มหรสพเงียบ




     มนุษย์เป็นสัตว์สังคม

     และเราเดาว่า  สาเหตุหนึ่งคงเพราะ  มนุษย์ต้องการการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน
     ...หรือพูดง่ายๆ  มนุษย์ต้องการได้ยิน "เสียง" ของคนรอบตัว  เพื่อให้ตนเองไม่รู้สึกเงียบเหงาจนเกินไป 

   
     แต่กระนั้น  ก็ยังมีมนุษย์กลุ่มหนึ่ง  ที่นิยมชมชอบในการอยู่ตามลำพัง 

     คนกลุ่มนี้คือ  มนุษย์เงียบ  เอ๊ย  ไม่ใช่  มนุษย์โลกส่วนตัวสูง  ต่างหาก 

     (เพื่อให้สะดวกในการเขียน  ต่อไปนี้จะแทน "มนุษย์"  ด้วย  "คน")


     คนประเภทชอบเข้าสังคมมักเข้าใจว่าคนโลกส่วนตัวสูงมักจะอยู่กับ "ความเงียบ" เป็นส่วนใหญ่ 

     แต่  คุณเชื่อจริงๆน่ะหรือ  ว่าเราอยู่แบบไร้เสียงโดยสิ้นเชิงน่ะ



     ถ้าใครสักคนลองชะโงกเข้าไปในโลกของคนกลุ่มนี้  คุณอาจพบว่าพวกเขาไม่ "เงียบ เสมอไป

     ที่สังเกตได้ชัดเจนที่สุด  คือพวกโลกส่วนตัวสูงที่ขลุกอยู่กับการดูรายการต่างๆหรือการฟังเพลง  พวกนี้ไม่เงียบแน่ๆ
     ....ก็พวกนี้มันต้องใช้เสียง  ถ้าทำให้เงียบจะดูหนังฟังเพลงรู้เรื่องได้ยังไง(วะ?) 


     ก็อาจมีคนเถียงว่า  พวกขลุกอยู่กับงานอดิเรก หนังสือ  หรือการเขียนไง  เงียบชัวร์ 
     แน่เหรอ?

     .....งานอดิเรกประเภทดนตรีน่ะมีเสียงแน่แบบไม่ต้องสืบ
     .....การฝึกถ่ายภาพก็มีเสียง  เว้นแต่ตั้งให้ชัตเตอร์เงียบ
     .....เล่นเกมก็มีเสียงนะ  เรื่องของเรื่องคือเกมบางเกมดนตรีมันเพราะดีน่ะ 
     .....ฯลฯ

     มาถึง  "หนังสือ"  กับ  "การเขียน"  บ้าง


     การอ่านหนังสืออาจดูเหมือนเป็นกิจกรรมไม่ใช้เสียง  แต่รู้หรือเปล่า  บางที  เราก็อ่านออกเสียง  เอ๊ย  ไม่ใช่ 
     อ่านแล้วเห็นด้วยออกรสชาติเลยพูดเองเออเอง  ก็ไม่ใช่อีก  (แต่เป็นจริงนะ  อุ๊บส์)
     แต่  ที่อ่านแล้วไม่เงียบน่ะ  เป็นเพราะหนังสือทำให้พวกเราเกิดความคิด  และความคิดพวกนี้แหละที่ดังก้องในหัวเราเป็นระยะๆ  ในขณะที่เราอ่านหนังสือ 

     ส่วนการเขียน  การจะเขียนนั้นต้องคิด  ความคิดนี้เองที่ดังก้องในหัวเราเช่นกัน  ยิ่งถ้าแต่งร้อยกรองนะ  บางครั้งมันดังเป็นจังหวะตามสัมผัสของบทจนเราเผลอขยับมือตามเชียวล่ะ 


     การที่คุณไม่ได้ยินเสียง  ไม่ได้แปลว่าไร้เสียงเสมอไป



     นอกจากกิจกรรมเหล่านั้นแล้ว  เสียงในหัวจะเกิดขึ้นอีกกรณีหนึ่ง  คือตอนที่เรากำลังเบื่อๆ

     สำหรับคนเข้าสังคมทั่วไป  เวลาคุณเบื่อ  คุณคงหันไปคุยกับคนข้างๆใช่ไหม  แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราทำ  เพราะ  โดยทั่วไป  หากเราไม่สนิทกับคนข้างๆแล้วล่ะก็....
     เราจะคุยกับตัวเอง

     งง  งงล่ะสิ 

     ก็  ไม่มีอะไรมาก  เราก็แค่นึกอะไรเรื่อยเปื่อยของเราไปเรื่อย  เราอาจจะแอบวางแผนชีวิตในวันสุดสัปดาห์  หรืออาจจะคิดว่าเย็นนี้จะกินอะไรดี
     หรือไม่  หากเป็นเรื่องเป็นราวกว่านั้น  บางที  เราอาจจะนึกเรื่องครื้มอกครื้มใจอยู่  หรือไม่  เราอาจจะนั่งแต่งนิยายหรือเขียนบทความในหัวให้ตัวเองฟังไปเรื่อยๆ  จนกว่าเราจะมีสมาธิกลับมาอยู่กับสิ่งตรงหน้าอีกครั้ง 
     เราแต่งนิยายสนุกนะ  เผื่อคุณไม่ทราบ  แต่เอาเถอะ  มันอาจจะสนุกแค่กับเราก็ได้ 

     มีอะไรมากกว่าพวกนี้มั้ย  มีนะ 


     บางที  เวลาเบื่อหรือง่วงจริงๆ  เราจะแก้เบื่อด้วยการเปิดคอนเสิร์ต....ในใจ 

     เราอาจจะแค่ฮัมเพลงหรือร้องเพลงอยู่ในหัวเฉยๆ  หรือถ้าเราอยากให้สนุกกว่านั้น  เราอาจจินตนาการตัวเองใส่ชุดเป็นนักร้อง  จับไมค์  เล่นกีตาร์  แล้วก็ร้องเพลงไปเต้นไปเรื่อยๆจนกว่าจะพอใจ
     ....แค่ต้องควบคุมร่างกายไม่ให้มันออกอาการตามแบบเวอร์วัง  เพราะเรายังไม่อยากถูกจับส่งโรงบาลบ้า

     ถ้าคุณเห็นคนเงียบๆสักคนนั่งเหมือนอยู่ในภวังค์อยู่คนเดียว  และบางทีก็ยิ้มมุมปากน้อยๆ  ลองสะกิดจี้ถามดูก็ได้  ถ้าโชคดี  คุณอาจได้ทราบความเป็นไปในหัวเขา 
     ...ถ้ามั่นใจว่าดวงดีพออ่ะนะ 


     เห็นไหม  ในหัวเราสนุกจะตาย  เหมือนมรสพเคลื่อนที่เลย  คุณแค่ไม่ได้ยินสิ่งเหล่านี้เท่านั้นเอง



     กล่าวโดยสรุป

     คนโลกส่วนตัวสูงอย่างเรายอมรับว่าเรามักชอบอยู่เฉยๆและไม่ค่อยสุงสิงกับใคร 

     แต่....เรา  "ไม่ได้เงียบ" 


     เรามีโลกบันเทิงส่วนตัวอยู่แล้ว  นั่นคือเสียงในหัวของเรา  และมันก็สนุกมากพอที่จะทำให้เราสามารถนั่งอยู่ตามลำพังได้โดยไม่รู้สึกเบื่อหรือเดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด 

     คุณก็แค่  "ไม่ได้ยิน"  มัน 

     เท่านั้นเอง 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ