ไม่มีใคร(เอา)น่ะ..ดีแล้ว

   
     คิดๆไป  เราว่าดีแล้วล่ะ  ที่ไม่มีใครมาชอบเรา

     เหตุผลของความโชคดีไม่ใช่สำหรับเราหรอกนะ  สำหรับอีกฝ่ายหนึ่งต่างหากล่ะ
     ทำไมน่ะเหรอ



     เหตุผลแรกเลย  เราเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมาก

     ด้วยเหตุนี้  เราจึงจำกัดการสุงสิงกับคนรอบข้าง  กล่าวคือ  เราไม่ใช่พวกช่างพูดช่างคุยหรือเจ๊าะแจ๊ะไปได้เรื่อยๆ  เรามักไม่ใช่คนเริ่มสนทนากับใครหรือเข้าหาใครก่อน  และชอบที่จะเป็นผู้ฟังมากกว่า

     เวลาใครมองเราแบบผิวเผิน  เขาเหล่านั้นมักกล่าวว่า  เราเป็นคนพูดน้อยมากๆเลย  ชาวบ้านเขาคุยกันไปไม่รู้กี่ประโยคแล้ว  เรายังคงยิ้ม  พยักพเยิดไปตามเรื่อง
    ...และนั่งเงียบๆเช่นเคย

     นอกจากนี้  เรามักชอบทำอะไรตามลำพัง  มีความสุขกับการอยู่เงียบๆคนเดียว  ไม่รู้สึกอะไรเวลาไม่มีใครอยู่ข้างๆ  และใช้ชีวิตไปเรื่อยๆอย่างสงบเสงี่ยม


     ดังนี้  คงไม่ต้องบอกว่า  จำนวนคนที่จะเข้าใกล้เราชนิดที่เรายอมรับเองว่า  เขาคือคนสนิท  นั้นน่ะ
    ....มันน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับคนทั่วไป

     คนที่จะเข้ามาในชีวิตเราได้  ไม่ใช่แค่ต้องพิสูจน์ให้เราเห็นว่า  เขารักและจริงใจกับเราจริง(อันเป็นสิ่งที่ต้องพิสูจน์อยู่แล้ว)  เท่านั้น  แต่เขายังต้องพิสูจน์ว่า..

    ...การที่มีเขาอยู่ในชีวิตเราน่ะ  มันทำให้เรามีความสุขมากกว่าการอยู่คนเดียว

     ไม่ได้ง่ายเลยนะ  และ...ยังต้องฝ่าฟันกับอีกสองอย่างอีก...



     อย่างที่สองนั้นคือ  นิสัยของเราเอง  ด้วยความที่อยู่คนเดียวมาจนชิน  ทำให้นิสัยหลายอย่างมันเป็นไปเพื่อการอยู่คนเดียว  และข้อเสียที่ร้ายกาจสักอย่างสองอย่างนั้นคือ

     หนึ่ง  ความเรื่องมาก  ถามว่าเรื่องมากขนาดไหน  คิดดูว่าขนาดเลือกช้อนส้อมกินข้าวตามร้านอาหารน่ะ  เรายังพลิกแล้วพลิกอีกอยู่นั่น
     ซื้อของทั่วไปก็ดูแล้วดูอีกว่า  ชิ้นที่หยิบนั้นน่ะ  มันสมบูรณ์ที่สุดแล้วหรือยัง
     ยิ่งซื้ออะไรแพงๆนี่หายห่วง  หาข้อมูลแล้วหาข้อมูลอีกอยู่นั่นแหละว่า  มันดีพอสำหรับเราจริงๆหรือเปล่า

     ขนาดของทั่วไปยังเลือกขนาดนั้น  แล้วคุณคิดว่าเลือกคนที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตน่ะ  ดิฉันจะจู้จี้ขนาดไหนคะ?


     สอง  pessimistic & realistic concept  โทษที  ไม่รู้จะอธิบายเป็นไทยยังไง  คืองี้  เราค่อนข้างจะมองโลกในแง่ร้ายและมองตามความเป็นจริงมาก  เมื่อมองความรัก
    ...ซึ่งหากใครเคยอ่านบทความเรามา  คุณอาจคุ้นกับวลีประมาณว่า  'ชีวิตมันไม่ใช่นิยายสิบสตางค์นะคู้ณณณ'

     เพราะเราเห็นประสบการณ์จริงจากความรักหลายๆคู่  ที่นอกจากจะไม่ได้สวยหรู  ยังอุดมไปปัญหามากมาย  ไม่ว่าจะเป็นการที่ใครคนหนึ่งถูกอีกคนเอาเปรียบอยู่บ่อยๆ  ความเจ็บช้ำจากการถูกหลอกลวง  การถูกหักอก  การนอกใจ  การทะเลาะเบาะแว้ง  ฯลฯ
      ความรักในชีวิตจริงไม่ได้มีเพียงความสวยงาม  หากแต่เต็มไปด้วยบาดแผลและคราบน้ำตาอยู่ไม่น้อย

     สารภาพเลยก็ได้ว่ารู้สึกกลัวการมีความรักอยู่ไม่น้อย  ด้วยสิ่งที่เคยประสบมาข้างต้นมันคอยหลอนอยู่

     ว่าแล้วเลยผลักภาระการพิสูจน์ไปให้อีกฝ่ายหนึ่งแทนว่า  ถ้าอยากเข้ามาในชีวิตเรา  คุณต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า  เมื่อรักแล้ว  เราจะมีความสุข
    .....มากกว่าทุกข์

     ไง  โจทย์ยากดีมั้ย  ยังเหลือข้อสุดท้ายอยู่นะ



     สุดท้ายและท้ายสุด  คนรักในอุดมคติ

     จริงอยู่ว่า  เราโสดและไม่เคยมีใครเลยในชีวิต  นั่นทำให้เราไม่เคยสัมผัสชีวิตรักอะไรกับเขา

     แต่สิ่งหนึ่งที่มีอยู่เสมอ  นั่นคือ  การวาดชีวิตในชีวิตหนึ่งในจินตนาการ  อันเป็นโลกคู่ขนานกับชีวิตจริง  แล้วใส่ทุกอย่างเหมือนชีวิตจริงลงไป  เว้นอยู่อย่างเดียว

     ในโลกคู่ขนานใบนั้น  คนเขียนคนนี้  หล่อนมีคนรัก..!

     แล้วเราก็จินตนาการไปว่า  ในสถานการณ์ที่เราต้องเจออยู่นี้  หากเรามีแฟน  แฟนเราจะปฏิบัติต่อเราอย่างไรในสถานการณ์ดังกล่าวนั้น

     หน้าตาอาจไม่ถือสา  แต่นิสัย  สติปัญญา  บุคลิก  หรือความดี  เหล่านี้จะถูกแจกแจงผ่านโลกในจินตนาการมาเลยว่า  คนที่จะรักได้นะ  ต้องเป็นอย่างไรบ้าง

     เพราะฉะนั้น  ใครก็ตามที่เดินเข้ามาเคาะประตูหัวใจเรา  เขาไม่ได้ต้องแข่งกับผู้ชายคนไหน

     ผู้ชายคนเดียวที่เขาต้องเอาชนะให้ได้  นั่นคือคนรักในจินตนาการของเรา
    ...คนเดียวเท่านั้น!!...



     นั่นแหละ  เราถึงบอกว่า  ใครเกิดชอบเราขึ้นมานี่  น่าสงสารตายชัก

     ถ้าคุณจีบผู้หญิงสวยๆ  หรือผู้หญิงทั่วๆไป  คุณก็แค่ต้องทนกับความงี่เง่าของหล่อน  และอาจจะต้องแข่งขันกับผู้ชายอีกคน..หรือหลายๆคน
    ...ซึ่งความงี่เง่านั้นอาจสามารถหาตำราในการปราบได้  และผู้ชายคนอื่นนั้นก็มีตัวต้นให้สืบเสาะได้ว่า  กำลังจะสู้กับอะไร


      แต่ถ้าคุณจีบผู้หญิงคนนี้  หรือผู้หญิงแบบนี้  ไม่ใช่แค่คุณต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่า  คุณมีดีพอที่จะทำให้เราวางใจได้ที่จะรักคุณเท่านั้น...

     คุณยังต้องสู้กับใครก็ไม่รู้ที่ไม่มีแม้แต่ตัวตน  ไร้ซึ่งเบาะแสที่จะสืบหาว่า  ต้องทำตัวอย่างไรจึงจะกำชัยในการแข่งขันอีกด้วย

     แถมเจ้าตัวยังไม่ทำอะไรนอกจากผลักภาระการพิสูจน์ทุกอย่างให้ผู้ยื่นคำร้องขอเข้าไปในใจ  มีหน้าที่นำสืบเองทั้งหมดด้วย..

    ...ขนาดตั้งกฎเองยังอดสงสารไม่ได้เลยนะนี่...



     ด้วยเหตุผลทั้งหลายทั้งปวง  เราจึงสรุปได้ว่า

     การที่ไม่มีใครชอบเรานั้น  เป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว

      ดูสิ  อุปสรรคเยอะขนาดนี้  หลงมารักเข้า
      โชคร้ายแย่เลย!!

      ในโลกนี้ยังมีผู้หญิงน่ารักที่ไม่เรื่องมากอีกหลายคน  เชิญเลือกเอาตามสบายเลย  ไม่ต้องห่วงเราหรอก


      เราอยู่ได้  นิสัยอย่างเราเนี่ยะ  ต้องปล่อยให้อยู่คนเดียวเสียให้เข็ด


       ไม่มีใคร(เอา)น่ะ...ดีแล้ว  ;)

ความคิดเห็น

  1. ให้เลือกระหว่างเจอโซจีซบพระเอกในดวงใจ กับแฟนของผู้เขียน ก็จะขอเลือกเจอแฟนผู้เขียนก่อนค่ะ โซจีซบตกรอบไป 555

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ