปกว่าความเป็นจริง
     และยังสามารถเช็คความเข้ากันได้ในความสัมพันธ์ระหว่างตนเองและคนรอบข้างอีกด้วย  :D

     ประโยชน์อีกอย่างคือสามารถตรวจสอบความเป็นไปในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต  ว่าจะมีทิศทางไปในทางใด
     เช่น...ปีนี้ถึงปีหน้า  เอ็งจะมีปัญหาทั้งเรื่องงานและเรื่องสุขภาพไปยาวๆเลย  ปลงเสียเถอะแม่หมอ....เป็นต้น


     4. รู้จักผู้อื่น

     เพื่อนชอบถามว่ามีความสามารถขนาดนี้ทำไมไม่เก็บตังค์  ทนๆทำให้เพื่อนแบบไม่ได้อะไรทำไมเนี่ย??
     จริงๆมันก็ได้อะไรอยู่บ้างเหมือนกันแหละ

     สิ่งแรกที่ได้คือมิตรภาพ  อีกสิ่งคือ  มันเป็นโอกาสให้เราได้รู้จักคนๆหนึ่งเพิ่มมากขึ้น

     เวลาเจอใครสักคน  การจะรู้จักนิสัยใจคอของคนนั้นเราจะต้องอาศัยเวลาทำความคุ้นเคยกับเขาชั่วระยะหนึ่งก่อน
     แต่  พอได้ผูกดวงอีกฝ่ายเนี่ย  เหมือนเราก้าวล่วงเข้าไปรู้จุดอ่อนจุดแข็ง  ลักษณะนิสัย  ตลอดจนแนวโน้มความเป็นไปของเขาโดยไม่ต้องมาจับเข่าคุยกันให้เสียเวลา  โดยความยินดีปรีดาให้รู้เสียด้วย
     รู้ว่าเสือก  แต่เต็มใจให้เสือก  ว่างั้นก็ได้

     การรู้จักลักษณะนิสัยและราศียังให้ผลดีในการเลือกคบคนได้อีกด้วยว่า  คนนี้เหมาะที่จะรู้จักหรือสนิทสนมด้วยเพียงใด  รู้ว่าทำไมคนๆนี้ถึงเข้ากับเราได้ง่ายตั้งแต่แรกพบ  รู้ว่าทำไมอยู่กับอีกคนหนึ่งจึงเข้ากันยากราวกับน้ำและน้ำมัน
    .....ราศีและธาตุของแต่ละคนนั้นบอกได้.....

     จริงๆเรื่องการคบเพื่อนนั้นไม่เป็นปัญหาหรอก  เพราะแม่หมอยินดีเป็นเพื่อนกับทุกคนอยู่แล้ว  บางที  ขนาดมีคนตั้งท่าเป็นศัตรูกับเรา  นี่ยังขี้เกียจไปเป็นศัตรูด้วยเลย...เหนื่อย
    ...คำเตือน....อยากลองดีกับพระไพรีพินาศชั้นก็ลองดู.....อุ๊บส์

     แต่...ถ้าเป็นการเลือกคู่เนี่ย  อันนี้ต้องผูกดวงแน่นอน!!!  เราจะไม่เอาคนราศีไม่เข้ากันมาเป็นแฟนเป็นอันขาด!!!
    ...ผูกดวงแล้วเข้ากันได้ค่อยว่ากันอีกที  โอเคนะ
    .....ชาตินี้ไม่มีใครมาให้แม่หมอผูกดวงด้วยเหตุผลนี้หรอก  เชื่อสิ.....

     แต่ไม่ว่าอย่างไร  การสามารถรู้นิสัยคนรอบข้างด้วยวิธีนี้  ก็ยังถือเป็นข้อดีอยู่นั่นเอง

     การดูดวงได้จึงเป็นพรจากสวรรค์อย่างหนึ่ง
     แต่มองอีกมุม  มันก็ไม่ต่างจากคำสาปหรอก



     แล้วดูดวงได้มันเป็นคำสาปยังไงอ่ะเหรอ...

     1. รู้มาก  ทุกข์มาก

     หากใครสักคนหนึ่งเจอเรื่องร้ายสักหนึ่งอย่าง  เขาคงจะคิดว่า  เออ..ฟาดเคราะห์  จบ  ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
     หรือไม่  ก็อาจจะมาหาหมอดูหรือพระ  ให้สะเดาะเคราะห์  ทำบุญ  ให้สบายใจขึ้น..
     จบ  อีกเหมือนกัน

     แต่แม่หมอจะไม่เป็นอย่างนั้น  เพราะเรามีดวงของตัวเอง  เราสามารถตรวจสอบคร่าวๆได้ว่า  ชีวิตในช่วงนี้ของเรานั้นจะมีแนวโน้มอย่างไร
    ....และ  ถ้ามันมีแนวโน้มจะมีปัญหา  เราก็จะทำการวิตกกังวลไปแล้วล่วงหน้า  ไม่ว่ามันจะเกิดจริงดังว่าหรือไม่ก็ตาม...
    ...ดูๆไปก็เหมือนแช่งตัวเอง...

     ในแง่ดีคือมันจะเหมือนกับการ  prepare to the worst  หรือเตรียมตัวสำหรับเหตุร้ายแรงที่สุดที่อาจเกิดขึ้น  แล้วพอเจอจริงๆเราก็จะ  เออนี่ไง  ตามดวงเป๊ะ
     ในแง่ร้ายคือมันจะเหมือนเราขังตัวเองอยู่ในความทุกข์ไปแล้วว่าช่วงนี้ๆ  ฉันจะต้องประสบเคราะห์กรรมดังว่าแน่ๆ  และสิ่งที่ร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆนั้นคือ  ความทุกข์และความกังวลใจของเราที่มีต่อคำทำนาย(ของตัวเอง)นั่นเอง

     บางครั้ง  รู้น้อยๆก็สบายใจดีอ่ะนะ


     2.  ของเข้าตัว

     นักเขียนวิวัฒนาการมาจากนักอ่านฉันใด  หมอดูก็วิวัฒนาการมาจากนักดูดวงฉันนั้น
     ใช่  เราชอบดูดวง

     ในมุมหนึ่ง  แม่หมอคือผู้คอยทำนายทายทักดวงชะตาให้แก่คนรอบข้างว่าจะเป็นอย่างไร
     ในอีกมุมหนึ่ง  ข้าพเจ้าคือผู้ซึ่งเปิดคำทำนายดวงชะตาของตัวเองทุกวัน  ทุกเดือน  และทุกปี
     หนัก!

     ทีนี้  เมื่อใดก็ตามที่อ่านแล้วได้รับคำทำนายในทางร้าย  เมื่อนั้นภาวะจิตตกจะเข้าครอบงำคนอ่านทันที!!!

     คิดๆไปก็เหมือนกรรมตามสนอง  ที่ไปดูร้ายๆให้คนอื่นเขา(แต่เราอ่านไปตามหลักจริงๆนะ  ไม่เคยมีเถยจิตจะแช่งใครเลย  สาบาน!!!)  ให้วิตกกังวล  แล้วมาเจอคำทำนายให้ตัวเองเครียดเสียเอง
     เหมือนหมอผีโดนของตัวเองเข้าตัว  อารมณ์นั้นเลย

     ตลกกว่านั้นคือพออ่านหลายๆที่แล้วเหมือนมันตีกันเองอ่ะ  เช่นของเจ้านี้บอกว่ากำลังจะได้เงินสดก้อนหนึ่ง  อีกเจ้าบอกท่านมีเกณฑ์เสียเงินกะทันหัน  ไปอ่านอีกฉบับบอกเสี่ยงโชคแล้วจะได้กำไร  อีฉบับถัดไปดันบอกว่าเพื่อนจะมายืมตังค์  บลาๆๆ
     นี่ฉันต้องเอาผลมาบวกกันแล้วหารตามฉบับที่อ่านรึเปล่า?
     เข้าใจเลยอ่ะว่าทำไมคนดูดวงไม่เป็นเวลาไปหลายที่แล้วจึงมึน  ขนาดดูดวงเป็นมาอ่านหลายๆที่ยังงงเลย

     คิดๆไปก็โมโหตัวเองนะ  ที่ทำนายรายวันไม่เป็น  ถ้าทำได้ไม่ต้องมาตามอ่านให้วุ่นวายแบบนี้
     ว่าแต่  มันทำยังไงล่ะเนี่ย  ทำนายรายวันเนี่ย???


     3. อิจฉา

     ถ้าคุณคิดว่าคนที่รู้ดวงชะตาคนอื่นจะปลงตก  ละซึ่งความริษยาเสียได้
     คุณคิดผิด

     เวลาที่คุณเห็นใครได้ดีกว่าคุณ  แล้วคุณไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับเขา  คุณอาจคิดแค่ว่าเพราะเขาวาสนาดีกว่าคุณ  คุณเลยสู้เขาไม่ได้
     แค่นั้น  จบง่าย

     แต่ลองคิดว่าคุณผูกดวงให้คนรอบตัว  แล้วเห็นว่าเขาดวงดีสู้คุณไม่ได้  แต่ความเป็นจริงกลับเป็นว่า  เขาได้ดีกว่าคุณเยอะ...มาก
     แล้วคุณก็จะเริ่มบริภาษอยู่ในใจ  อะไรกัน  ดาวนี้ก็ตกที่เสีย  ดาวนั้นก็ไร้ประสิทธิภาพ  แต่ทำไม  ทำไม  เขาทำอะไรก็ชนะไปหมด?!
    ...เอากรรมเก่ามาข่มความอิจฉาก็ไม่ได้อีก  เห็นชัดๆว่ากรรมเก่าเราดีกว่าแท้ๆ  ทำไมสู้มันไม่ได้วะ???

     อิจฉาโดยรู้มากนี่เจ็บใจกว่าอิจฉาโดยไม่รู้อะไรเลยเยอะนะคู้ณณณ


     4.  เรื่องมาก....เรื่องรัก

     ตามหลักโหราศาสตร์แล้ว  จะมีหลักเกณฑ์การเลือกคู่ครองอยู่ข้อหนึ่ง  นั่นคือ  อย่าเอาคนที่ราศีเป็นทุสถานภพกับเรามาเป็นคนรักเป็นอันขาด  เพราะจะกลายเป็นเจ้ากรรมนายเวรแก่กันทันที  
     แน่นอน  แม่หมอก็รู้ข้อนี้

     ดังนั้น  เราจะปล่อยใจตัวเองให้ตกหลุมรักเรื่อยเปื่อยแบบการ์ตูนตาหวานไม่ได้
    ...ต้องเช็คความเข้ากันได้ก่อน  แล้วค่อยคิดจะรัก  รักแล้วค่อยเช็คนั้นไม่เอา  เสียเวลาหัวใจ

    เคราะห์หามยามซวย  ดันไปหวั่นไหวกับบางคน  แต่เช็คดวงแล้วดันเข้ากันไม่ได้
    ...หัวใจมันเข้าใจเงื่อนไขนะ  แต่มันรู้สึกไปแล้วอ้ะ
     มันก็จะ....เจ็บๆหน่อย
     อันนี้เหตุการณ์สมมติเฉยๆนะ  ชีวิตจริงไม่มีเวลามาสนใจอะไรพรรค์นี้หรอก  แค่งานก็เครียดพอละ

     ก็คือเราไม่สามารถรักสุ่มสี่สุ่มห้าได้  ตราบใดที่เรายังอยากให้มีรักแล้วมีความสุข  เราก็ต้องปฏิบัติตามทำนองคลองโหราฯไว้ก่อน
     และก็คือปกติก็ไม่มีคนเข้ามาอยู่แล้ว  ยังจะสร้างเงื่อนไขเพิ่มให้ตัวเองอีกอ่ะนะ

     อยู่บนคานก็ได้วะ



     คือดูดวงได้มันก็มีทั้งด้านดีและด้านร้าย  เฉกเช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ  ที่มีสองด้านเสมอ

     แต่จะให้เลิกและกลับสู่สภาพเดิม  เราก็รักในศาสตร์นี้จนกว่าจะปล่อยมันไป

     จะเป็นพรจากฟ้าหรือคำสาปจากนรกก็ไม่รู้หรอก  แต่ที่แน่ๆน่ะ

     แม่หมอคงเกิดมาเพื่อจะเป็นแม่หมอ..จริงๆน่ะแหละ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ