บ่นไปเรื่อย : นิยายกับเรื่องจริง


      นั่งดูรัตนาวดีได้ยินท่านดนัยบอกเป็นนัยๆว่า  เดี๋ยวในอนาคตตัวเองจะพาท่านหญิงรัตนาวดีเที่ยวเองโดยไม่ต้องพึ่งเงินของท่านชายพจน์ฯ  แล้วเกิดอาการเพ้ออยากให้ใครมาดูแลเราแบบนั้นบ้าง  พอดูจบก็กลับมาสู่ความจริงที่ว่า  ชีวิตจริงไม่มีใครพูดแบบนั้นหรอก  นอกจากพ่อแม่เรา...

       ...เผลอๆ  แม้แต่พ่อแม่เรา  พอถึงจุดนึงก็ยังเดินมาบอกเราว่า........"เลี้ยงตัวเองเถอะ"

         มีใครคุ้นๆว่าตัวเองเคยเพ้อแนวนี้มั้ยคะ ?



         การเสพนวนิยายหลายครั้งก็ทำให้เราฝันเฟื่อง  คอยเพ้อไปว่า  บางที  ฉันก็อาจจะเป็นนางเอกกับเขาบ้าง  มี....ชาย(เชิญเติมคำในช่องว่างตามศรัทธา  คุณ/ท่าน/เจ้า/ผู้  ฯลฯ)  มาคุกเข่าแล้วบอกเราว่า  เราคือสุดที่รักของเขา....

         น้ำเน่าสิ้นดี!!!


        ตื่นๆๆ  ลืมตามาดูเถิด  นางเอกนิยายไม่ได้เยอะแยะจนหาได้ตามท้องตลาดขนาดนั้น  โอเค  ถามว่ามีไหม  ก็คงมี  แต่คือต้องเข้าใจว่าพ่อพระในนิยายไม่ได้กระโดดออกมามากพอสำหรับทุกคน...

        .........อย่างน้อยๆก็ไม่ได้ออกมาเจอเราละกัน  เหอๆๆ  (เชิญถอนหายใจได้)


        เพราะชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน  ไม่สามารถมีทุกอย่างได้เท่ากัน  แม้แต่คนเกิดในฤกษ์เดียวกัน(วันหลังจะเล่าเรื่อง  "ฤกษ์"  ในทางโหราศาสตร์ให้ทีหลังนะ)  ก็ยังดีไม่เท่ากันเลย

        คนราชาฤกษ์บางคนเกิดมาราวกับราชา  พรั่งพร้อมด้วยบริวาร  สมบัติ  และความสามารถ  ในขณะที่ราชาฤกษ์บางคนเหมือนจ้าวไร้บัลลังก์ ...
        ........แค่คนจะมองยังไม่มี  อย่าหวังไปถึงขึ้นครองราชย์......
        [เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพเท่านั้น]


         ในชีวิตจริงก็ไม่ต่างกัน  ความเป็นอยู่อย่างสุขสบายและมีคนข้างกายดูแลอาจเป็นเรื่องแค่เอื้อมมือไปก็เจอสำหรับบางคน  ในขณะที่บางคน  แค่เลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดไปวันๆได้ก็พอแล้ว


         ไม่ได้จะยุให้โทษโชคชะตาหรืออิจฉาใคร  ไม่ได้หวังว่าอ่านแล้วจะนั่งทอดหุ่ยกับชีวิต  และลืมไปได้เรื่องจะสอนให้ทำตัวให้เป็นนางเอกเพื่อจะได้ให้ใครสักคนเข้ามาเป็นพระเอกในชีวิตจริง
         .........คนเขียนยังไม่มีปัญญาทำ  ให้สอนคนอื่นคงไม่ได้  (แต่เรื่องทอดหุ่ยหรืออิจฉาไรนี่  คงไม่ต้องสอนกันกระมัง  ควรจะสอนให้เลิกเสียด้วย  ซึ่งยังทำไม่ได้เช่นกัน...)


          แค่จะยุว่า  มาพึ่งตนเอง  มาอยู่กับตนเองอย่างเป็นสุขกันเถอะ

          ความหวังน่ะตั้งได้  เพราะหลายครั้งที่ความหวังเป็นยาชูกำลังชั้นดี  แต่ก็ไม่ใช่เอาแต่หวังจนลืมความเป็นจริงตรงหน้า  ว่าเราต้องดูแลตัวเอง  ทำตัวเองให้ดี  ให้มีความสุขให้ได้  ทำยังไงก็ได้ให้ชีวิตในแต่ละวันน่ะ....มันโอเคที่จะอยู่ต่อไป  ทำสิ่งที่ชอบ  ใช้เวลากับคนที่รัก  ทำบุญ  พบปะเพื่อนฝูง  ฯลฯ

           มีน่ะ  มันต้องมีสักอย่างแหละ


          การเกิดเป็นจ้าวที่ไม่มีใครให้บัลลังก์ไม่ได้หมายความว่าเราต้องดูถูกตัวเอง  ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำให้ตัวเองฉลาดขึ้นและพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งๆขึ้นไปไม่ได้  ยังไงก็เกิดมาแล้วย่อมต้องสู้ชีวิต  ถ้าวันนึงใครเขาจะมอบมงกุฎให้เราจะได้ภูมิใจว่าเราคู่ควร  หรือแม้แต่ต้องเป็นสามัญชนตลอดไป  อย่างน้อยเราก็สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้โดยไม่เดือดร้อน


           ทำตัวเองให้ดีพอและพอดีกับตัวเองก่อน  มีความสุขกับตัวเองให้ได้เสียก่อน  พัฒนาตัวเองให้แกร่งเข้าไว้  ถ้าชีวิตจะมีคนๆนั้นจริงๆ  สักวันใครอาจถีบส่งมาให้เอง  แต่...ถ้าไม่มี  อย่างน้อยเราก็มีตัวเองเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งแล้ว  มีตัวเองเป็นหลักให้ชีวิตได้แล้ว  และสามารถเลี้ยงชีพได้  ยืนบนลำแข้งของตัวเองได้อย่างภาคภูมิใจแล้ว  จะมีหรือไม่มีใคร  จะเป็นไรไปเล่า


            แถมยังไม่เสียดายที่เกิดมาด้วยนะ  ;)


       

ความคิดเห็น

  1. ถ้าสังเกตดีๆ นางเอกส่วนใหญ่จะไม่ใช่คนที่สมบูรณ์พร้อมที่สุดในเรื่อง ไม่มีนางเอกที่หวังจับพระเอก นางเอกของเรื่องต้องคิดจะดูแลตัวเอง.... คนเขียนนี่มีคุณสมบัติของนางเอกนะคะ 5555 เห็นด้วยกับแนวคิดค่ะ สงสัยจะเป็นนางเอกเหมือนกัน 555

    ตอบลบ
  2. หาพระเอกของตัวเองไม่ได้ค่ะ สงสัยไม่มาเกิด หึหึ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ