เพราะเป้าหมายในชีวิตเราไม่เหมือนกัน
วันนี้เพื่อนที่แสนดีคนหนึ่งของเราเพิ่งประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต นั่นคือ เธอได้ให้กำเนิดทายาทตัวน้อยๆออกมาลืมตาดูโลกได้สำเร็จ
และคุณแม่คนเก่งก็ดูจะแข็งแรงดี :D
มีการแสดงความยินดีกับเธออย่างเอิกเกริก ทั้งในไลน์กลุ่มเพื่อน และในเฟสบุ๊ค และจากการสังเกต มีหลายคนเข้าไปแสดงความยินดีกับเธอถึงที่โรงพยาบาลอีกด้วย
....ในส่วนของคนเขียนนั้นได้แค่ไปตามไลค์รูปของเพื่อนอยู่เงียบๆ ตามประสาคนซึ่งพอเห็นเพื่อนมีคนยินดีเยอะแล้วจึงไม่อยากแสดงตัว....
แต่ยินดีกับเพื่อนด้วย จริงๆนะ
ในที่ทำงานซึ่งมีเพื่อนสถาบันเดียวกันก็มีการคุยกันถึงเรื่องนี้ด้วยความรู้สึกดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกัน และนั่นก็ทำให้เราเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา
หากมองในมุมของผู้หญิงทำงาน การให้กำเนิดชีวิตใหม่อาจไม่ถือเป็นความสำเร็จอะไรนัก เพราะบางที ในสายตาของผู้หญิงที่มุ่งมั่นกับความสำเร็จในชีวิต การมีห่วงผูกคอนั้นเผลอๆจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานเสียมากกว่า
แต่ ในสายตาของใครหลายคน ที่มองว่าการมีครอบครัวที่อบอุ่นเปรียบเสมือนรางวัลชิ้นใหญ่ของชีวิต การมีโซ่ทองคล้องใจคนสองคนนั้นอาจเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้ครอบครัวเติมเต็ม หรือสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจะได้ดั่งใจเพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับมุมที่มองเป็นสำคัญ
เวลาเห็นเพื่อนหลายคนมีแฟน แต่งงาน หรือมีสมาชิกตัวน้อยในครอบครัวเพิ่มขึ้น เรามักชอบใช้คำว่า "ตัดภาพมาที่เรา..."
เป็นการพูดแบบติดตลกในเชิงว่า ดูสิ ชาวบ้านเขามีความรักไปถึงไหนแล้ว คนพูด/คนเขียน ยังหาไม่ได้แม้แต่คนมาจีบด้วยซ้ำ
แต่ถามว่ามันเป็นความล้มเหลวครั้งยิ่งใหญ่มากเลยหรือ ก็เปล่า
เพราะอย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่า เราไม่เคยตั้งเป้าหมายว่าตัวเองต้องมีความรักอยู่แล้ว
พูดอีกนัยหนึ่ง การมีครอบครัวที่อบอุ่นไม่ใช่เป้าหมายในชีวิตเรา
เมื่อเราไม่เคยคาดหวังกับมัน การมีหรือไม่มีย่อมไม่ถือเป็นผลสัมฤทธิ์ที่ตั้งใจไว้
ก็เราไม่ได้คาดหวังกับมันตั้งแต่ต้นแล้ว แล้วจะล้มเหลวได้อย่างไร?
เราเชื่อ ว่าทุกคนมีเป้าหมายในชีวิตของตัวเองอยู่แล้ว และเป้าหมายแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไปตามความต้องการของชีวิต
ณ อายุที่เท่ากัน เราอาจตั้งเป้าความสำเร็จของชีวิตแตกต่างกันไป
...ความสำเร็จของบางคน คือการได้แต่งงานและมีครอบครัวที่อบอุ่น
...ความสำเร็จของบางคน คือการสามารถประกอบอาชีพที่ตนเองอยากเป็นได้
...ความสำเร็จของบางคน อาจอยู่ที่การได้ท่องเที่ยวที่ต่างๆให้มากที่สุด
...ฯลฯ
เพราะเป้าหมายเราต่างกัน การกระทำของเราจึงต่างกัน และเพราะการกระทำเราต่างกัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่เหมือนกัน
เรายินดีกับความสุขของเพื่อน เพราะแม้จะไม่เคยเป็นแม่คน แต่ก็รู้เรื่องพอจะทราบว่า ลูกนั้นเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ของพ่อกับแม่เสมอ วันนี้จึงน่าจะเป็นวันที่เพื่อนมีความสุขที่สุดวันหนึ่งของชีวิต
ในขณะเดียวกัน เราก็ยินดีกับตัวเอง เพราะเราสามารถฝ่าฟันความยากลำบากต่างๆ และได้ทำอาชีพซึ่งตนเองใฝ่ฝันมานานได้ในที่สุด
มองๆไป ชีวิตเรากับเพื่อนเหมือนเส้นขนาน เราเลือกชีวิตกันคนละด้าน ตามความต้องการในจิตใจ
แต่แม้จุดที่ยืนจะต่างกัน หากมันคือความสมหวัง ก็ควรถือได้ว่าเป็นความสำเร็จ และเป็นเรื่องน่ายินดี
แม้หนทางจะต่างกัน แต่สายใยแห่งมิตรภาพจะเชื่อมให้เราหันมายิ้มให้กันได้เสมอ
อย่าเอาสิ่งที่คุณมีไปเปรียบเทียบกับคนอื่น และอย่าคิดว่าใครดีกว่าใครเพียงเพราะชีวิตคุณและเขาไม่เหมือนกัน
ก็คุณกับเขาเป็นคนละคนกัน มีความฝันที่แตกต่างกัน ทำกันคนละอย่าง บทสรุปมันจะเหมือนกันได้ไงเล่า
ถ้าจะวัด ก็วัดเฉพาะของตัวเอง วัดว่าวันนี้เรามาไกลจากจุดเริ่มต้นแค่ไหนแล้ว
เหนือสิ่งอื่นใด จงพิจารณาว่า ตอนนี้คุณมีความสุขและพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่มากเพียงใด หากตอบได้ว่า มีความสุขดี...ระดับหนึ่ง
............แสดงว่าชีวิตคุณก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้วล่ะ อย่าลืมยิ้มและขอบคุณตัวเองด้วยนะ
ส่วนหากใครชีวิตยังไม่เข้ารูปเข้ารอย แต่อย่างน้อย มันก็ยังไปของมันได้เรื่อยๆ และยังหาความสุขได้อยู่บ้าง
แสดงว่าคุณกำลังอยู่ระหว่างทางที่จะทำให้ฝันเป็นจริงๆ สู้ๆนะ ต้องมีสักวันที่มันเป็นวันของเราสิน่า
แต่ไม่ว่าชีวิตคุณจะอยู่ตรงไหนแล้ว หากคุณแน่ใจว่าตัวเองยังคงก้าวเดินอยู่เสมอ จงให้กำลังใจตนเอง และสู้ต่อไป
แล้วอย่าลืมหาความสุขระหว่างทางไปด้วยล่ะ
ความสำเร็จของเราไม่มีทางเหมือนความสำเร็จของคนอื่น ดังนั้น จงตั้งมั่นในทางของตนเอง มันจะไม่เหมือนชาวบ้านเขาก็ช่างปะไร
แค่มีความสุขได้ก็พอแล้ว =D
เพื่อนจะรู้มั้ยว่ามีเพื่อนมาเขียนแสดงความยินดีเงียบๆ 555555 น่ารักดี เป็นคำยินดีเสียงเบาๆ ความสำเร็จเป็นเรื่องเฉพาะคนจริงๆค่ะ สำเร็จใครสำเร็จมัน ภูมิใจใครภูมิใจมัน ความสุขของแต่ละคนต่างกันจริงๆ
ตอบลบใช่เลยค่ะ ;)
ลบ