เล่าความหลัง : ขอบคุณที่เข้าข้างกัน


   จู่ๆนึกถึงมาเลยอยากเล่าต่อ :D


   เราว่า  ต้นเหตุของความรู้สึกดีดีสาเหตุหนึ่งนั้นมาจาก  การที่อยู่ดีดีก็มีคนเข้าข้างเรา  โดยที่เราไม่ได้ขอ



    วันหนึ่งในช่วงที่เรียนปริญญาโท  พี่ที่เรารู้จักรับปริญญา  คือเค้าเรียนปริญญาโทสองใบเหมือนกับเราและเรียนก่อนเราปีนึง  ช่วงที่เราไปเรียนปริญญาโทใบแรก  เขาเรียนใบที่สอง  วันที่กล่าวถึงนี้  เป็นวันซึ่งมหาวิทยาลัยมอบปริญญาโทใบแรกให้แก่เขา  ซึ่งใบแรกเขาก็เรียนที่มหาลัยนี้แหละ  เราก็ไปร่วมยินดี

    มีหลายคนเลยล่ะไปร่วมแสดงความยินดีด้วย  หนึ่งในนั้นคือเพื่อนซึ่งเรียนหลักสูตรเดียวกับเราและรู้จักกันมาตั้งแต่ปริญญาตรีเพราะอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน  วันนี้เธอมากับพี่สาวอีกคนหนึ่ง(กล่าวถึงครั้งต่อไปจะเรียกว่า "พี่สาว" ก็แล้วกัน)ซึ่งคุ้นเคยกันดีกับทั้งเราและเธอ  เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่ช่วงมาเรียนภาษาปรับพื้นฐานแล้ว  เจอกันก็ทักทายพูดคุยและถ่ายรูปกันตามปกติ


   หนึ่งในคนที่มาร่วมยินดีมีพี่ที่เรียนปริญญาเอกคนหนึ่ง  เห็นกันสักพักหล่อนก็เดินเข้ามาหาเรา  "นี่  วันรับปริญญาเขาทั้งที่ทำไมไม่แต่งตัวให้ดีกว่านี้หน่อยล่ะ  อ่อ  เป็นผู้หญิงแนวแมนๆ  มีหนวด  อะไรแบบนี้อย่างที่โพสต์ในเฟสใช่ม้า.."

   เราเฉยๆไม่ได้ตอบโต้  แค่นึกในใจว่า  "อะไรวะ?"  

   คือ  เราใส่เสื้อตัวกางเกงตัว  โอเค  มันอาจดู...ไม่เรียบร้อยจริง  แต่เราก็เลือกตัวที่ลายค่อนข้างจะดูดีแล้วนะ  อีกอย่าง....เราไม่ชอบใส่กระโปรง -_-'


   จากนั้น  เราเริ่มรู้สึกว่ามีคนมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ  ยิ่งไปกว่านั้นคือคนที่เยอะขึ้นนั้นน่ะ  เราไม่รู้จัก(เราไม่ใช่คนชอบไปงานเลี้ยงเท่าไหร่นัก  เลยไม่ค่อยรู้จักใคร)  หลังจากถ่ายรูปแสดงความยินดีกับพี่ๆที่รับปริญญาแล้ว  เราจึงค่อยๆเดินหายออกมาจากตรงนั้น  กะว่าจะไปซื้อของในเมืองดีกว่า

   ก่อนไป  เราโพสต์สเตตัสประมาณว่า  คนเยอะเกินไป  อึดอัด  อะไรแบบนี้



 เราไม่แน่ใจว่าเย็นวันนั้น  หรือหลังจากนั้นวันสองวัน  ที่เพื่อนโทรหาเรา  "เฮ้ยแก  เป็นไงมั่ง"

 "ก็ไม่เป็นอะไรนี่"   เราว่า

 "เหยแก  พี่...(รุ่นพี่อีกคนที่คุ้นเคยกันและเจอกันวันรับปริญญาเช่นกัน)  เขาห่วงแกนะ  เขามาจิกเราว่าเห็นสเตตัสแกมั้ย  ทำไมเราไม่ดูแลเพื่อนเลย"  นางก็มาเป็นชุด...

 "บ้า  เราไม่ได้เป็นอะไร  เราแค่อึดอัดที่เจอคนไม่รู้จักเยอะไปเท่านั้น"


 "แก....  ถ้าแกกังวลเพราะคำพูดของพี่คนนั้น  แกอย่าไปสนใจเลย  เค้าปากไม่ดีอยู่นานแล้ว  เรายังเคยโดยเขาแขวะเลย"  เอิ่ม  เพื่อน  นั่นไม่ใช่สาเหตุที่เราแวบออกมานะ  แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกระคายเคืองกับคำพูดอยู่บ้าง  นึกในใจ  แต่ยังคงฟังเพื่อนพูดต่อไป


"หลังจากนั้นเว่ย  เรากับพี่สาว  ก็ไปนั่งคุยกัน  อันที่จริงคือไปนินทาประเด็นที่เค้าว่าแกเลยอ่ะ  ตอนแรกเรานึกว่าเราหูฝาด  แต่พี่ยืนยันว่าได้ยินจริง  เราว่าพี่แกไม่ควรพูดแบบนั้น..."

  ....ไม่รู้ทำไม  แต่เรารู้สึกเหมือนได้ยินเพื่อนกำลังพูดว่า  "เจ๊มีสิทธิอะไรมาว่าเพื่อนหนู??"


"พี่สาวยังบอกเลยว่า  ตัวเองก็ไม่ได้ดีอะไรนะ  มาว่าอะไรแบบนี้ได้ยังไง..."

  เชื่อมั้ย  ตอนนั้นเหมือนเราได้ยินพี่สาวกำลังบอกว่า  "แกกล้าดียังไงมาว่าน้องชั้น!?)


  เราไม่แน่ใจว่าเรากับเพื่อนคุยอะไรกันต่อบ้าง  รู้แต่ว่า  เรายิ้ม  เรารู้สึกดี  ที่จู่ๆ  ก็มีคนมาเข้าข้างเรา  มาเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเรา  ทั้งๆที่เราไม่เคยคิดที่จะขอด้วยซ้ำ



  จากนั้น  เราจึงบล็อคพี่คนนี้จากการมองเห็นทุกสิ่งที่เราแชร์ในเฟส  เพื่อลดโอกาสที่เขาจะนำมันมา
กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อเราอีก  เหอๆๆ



  เกือบลืม  ก่อนวางสาย  เพื่อนบอกเราว่า  "แกไม่ต้องกังวลไปนะ  ไม่ว่าแกจะแต่งตัวแบบวันนี้หรือแต่งตัวยังไง  แกก็สวยกว่าพี่เค้าเยอะ!"

  หูยยย  นี่ขนาดไม่ใส่ใจในความสวย  ยังอดรู้สึกดีไม่ได้เลยนะเนี่ย  555


  เพื่อนและพี่สาวจะรู้ไหมนะว่า  ทำให้คนธรรมดาคนหนึ่งยิ้มไม่หุบไปทั้งคืนเลยเชียวละ  ^_^''

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ