หายเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ
"ยังไม่หายอีกเหรอ"
หลังจากที่อดทนมานานมากจนทนไม่ไหวแล้วและหลุดไอออกมา เสียงนี้ก็เข้ามากระทบหู
'หายก็ไม่ไอแล้วสิวะ' เปล่า นี่คือสิ่งที่คิด ส่วนที่ตอบไปนั้นคือ
"ก็ดีขึ้นแล้วแหละ แต่อยู่ห้องแอร์นานไปมั้งเลยไอ"
ว่ากันตามสามัญสำนึกคนทั่วไปแล้ว คงไม่มีใครอยากป่วย เพราะความเจ็บป่วยถือเป็นความทรมานอย่างหนึ่งที่ร่างกายและจิตใจต้องประสบและฝ่าฟัน
แม้ว่าบางครั้ง คนเราจะไม่สมหวังเสมอไป
และแล้วคนๆหนึ่งก็เจ็บไข้ได้ป่วยเข้าจนได้
ใครบางคนเคยพูดไว้ประมาณว่า การเป็นหวัดกับความรัก เป็นสิ่งที่ไม่สามารถปิดบังได้
....ไม่จริงหรอก
ความรักนั้นปิดบังได้ ได้ง่ายมากเสียด้วย ยิ่งถ้าเรายังหลงเหลือสติปัญญาในตัวอยู่พอสมควร แล้วก็ดันเป็นคนเงียบขรึมไม่ค่อยสุงสิงกับใคร
....หากแอบรักใครขึ้นมา ใครจะไปรู้
แต่กับหวัดนี่ ท่าจะจริง ยิ่งถ้าป่วยเป็นไอด้วยแล้วล่ะก็ แม้จะพยายามกลั้นไม่ให้ไอสักเพียงใด สุดท้ายก็เหมือนจะไอออกมาจนได้
การคันคอจนต้องไอออกมานี่มันทำให้เสียสุขภาพจิตมากจริงๆนะ
พอป่วยไข้แต่ละครั้ง สิ่งที่เราทำคือ รักษา
มียาก็ทานยา เสื้อผ้าก็พยายามใส่ให้อุ่นๆ น้ำอุ่นจิบมากขึ้น บลาๆๆ
แต่ถามว่า รักษาแล้วทำไมยังไม่หาย
ก็ไม่รู้เหมือนกันแหละ!!!
แล้วก็นะ มีใครบ้างไม่อยากรักษาให้หาย แต่รักษาแล้วมันก็ยังไม่หายน่ะสิ
ที่ถามอยู่นั่นแหละว่าทำไมไม่หายน่ะ มารักษาให้หน่อยมา หรือถ้าให้แสบกว่านั้น
มาเป็นเองดูมั้ยล่ะ!?!
ด้วยเหตุนี้ คำถามประเภทว่า "ทำไมยังไม่หายป่วย" จึงเป็นคำถามที่ตอบได้ยากที่สุดคำถามหนึ่ง
...สำหรับเรา
และถ้าจะให้เราตอบแบบยาวๆสำหรับคำถามนี้ เราก็คงจะตอบว่า
"เราก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เราก็กำลังรักษาอยู่นะ"
บางที ชีวิตของคนที่ป่วยบ่อยๆอาจจะอยู่ง่ายขึ้น หากคนรอบข้างจะรู้จักเอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับอาการป่วยบางอย่างไปเสียบ้าง ตราบใดที่มันยังไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนแบบเฉพาะเจาะจง
เช่น ไอใส่หน้าตรงๆ หรือน้ำมูกกระเด็นใส่ๆ
ส่วนอาการไอแบบสุดกลั้นน่ะ ปล่อยผ่านได้ก็ปล่อยผ่านไปเสียบ้างเถอะ
อย่าถามย้ำนักเลยว่า ทำไมยังไม่หาย โปรดรู้เถิดว่านี่ก็กำลังพยายามรักษาให้หายอย่างสุดความสามารถเหมือนกัน
เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่มันจะหาย แต่เอาเป็นว่าเรากำลังรักษาอยู่
หายเมื่อไหร่ก็รู้เองนั่นแหละ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น