เมื่อถูกคนชอบประจานเล่นงาน



  มีใครเป็นพวกมีเวรมีกรรม  มีคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดเป็นพวกชอบประจานคนข้างๆตัวเองต่อหน้าคนอื่นมั้ย  ถ้ามี  ลองอ่านบทความนี้ดู...


  การถูกประจานหรือว่าแรงๆต่อหน้าคนอื่น  ยิ่งถ้าคนได้ยินร่วมผสมโรงด้วยแล้วเนี่ย  มันเป็นอะไรที่เสียหน้าและน่าอายมากถึงมากที่สุด...
  ....และถือเป็นการทำร้ายกันอย่างหนึ่ง....

  คิดว่าคนที่สามารถทำร้ายคนอื่นได้โดยไม่ต้องกระพริบตา  ไม่ว่าภายนอกเขาจะดูดีแค่ไหน  เป็นคนดีหรือไม่ดี...
  ตอบได้แล้วทดในใจไว้ก่อน...



   ต่อไป  ตามหลักจิตวิทยาที่เคยอ่านแล้วเนี่ย  คนที่สมบูรณ์  เต็มในตัวเอง  หรือพอใจในตัวเองระดับหนึ่ง  จะไม่ค่อยไปยุ่ง  ไปก้าวก่าย  หรือไปจ้องจับผิดชาวบ้านหรือคนรอบตัวเท่าใดนัก

  พวกชอบไปวอแวให้คนอื่นเปลี่ยนอย่างนั้นอย่างนี้  แท้จริงแล้วคือพวกไม่พอใจในตัวเอง  แต่ขลาดกลัวและอีโก้สูงเกินกว่าจะยอมรับและแก้ไข  เลยหาเรื่องคนอื่นเพื่อปกปิดความบกพร่องของตัวเองไปวันๆ

   น่าสมเพชสิ้นดี


  ยิ่งไปกว่านั้น  การที่ใครสักคนพยายามเป็นคนดีด้วยการกดคนอื่นให้ต่ำลงตลอดเวลา  นั่นแสดงว่า  ลึกๆแล้ว  เขารู้  ว่าถ้าใช้วิธีขาวสะอาดแล้ว  ตัวเองไม่มีทางดูดีขึ้นมาได้เลย
  หรืออย่างน้อยห็แอบรู้สึกอยู่ในใจ  แอบไม่มั่นใจตัวเองอยู่ลับๆ

  จะสงสารดีมั้ยเนี่ย?



  ด้วยสาเหตุดังกล่าวนี่แหละ  คือกุศโลบายประจำที่เราใช้เวลาถูกพวกจิตบกพร่องเล่นงาน

  เราทุกข์  เราโกรธ  เราอาย...

  แล้วเราก็คิด...สิ่งที่เราเสียไปตอนนี้คือความสุข  ความสบายใจ  ความภูมิใจในตัวเอง

  แลกมากับอะไร  กับการที่เราไปโกรธ  ไปเกลียด

  คนนิสัยสกปรกๆคนหนึ่ง  คนน่าสมเพชคนหนึ่ง  คนที่ไม่มีปัญญาจะหาความภูมิใจตัวเองด้วยวิธีสร้างสรรค์คนหนึ่ง...

  เอาสิ่งล้ำค่าของตัวเอง  ไปแลกกับคนไร้ค่าคนหนึ่ง...

   คุ้มกันมั้ยเนี่ย????

   ถามว่าหายทันทีไม่  ก็ไม่หรอก  หลายครั้งความอายยังอยู่
 
   แต่ถามว่ารู้สึกดีขึ้นรึเปล่า....ก็มีบ้าง...


   เรารู้ว่าวิธีนี้ขัดแย้งกับพุทธศาสนา  ที่สอนให้อภัยไม่ว่าใครจะทำอะไรเรา

   แต่...สำหรับคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นอย่างเรา  เราว่า  วิธีนี้แหละ  เหมาะสุดละ  บางครั้งมันดับไฟโกรธได้จริงด้วย


  ใครอยากเอาไปใช้ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะ  ;)

ความคิดเห็น

  1. เป็นการรู้เท่าทันความรู้สึกของตัวเอง รู้ว่าตัวเรากำลังโกรธคนคนนี้ และรู้ว่าตอนนี้ยังหายโกรธไม่ได้ เราเป็นมนุษย์ที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดเพราะยังติดกับกิเลส รูป รส กลิ่น เสียง เพราะฉะนั้น เราคงไม่สามารถหายจากความรู้สึกอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นได้ในทันที (แต่ถ้าใครทำได้ก็ดีค่ะ เทพจริง 555) แต่การที่พี่ฝ้ายสามารถข่มใจให้ไม่ไปทำร้ายเขากลับก็ถือว่าเทพมากๆ มีสติ มีความอดทนอดกลั้น มีความข่มใจ หรือจริงๆแล้วพี่ฝ้ายอาจใช้ความเมตตาด้วยซ้ำ เพราะคิดว่าเขาเองคงมีความขาดในชีวิต จึงต้องทำร้ายคนอื่นเพื่อลดปมขาดของตัวเอง

    อย่างไรก็ตาม เคยอ่านเจอว่า พระพุทธเจ้าสอนให้ปรามคนที่ควรปราม ถ้าครั้งหน้าเจออีก แล้วรู้สึกไม่โอเค ก็จัดชุดเล็กไปซักชุดก็ดีค่ะ 555

    ตอบลบ
  2. เป็นการรู้เท่าทันความรู้สึกของตัวเอง รู้ว่าตัวเรากำลังโกรธคนคนนี้ และรู้ว่าตอนนี้ยังหายโกรธไม่ได้ เราเป็นมนุษย์ที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดเพราะยังติดกับกิเลส รูป รส กลิ่น เสียง เพราะฉะนั้น เราคงไม่สามารถหายจากความรู้สึกอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นได้ในทันที (แต่ถ้าใครทำได้ก็ดีค่ะ เทพจริง 555) แต่การที่พี่ฝ้ายสามารถข่มใจให้ไม่ไปทำร้ายเขากลับก็ถือว่าเทพมากๆ มีสติ มีความอดทนอดกลั้น มีความข่มใจ หรือจริงๆแล้วพี่ฝ้ายอาจใช้ความเมตตาด้วยซ้ำ เพราะคิดว่าเขาเองคงมีความขาดในชีวิต จึงต้องทำร้ายคนอื่นเพื่อลดปมขาดของตัวเอง

    อย่างไรก็ตาม เคยอ่านเจอว่า พระพุทธเจ้าสอนให้ปรามคนที่ควรปราม ถ้าครั้งหน้าเจออีก แล้วรู้สึกไม่โอเค ก็จัดชุดเล็กไปซักชุดก็ดีค่ะ 555

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ