รักภาษาอะไร

     ดูข่าวตั้งแต่เมื่อวานถึงวันนี้  เจอเหตุการณ์ทำนองเดียวกันสามเรื่อง  คือการทำร้ายกันโดยมีความรักเป็นมูลเหตุ

     เหตุการณ์แรกเหมือนจะเป็นเหตุการณ์แฟนเก่ายิงแฟนใหม่(จริงเท็จไม่ยืนยันนะ  เอาที่สรุปได้ถึงตอนที่ดู)
     ดีอยู่หรอกที่ไม่ยิงผู้หญิง....ว่าแต่  เลิกกันไปตั้งสองปีเพิ่งจะหึง  ความรู้สึกช้าเหรออออ(เอ...หรือจริงๆตั้งใจจะยิงผู้หญิง???)

      เหตุการณ์ที่สอง ยิงภริยาเก่า(ตายรึเปล่าไม่แน่ใจ  น่าจะตาย)  เพราะขอคืนดีแล้วอีกฝ่ายไม่ยอม  ทั้งๆที่ตัวฝ่ายชายก็มีภริยาใหม่แล้ว  แถมตอนอยู่ด้วยกัน  เคยทำร้ายร่างกายถึงขั้นเอาสายไฟรัดคอมาแล้ว...
  เชิญคุณผู้อ่านคิดคำด่ากันได้ตามศรัทธา  ผู้เขียนคงคิดไม่ต่างกัน

     เหตุการณ์ล่าสุด  ข่าวเพิ่งจบไปตะกี้  แทงภริยาท้องหกเดือนจนตาย  เพราะเหตุหึงหวงกลัวภริยาไปมีผู้ชายใหม่...
     ระวังมี...ขี่คอแบบเรื่องชัตเตอร์นะเอ็ง  ตายทั้งกลมเสียด้วย


     เราพยายามจะเชื่อนะ  ว่าผู้ชายดีดีในประเทศไทยยังมีอีกเยอะ(ดังทีเพจ Lovesick ว่า)  แต่จากข่าว  เราค่อนข้างจะเชื่อเหลือเกินว่า....

     ข่าวผู้ชายทำร้ายแฟน  อดีตแฟน  แฟนใหม่ของอดีตแฟน  หรือแม้แต่ครอบครัวของแฟนหรือแฟนเก่า...
            เยอะไม่แพ้ชาติใดในโลก!!!



     เห็นแล้วมันหงุดหงิด  ไม่ว่าจะในฐานะผู้หญิงคนนึง  หรือไม่ว่าจะในฐานะมนุษย์คนหนึ่งก็ตาม  ยิ่งได้ยินคำแก้ตัวยิ่งหงุดหงิด

     คำแก้ตัวส่วนมากที่ได้ยินคือ  "เพราะรักมาก  จึงหวง/หึงมาก  ไม่อยากให้อีกฝ่ายรักใครนอกจากตัวเอง  ไม่อยากเลิก  บลาๆๆๆ"


     ธ่อ  ไอ้เวรรร  คนเซ่อๆซ่าอย่างชั้นยังดูออกเลย  ว่าสิ่งที่แกทำ  มันไม่ใช่ความรัก  มันคือความเห็นแก่ตัว!!!

     เพราะความรักที่แท้จริงคือความปรารถนาให้อีกฝ่ายมีความสุข  แม้ว่าความสุขนั้นจะไม่มีเราอยู่ด้วยก็ตาม

   
     อ๊ะๆ  คนเขียนไม่ได้คิดคนเดียวนะ  แม้แต่ศาลฎีกายังคิดคล้ายๆกันเลย  ไม่เชื่อไปอ่านคำพิพากษาฎีกาที่ 6083/2546  ดูสิ  ศาลฎีกายังได้กล่าวถึงความรักไว้เลยว่า

     "... ความรักเป็นสิ่งที่เกิดจากใจไม่อาจบังคับกันได้ ความรักที่แท้จริงคือความปรารถนาดีต่อคนที่ตนรักความยินดีที่คนที่ตนรักมีความสุข การให้อภัยเมื่อคนที่ตนรักทำผิด และการเสียสละความสุขของตนเพื่อความสุขของคนที่ตนรัก..."


     ไม่ใช่เอาความรักมาอ้างเพื่อเอาเปรียบกันหรือชิงลมหายใจออกจากร่างอีกฝ่ายอย่างพวกแก!!!



     พอเราอารมณ์ไปเม้งกะพ่อ  พ่อก็ใส่ทันที  "ผู้ชายมันเลวแบบนี้แหละ  สังคมผู้ชายเป็นใหญ่ก็งี้  ยิ่งพวกบางบ้านที่เลี้ยงลูกชายเป็นเทวดา  ทุกอย่างต้องได้ดั่งใจหมด  ไม่งั้นทนไม่ได้..."

     เผอิญว่าพ่อเป็น  "ผู้ชาย"  ที่ร่วมด้วยช่วยด่า  "ผู้ชาย"  กับ  "ลูกสาว"  เป็นประจำ  หุหุหุ

     แต่บางส่วนของคำพูดพ่อนั้นดูมีประเด็น....


     ไม่เอาเพศมาเกี่ยวข้องก็ได้  แต่การปลูกฝังให้ใครสักคนเป็นคนเอาแต่ใจ  อยากได้อะไรต้องได้  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในระยะยาวอาจสร้างผลต่อตนและคนรอบข้างได้อย่างเจ็บแสบนัก

     เพราะการเชื่อว่าโลกต้องหมุนรอบตัวเองทำให้คนหลงลืมความจริงไปว่า  จริงๆแล้วโลกไม่ได้หมุนรอบเรา  เราต่างหากที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับมัน

     แย่กว่านั้นคือเห็นว่าตัวเองเป็นใหญ่  ไม่เห็นหัวคนอื่น  ไม่เห็นถึงจิตใจคนอื่น  คิดแต่ว่าตัวเองต้องได้ดังที่อยากได้เท่านั้น  และหากไม่ได้
     ..........ก็ต้องทำลายทิ้ง  คนอื่นไม่มีสิทธิได้!!!

     อย่าหวังเรื่องความรักบริสุทธิ์เสียให้ยาก  คนแบบนี้เห็นแต่ตัวเองเท่านั้นแหละ



     คำถามคือ.......แล้วเราจะปล่อยให้เรื่องมันเป็นไปแบบนี้เรื่อยๆ  จริงๆหรือ  ทุกวันนี้ผู้หญิงยังลำบากไม่พอหรือไร  หรือถ้าไม่เข้าข้างใคร  มีกี่คนแล้วที่ต้องเสียใจ  เสียกาย  เสียชีวิตจากความคิดฝังหัวแบบนี้ของคนๆหนึ่ง  หรือคนกลุ่มหนึ่ง

     ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราต้องปลูกฝังลักษณะนิสัยที่รักเป็น  ปลูกฝังนิสัยน่ารักและเห็นแก่ผู้อื่นไม่น้อยไปกว่าเห็นแก่ตัวเอง  ลงในจิตใจของผู้คน

     ถ้าเอาใส่หัวคนรุ่นของผู้เขียนหรือแก่กว่านั้นมันยากไป  ลองปลูกฝังใส่เยาวชนยุคนี้ดูไหม  หรือใครก็ได้.....ที่เมื่อเขาเป็นคนในแบบที่ควรจะเป็นแล้ว  จะทำให้สังคมมันน่าอยู่ยิ่งขึ้น


     ให้ภาษารักเป็นภาษาแห่งการสร้างสรรค์  ไม่ใช่ข้ออ้างมาบั่นทอนกันและกัน


     หรือจะปล่อยให้คนที่ไม่คุ้นกับความรักกลัวความรักไปเรื่อยๆเมื่อได้เสพข่าวเหล่านี้  แล้วคอยถามตัวเองไม่หยุดว่า

      นี่มันรักภาษาอะไร.......................วะ???