Am I good enough for this?



     แพทย์  นักบิน  ผู้พิพากษา  ศาสตราจารย์  ดารา-นักร้อง  อัยการ

     อาชีพเหล่านี้นับเป็นอาชีพในฝันของใครหลายๆคน  และคนที่ได้ทำอาชีพนี้มักถูกมองว่าเป็นผู้มีวาสนา...

     แต่  ถ้าถาม "คน" ที่ทำอาชีพนี้บางคน  คุณอาจสัมผัสได้ถึงความกดดันในจิตใจ  บ้างตั้งคำถามว่าอาชีพพวกนี้นำความสุขที่แท้ให้จริงหรือ
...และ  บางคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่า  ตัวเองดีพอจะทำอาชีพนี้จริงๆหรือไม่?

     เราคือหนึ่งในนั้น...



     22 พฤษภาคม 2560

     วันนี้  เป็นวันที่เราเข้ารับราชการวันแรกในอาชีพที่หลายๆคนใฝ่ฝัน  เป็นวันคนที่รู้จักแทบทุกคนที่มองมาที่เราจะรู้สึกชื่นชมยินดี  และเป็นวันที่ทำให้ตัวเองและครอบครัวภูมิใจ
     ราวกับว่าเรากำลังฝันอยู่

     มาตื่นอีกที  ก็ตอนที่งานที่ประสบมันสอนให้เรารู้ว่า  อาชีพนี้  มันไม่ง่ายเลย
...เราถูกสั่งสอนความรู้ต่างๆที่หลายๆอย่างเราไม่เคยรู้มาก่อน
...เราถูกทดสอบความสามารถในด้านต่างๆ
...เราถูกจับตาดูพฤติกรรมตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อให้สมกับอาชีพที่สุด
และอื่นๆ  อีกมากมาย

     และช่วงนี้  เราถูกทดสอบอีกครั้งด้วยคำสั่งให้ไปช่วยราชการอีกที่หนึ่ง


     งานนี้  ไม่ง่าย

     เราต้องตรวจสอบความถูกต้องของงานในด้านต่างๆ  ถ้อยคำต้องดี  หลักการต้องแม่น  คำต้องเขียนถูก  และจะแก้ส่วนไหน  ต้องอ้างอิงได้ว่า  แก้เพราะอะไร

     เราตรวจงานมาเป็นงานที่สี่  และวันนี้เป็นวันที่เราหดหู่กับตัวเองมาก  เพราะที่ทำไป  ตรงนั้นก็ผิด  ตรงนี้ก็ผิด  สรุปว่างานเรามันช่างขาดๆเกินๆเสียนี่กระไร

     เสียงเจ้านายเก่ายังก้องอยู่ในหัว  "ไม่ละเอียด"

     ใช่  เราเป็นคนไม่ละเอียดมาแต่ไหนแต่ไร  แต่ไอ้จุดอ่อนนี่เพิ่งมาแผลงฤทธิ์อย่างร้ายกาจก็ตอนงานใหม่นี่เอง
     และเราก็รู้สึกผิดหวังในตัวเองมาก

     จู่ๆเราจึงตั้งคำถามกับตัวเองและกับคนสนิทว่า...

     หรือเราจะดีไม่พอสำหรับงานนี้?



     ในความมืดมนของจิตใจ  เสียงเล็กๆของรุ่นน้องคนสนิทก็ลอดเข้ามา

     "แน่นอน  พี่ทำได้  มั่นใจในตัวเองเถอะ"

     เราขอบคุณน้อง  แต่ไม่วายโอดครวญต่อว่า  มันยากมากเลยนะ  และนี่คือสิ่งที่น้องตอบกลับมา

     "พี่สาว  ทุกความเปลี่ยนแปลงล้วนมีความกดดันให้ฝ่าฟัน  น้องเชื่อว่าสิ่งใดฆ่าเราไม่ได้  สิ่งนั้นจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น  สู้ๆนะคะ  คนที่รักพี่ยังเป็นกำลังใจให้พี่เสมอนะ"

     นี่คือเรื่องดีดีของเราในวันนี้



     จริงๆเหตุผลเข้าข้างตัวเองมันก็มี  นั่นคือ  เราเพิ่งมาจับงานนี้แค่ประมาณสัปดาห์เดียว  โดยที่เราไม่เคยจับงานนี้มาก่อน  จะให้ทำงานได้ดีไม่มีที่ติ...มันก็เก่งเกินไป

    ถึงกระนั้น  เราก็ยังกดดันตัวเองด้วยความรู้สึกว่า  เราเก่งสู้คนอื่นเขาไม่ได้
     หรือพูดง่ายๆ  เราว่าเราห่วยสุด..

     แถมเรายังมีความคิดที่อยากทำให้ทุกอย่างมันออกมาดี  และติดอยู่กับภาพที่ตัวเองเคยทำอะไร  พอทำไม่ได้(เออ  ก็ห่วยนั่นแหละ)  มันก็เลยเครียด..สะสม
     รู้สึกแย่ชะมัดเลย



     มีรุ่นพี่  คือคนทำอาชีพเดียวกับเรา  แต่ทำมานานกว่าเราคนหนึ่ง  บอกเราไว้ว่า...

     "อย่าคิดมากเลยน้องเอ๊ย  อาชีพนี้น่ะ  ต้องทำงานไปอย่างน้อยห้าปีนั่นแหละถึงจะคล่อง"
     ...ถ้างานมันจะยากถึงเพียงนั้น...

     บางที  มันคงเป็นช่วงเวลาที่เราต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่า  เราแน่พอที่จะทำอาชีพนี้ได้
     บางที  เราอาจต้องให้เวลาตัวเองสักห้าปี  เพื่อเช็คให้แน่ใจว่า  เรากับงานนี้  "คลิก"  กันได้จริงๆ

     หลังจากนั้น  เวลาคงมีคำตอบให้เราเองว่า  เราควรจะไปต่อหรือพอสักที

     ถึงวันนั้น  หวังว่าเราคงรู้ว่า  เราอยากจะทำอาชีพนี้ไปจนเกษียณ  หรือควรจะ  "เก็บ"  ประสบการณ์ตรงนี้เพื่อใช้เป็นฐานไปสู่อาชีพอื่นๆต่อไป


      ระหว่างนี้คงต้อง  ขยัน  ใฝ่รู้  อดทน  และ  เปิดใจ  สินะ...



ปล...ถ้าไม่มีอะไรทำจริงๆ  จะยังชีพด้วยการรับดูดวงละนะ  5555

     

 

 



   

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ