ไดอารี่เมื่อวาน : วันเรียนวันสุดท้าย



     ขอใช้พื้นที่บล็อกเป็นไดอารี่หน่อยเถอะนะ...



     วันนี้ออกจากบ้านด้วยความลั่ลล้า  เพราะใส่เสื้อทีมฟุตบอลทีมโปรดเวอร์ชั่นล่าสุดซึ่งประทับหมายเลขนักบอลที่ชื่นชอบ  ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของแฮทริคแรกในบอลโลก 2014 ออกจากบ้าน...
     
     แม้จะเขินนิดหน่อย  แต่ไม่ทำให้ความอิ่มเอมใจลดลงแต่อย่างใด



     ไปถึงห้องเรียนและนั่งที่แล้วก็หยิบอุปกรณ์การเรียนมาวางบนโต๊ะ  มองไปทางกระเป๋าดินสอ  ว่าแล้วจึงเปิดกระเป๋า  หยิบพวงกุญแจชุดทีมโปรด(อันนี้ชุดเก่า  อิอิ)มาห้อยกระเป๋าดินสอใหม่
   
      ยิ้มให้พวกกุญแจอยู่อย่างนั้น...



     นั่นเรียนไปพักหนึ่ง  ฟังอาจารย์พูดราวกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย  เอ...กำหนดการในเวบเขียนว่าเรียนถึงสัปดาห์หน้านี่นา

     รอจนพักจึงไปถามพี่เจ้าหน้าที่ด้านนอก  คำตอบคือ  "วันนี้วันสุดท้ายค่ะ"

     เดินเข้าห้องมาอย่างงงๆ  แล้วจึงไลน์ไปบอกเพื่อนซึ่งติดภารกิจเล็กน้อยและจะมาเรียนในช่วงบ่าย...

     วันสุดท้ายก็วันสุดท้าย....วะ  



     พักเที่ยง  หิ้วปิ่นโตไปกินนอกห้อง  จัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อย  กลับมานั่งที่เดิม  เห็นว่าโต๊ะด้านหลังซึ่งว่างอยู่มีพี่ที่นั่งข้างๆกัน  ถืออาหารมานั่งทานกลางวันอยู่

     ......รู้สึกทำตัวไม่ถูก......

    สักพักพี่เขาเริ่มชวนคุย  คุยไปคุยมาเกิดถูกคอ  จึงแลกเปลี่ยนความเห็นกันอยู่จนจวนจะได้เวลาเรียน  ค่อยแยกย้ายกันไป

     แล้วพี่เขาก็ขอเบอร์โทรศัพท์และเราให้ไอดีไลน์ไปด้วย  (แต่วันนี้ยังไม่ติดต่อมา  ไม่ว่าด้วยทางใด)  พี่เขาพูดออกมาคำหนึ่ง

     "เราน่าจะได้คุยกันตั้งนานแล้วนะน้อง  เรานั่งอยู่ใกล้กันด้วย"

     เรายิ้มไม่พูดอะไร.....


     เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น  อันที่จริงมันเหมือนหนังฉายซ้ำเสียด้วย  หลายครั้งที่กว่าเราจะได้คุย  ได้สนิทกับใคร  นั่นก็ปาเข้าไปช่วงสุดท้ายที่จะได้อยู่ด้วยกันแล้ว

     ยังจำได้ตอนที่ได้คุยจริงๆจังๆกับยายรหัส  นั่นคือช่วงที่ยายรหัสกำลังจะรับปริญญาแล้ว

     เพราะฉะนั้น  นี่ไม่ใช่ครั้งแรก  และเราเชื่อว่ามันคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายด้วย



     ในสายตาคนทั่วไป  เราคือคนเงียบที่ไม่สุงสิงกับใคร

     นั่นไม่ใช่เรื่องผิด  แต่ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว

     ใช่  เราไม่คุยกับใคร.........เท่าไหร่นัก  มนุษยสัมพันธ์เราไม่ค่อยดี  ทั้งทักษะด้านสังคมเรานั้นต่ำมาก

     .........แต่ไม่ได้แปลว่าเราพูดไม่เป็น  และยิ่งไม่ใช่หมายความว่า  เราคุยไม่เก่ง

     ตอนพี่เขาชวนคุย  เราก็คุย  คุยมากด้วย  อยากรู้อะไรหากรู้  เราตอบทุกเรื่อง  เพียงแต่สันดานเสียประการเดียวของเรานั่นคือ

     .........เราไม่ขอเป็นคนแรกที่เปิดปากเจื้อยแจ้ว  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่ไม่รู้จัก  หรือคนที่ไม่สนิท  แค่นี้เอง



     ในที่สุดการเรียนได้จบลง  ท่านอาจารย์อวยพรให้ทุกคนโชคดีในการสอบและประสบความสำเร็จในชีวิต

     เราเก็บของ  หันไปไหว้ลาอาจารย์อีกครั้ง(ท่านอาจไม่เห็น  คนมันเยอะ)  แล้วหันหลังกลับ

     เสียงพี่คนนั้นลอยมาตามลมเพื่อบอกลา  อวยพรให้โชคดี  และโบกมือบ๊ายบาย

     ...นี่เป็นครั้งแรกในการเรียนที่นี่  ที่มีคนโบกมือลาตอนเราจะกลับ  และดูเหมือนจะเป็นครั้งสุดท้ายด้วยล่ะนะ



     เวลาที่มีกันอาจแสนสั้น  แต่การได้รู้จักและรับใครสักคนเข้ามาในชีวิตช่างเป็นสิ่งที่มีค่า  ควรแก่การจดจำ

     ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนกันกี่วัน  ถ้าใจยังมีกัน  เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป

      ขอบคุณทุกสิ่งอย่างสำหรับเวลาที่อยู่ที่นี่.....


     เหนือสิ่งอื่นใด  ขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ประสิทธิประศาสตร์วิชาความรู้ให้  ลูกศิษย์คนนี้จะใช้มันให้มีค่าที่สุดเท่าที่คนตัวเล็กๆคนหนึ่ง  สามารถกระทำได้....


     ...สวัสดีค่ะ...

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ