วิธีพิชิตใจคนไม่พูด



     โลกนี้มีคนจำนวนมากที่เป็นบุคคลทรงเสน่ห์  เขาหรือเธอเหล่านั้นมักเป็นบุคคลหน้าตาดี  มีบุคลิกที่ดึงดูดให้คนเข้าใกล้  ยิ้มง่าย  คุยเก่ง  เป็นมิตร  และอีกหลายอย่างที่ทำให้คุณละสายตาจากเขาได้ยาก
     ......แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายของเราในวันนี้


     แล้วก็ยังมีคนอีกประเภทหนึ่ง  ประเภทที่เหมือนจะเป็นส่วนน้อยในสังคม(แบบว่าไม่ค่อยเจอใคร  เลยไม่ค่อยมีโอกาสแพร่พันธ์ุ  อุ๊บส์)  ประเภทที่นั่งเงียบเป็นเป่าสาก  ไม่ค่อยทักหรือคุยกับใครก่อน  เจอใครก็ยิ้มบางๆ  ทำตัวกลมกลืนไปกับกำแพง  และถนัดที่จะเป็นผู้ฟังมากกว่าผู้พูด 
     ....เป็นพวกที่ชอบทำตัวหายไปจากสายตา 

     แต่กับบางคนที่ชอบทำตัวแบบนี้  คุณกลับไม่รู้สึกว่าเขาอยู่นอกสายตาเลยสักนิด  อย่างน้อย  ก็ในสายตาของคุณ
     ฮั่นแน่....หลงเสน่ห์คนเงียบเข้าแล้วล่ะสิ

     มา  มาเรียนรู้วิธีผูกสัมพันธ์กับคนเงียบกัน  ไม่แน่นา  บางที  เขาอาจจะมีอะไรดีๆมากกว่าที่เห็นภายนอกก็ได้



     ต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่า  นี่ไม่ใช่ทฤษฎีที่คิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์คนใดหรือสอนเป็นหลักสูตรจากที่ไหน  ข้อความต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นโดยคนเงียบ  เพื่อบอกเล่าเก้าสิบว่า  วิธีไหนกันที่ทำให้เรารู้สึกว่า  เราโอเคกับการที่มีคุณอยู่ในชีวิต

     มาเริ่มกันเลย 


     1. กรณีที่ไม่รู้จักกันมาก่อน  สิ่งที่คุณไม่ควรทำอย่างยิ่งก็คือ  เดินเข้าไปแล้วบอกอย่างโจ่งแจ้งไปเลยว่า  จีบนะ
   
     คือ  มันก็รู้สึกดีอยู่หรอกที่มีคนมาสนใจ  แต่การที่คุณจะเริ่มสตาร์ทจากคนไม่รู้จักกันให้กลายเป็นคนจะจีบเลยเนี่ย  มันดูก้าวกระโดดไปหน่อย  เพราะคนเงียบไม่ชอบอะไรที่กะทันหันและเอะอะมะเทิ่งมากเกินไป
     อะไรคือเอะอะมะเทิ่งอ่ะเหรอ  ก็วิธีที่คุณใช้นี่ไงล่ะ  (ยัง  ยังไม่รู้ตัวอีก) 

     แล้วก็ได้โปรดอย่าโปรยเสน่ห์ด้วยวิธีเดียวกับที่ใช้กับคนเสน่ห์แรงด้วยการจ้องมองจนคนเงียบหันมาแล้วยิ้มให้...
     พุทโธ่  แค่คนไม่สนิทยิ้มให้โดยที่เรายังไม่ได้เตรียมใจ  บางทีเรายังลังเลที่จะยิ้มตอบเลย  แล้วนึกหรือว่าเราจะยิ้มตอบคนที่เราไม่รู้จัก
     ไม่มีทาง!!!

     สิ่งที่คุณควรทำคือการ  "เนียน"  เข้าไปเป็นเพื่อนให้ได้ก่อน  ประมาณว่าแบบ  เออเนี่ย  ไหนๆก็เรียนที่เดียวกัน  เป็นเพื่อนกันนะ  บลาๆๆ 
     ก็อย่างที่บอกว่าคนเงียบไม่ชอบเข้าหาใครก่อน  มีคนมาขอเป็นเพื่อนกับเราเนี่ย  เราชอบ  เราโอเค  ตราบใดที่เรารู้สึกได้ว่าคุณจริงใจ  เรายินดีเป็นเพื่อนด้วยทั้งนั้นแหละ

     ว่าแต่  อย่ารุกเกินไปหรือทำหื่นนักล่ะ  เดี๋ยวไก่ตื่นหมด


     2. สิ่งหนึ่งที่คนชอบคิดไปเองเกี่ยวกับคนเงียบก็คือ  คิดว่าเขาเงียบไปเสียทุกเรื่อง  หรือไม่  ก็ไม่มีเรื่องอะไรจะคุยเลย...
     ....ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด

     ถามแบบหยาบคายที่สุด  คุณคิดว่าคนสมองกลวงสามารถนั่งบื้อใบ้ไม่คุยกับใครอยู่นานสองนานได้จริงๆเหรอ  แค่คิดก็ไม่มีทางแล้ว 

     คนเงียบมีความคิดมากมายพรั่งพรูอยู่ในหัว  ทั้งยังมีเรื่องบางเรื่องที่ให้ความสนใจอย่างจริงจัง  โจทย์ก็คือ  คุณแค่ต้องหาให้ได้ว่า  สิ่งที่คนเงียบสนใจนั้น  คืออะไร
     ไป-หา-เอา-เอง

     จริงๆหากเป็นเพื่อนกันในโลกออนไลน์  เช่น  ig, facebook  การหาจะง่ายมากนะ  คุณแค่คอยสังเกตว่าเขาโพสต์เรื่องเกี่ยวกับอะไร  ตามกดถูกใจเรื่องอะไรบ้าง  เก็บข้อมูลไว้  จากนั้นลองชวนคนเงียบคุยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ดู  ถ้าโชคดี  คุณอาจเห็นแววตาเป็นประกายของเขาเวลาที่พูดถึงเรื่องเหล่านั้น
     ถ้าโชคดีกว่านั้น...คุณอาจได้เห็นเขาพูดจ้ออะไรออกมามากมาย  จากเรื่องที่เขาสนใจนั่นแหละ

     คนเงียบบางคน  บทจะพูดเก่งก็พูดเก่งมากเลยนะ  จะบอกให้


     3. อีกความเข้าใจผิดนึงก็คือ  คนมักคิดว่าคนเงียบมักจะสื่อสารไม่เก่งเลยทุกช่องทาง
     ซึ่ง  มันไม่จริง...เสมอไป 

     คนเงียบบางคนเป็นคนคุยเก่งประเภท  คุยทางตัวอักษรเก่ง  และเพื่อทดสอบว่าคนเงียบคนนั้นเป็นดังว่าหรือไม่  ลองแอ๊ดไลน์,  we chat,  facebook messenger  หรือแม้แต่เวลาเขาโพสต์อะไร  ลองไปคอมเม้นท์เป็นเรื่องเป็นราวดู  แล้วดูว่าเขาตอบเป็นเรื่องเป็นราวกลับมาหรือไม่ 
     ถ้าใช่  นั่นแหละ  เขาคุย...ทางตัวอักษร...เก่ง 

     จากนั้นก็ลองหาเรื่องคุยด้วยการแชทไปบ่อยๆ  จะใช้เรื่องที่เขาสนใจเป็นจุดเริ่มต้น  จะอ้างเรื่องงานเพื่อเป็นเหตุแห่งการสนทนา  จะแชร์ข่าวสารในสิ่งที่คุณและเขาต่างสนใจร่วมกัน(กรณีที่หาเจอ)  หรือแม้แต่คำถามแบบ  'สวัสดี' 'เป็นไงบ้าง'
     อะไรก็ได้  ทักไปเหอะ  คนเงียบชอบ  เพราะจริงๆเราอยากคุย  แต่เราไม่รู้ว่ามีใครอยากคุยกับเรามั้ย  การที่คุณทักมาก่อนเป็นการให้คำยืนยันว่า  คุณอยากคุยกับเรา  และเมื่อเป็นเช่นนั้น  เราก็จะคุยกับคุณ
     ....เพราะเราไม่ค่อยมีคนคุยด้วย  การมีใครสักคนให้ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบจึงเป็นเรื่องวิเศษมากสำหรับเรา

     แล้วถ้าเรามั่นใจว่าคุณอยากคุยและรู้สึกว่าสนิทกับคุณ(ในแชทเนี่ยแหละ)ประมาณหนึ่งแล้ว  วันดีคืนดี  เราจะทักไปเอง   

     อย่างไรก็ดี  ถ้าคุยแบบนี้แล้วคนเงียบยังคงไม่หือไม่อือไม่อะไรทั้งสิ้น  ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนเงียบที่แท้จริง  ก็คงต้องบอกว่า...
     ...เสียใจด้วยนะ  คุณไม่น่าได้ไปต่อ...


     4. ประการถัดมา  หากคุณพอใจแล้วที่จะเป็น 'แค่เพื่อน' กับคนเงียบ  และ/หรือ  รู้สึกมีความสุขดีแล้วกับการสนิทกันอยู่แค่นี้ 

     ก็ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มทั้งสิ้น  เป็นแบบนี้ไปแหละดีแล้ว  คนเงียบไม่ค่อยคิดว่าใครมาจีบตัวเองอยู่แล้ว  เพราะเซนส์ทางความรักเราต่ำมาก  ถ้าบอกว่าเพื่อน  เราก็ตีความว่าเพื่อนหมดแหละ 

     อีกอย่าง  ต่อให้คนเงียบเกิดรู้สึกอะไรกับคุณขึ้นมา  เขาก็ไม่บอกหรอก  เขาไม่อยากเสียเพื่อน  เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวล


    5. แต่  หากคุณไม่ได้พอใจเพียงสถานะเพื่อน  แต่ต้องการเป็นอะไรที่มากกว่านั้น  คุณต้อง  take action  หน่อยแล้วล่ะ

     นอกจากคนเงียบจะมีเซนส์ทางความรักต่ำ  เรายังมีความมั่นใจในตัวเองในเรื่องความรักต่ำมาก  นั่นคือ  เราไม่คิดว่าใครจะมาชอบเราได้เนื่องจากเรามีโลกส่วนตัวสูงเกินไป  นั่นทำให้เรามองว่า  การที่คุณคุยกับเรา  เนื่องจากคุณอาจแค่ถูกชะตาและอยากเป็นเพื่อนกับเราเท่านั้น
     เราไม่กล้าคิดมากกว่านั้นจริงๆ

     เพราะฉะนั้น  คุณต้องหาทางทำให้เราเห็นว่า  คุณไม่ได้ต้องการเป็นแค่เพื่อน  แต่รู้สึกกับเรามากกว่าเพื่อน
     ตอนนี้แหละที่จะเริ่มจีบได้

     แต่จะจีบอย่างไรนั้นคุณต้องไปหาวิธีเอาเอง  เพราะคนเขียนไม่เคยจีบใคร  และไม่เคยถูกใครจีบตรงๆ  จึงไม่มีประสบการณ์ใดๆจะมาเล่าให้คุณฟังได้ 

     ขอให้สมหวังในความรักนะ



     ปล. กรุณาอย่าใช้ความเป็นคนเงียบๆของใครสักคนเพื่อเอื้อในการหาประโยชน์โดยทุจริต  คือหาประโยชน์ที่คุณมิควรได้  อันเป็นการขัดต่อกฎหมายและ/หรือต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน
   
     กรุณาจริงใจกับเรา  แล้วเราจะจริงใจกับคุณ

     กรุณาดีกับเรา  แล้วเราจะดีกับคุณเช่นกัน 
     อย่าร้ายใส่เรา  เราไม่รับประกันความเสียหาย  คุณไม่เห็นรึ  พวกฆาตกรโรคจิตหลายคนเนี่ย  ก็เป็นคนเงียบๆนะเออ

     เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ