I don't have a secret. I am a secret.



     ใครว่าโลกนี้ไม่มีความลับ  โลกใบนี้เต็มไปด้วยความลับเยอะแยะจะตาย....
     ...และเราคือหนึ่งในนั้น...

     เพราะศักยภาพบางอย่าง  มีไว้ใช้...แค่ในยามที่ไม่มีใครเห็น

     ตัวอย่างเช่น



     สมมติว่าเราร้องเพลงได้  สำหรับใครหลายคนมันอาจเป็นเรื่องที่ต้องแสดงออก  เผื่อสักวันมีแมวมองผ่านมาได้ยิน  จะได้เอาไปเป็นนักร้อง

     แต่สำหรับความลับอย่างเรา  การร้องเพลงได้เป็นเพียงเรื่องบันเทิงใจเฉพาะตัว  ที่ไม่จำเป็นต้องบอกใคร
     ...ปากก็ปากเรา  เสียงก็เสียงเรา  ใครจะทำไม

     ดังนั้น  จะให้รู้กันง่ายๆ  ว่าร้องเพลงได้  ไม่ได้เป็นอันขาด!!!

     แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถใช้เพลงคลายอารมณ์กลางฝูงชนได้เลยหรอกนะ  มันมีวิธีของมันอยู่

     วิธีแรก  แทนที่จะร้องเพลง  ก็ฮัมเพลงแทน  ฮัมแต่ทำนอง  แต่ไม่ร้องออกมา
     ....ยังคงลัลล้าได้อยู่บ้าง....
     อ่อ  รู้แล้วเหยียบไว้นะ  ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า  ใครก็ตามที่ฮัมเพลงได้เพราะ  คนนั้นร้องเพลงเพราะ  เนื่องจากคนเราจะฮัมเพลงได้ตามศักยภาพการร้องเพลงของตัวเองนี่แหละ

     วิธีที่สอง  ร้องเพลงได้  แต่ห้ามใช้เสียง  คือ...อารมณ์เปิดปากพูดแบบกั้นไม่ให้เสียงออกมาอ่ะ  นั่นแหละใช่เลย

     หรือถ้าใครมั่นใจว่าตัวเองเสียงเบาพอ  จะใช้วิธีร้องเพลงเบาๆ  หรือร้องคลอเฉพาะเวลาเขาเปิดเพลงเสียงดังก็ได้นะ  ยิ่งวิธีที่สองเนี่ย  คนเขาจับเสียงเราไม่ได้หรอก  เสียงแทรกมันเยอะ

     แค่นี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าเราร้องเพลงได้แล้วล่ะ  ;)



     นอกจากความสามารถแล้ว  ศักยภาพแห่งความงามก็สามารถซ่อนได้นะ

     สมมติว่าเราใส่แว่น  แต่เรารู้ว่าจริงๆเราสวย  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ตาสวย  สิ่งที่ต้องจำให้แม่นๆเลยคือ

     อย่าสุ่มสี่สุ่มห้าถอดแว่นให้ชาวบ้านเขาเห็นบ่อยเป็นอันขาด  เราไม่มีทางรู้หรอกว่ามีใครรอจ้องตาเราอยู่บ้าง
     คอนแทคเลนส์ก็ห้ามใส่  ทู่ซี้ใส่แว่นมันนี่แหละ  เกะกะลูกกะตาดี

     และ  หากสมมติว่าเราผมยาว  และผมสวยด้วย  สิ่งที่ต้องแปะไว้เตือนตัวเองเลยคือ

     ห้ามถอดแว่นพร้อมกับปล่อยผมในที่ชุมชนเด็ดขาด!!!

     โดยเฉพาะอย่างยิ่งนะ  เวลาที่ผมเราเพิ่งสระและไดร์แห้งใหม่ๆเนี่ย  มันจะเป็นเวลาที่ผมสวยที่สุด  เพราะมันจะสะอาด  หอม  เงา  และนุ่มมากกก
     .....หน้าตาจะดูดีขึ้นมาทันที  ยิ่งถ้าตาสวยแล้วถอดแว่นนะ  โอ๊ยยยย

     อันที่จริงเรามีสิทธิ์จะหลงตัวเองได้นะ  และเราก็มีสิทธิ์จะถ่ายรูปเราไปลงสื่อออนไลน์ได้  แค่อย่าให้เขาเห็นตัวจริงก็พอ
 
      ปล่อยให้คนที่ชินกับหน้าบ้านๆของเรา  เขาคิดว่ารูปที่ลงนั้นเป็นรูปที่รีทัชมาแล้วไปเถอะ  ไม่ต้องให้เขารู้หรอกว่า  จริงๆแล้วน่ะ...
      นอกจากหน้าตัวเองกะกล้องแล้ว  เราแทบไม่ใช้อะไรเลยเพื่อที่จะได้รูปออกมา
     ...อ๋อ  ใช้เหมือนกัน  ใช้แชมพูกับครีมนวด  และไดร์เป่าผมไงล่ะ  555

     เก่งจริง...จริ๊งงง  เรื่องไม่เป็นเรื่องเนี้ยย



     อันที่จริง  ศักยภาพของหัวใจก็ซ่อนได้นะ

     เคยได้ยินไหมล่ะ  ถ้อยคำจากเพลง  If  I  let  you  go  ของ  Westlife  ที่ว่า

     "I'm  too  shy  to  ask,  I'm  too  proud  to  lose..."
     "ฉันอายเกินไปที่จะถาม  และภูมิใจเกินไปที่จะสูญเสีย"

     เป็นปรัชญาที่เหมาะสำหรับคนขี้อายดีจัง

     นั่นแหละ  รู้สึกอะไรก็ไม่ต้องพูดไปหรอก  จะห่วงแค่ไหนก็อย่าไปแสดงออก
      ...แต่แอบติดตามความเคลื่อนไหวได้นะ  จะแอบช่วยอยู่ห่างๆก็ยังไหว

     ไม่ต้องมารู้หรอกว่าเราเป็นคนดีแค่ไหน  อยากรู้สึกยังไงกับเราก็ปล่อยเขาไป

     เชื่อสิ  ไม่ว่าจะชอบแบบอยากเป็นเพื่อนหรืออยากเป็นมากกว่านั้น  อมพะนำไปแบบนี้แหละ  รับรอง

     ชวดดด  (สมัยนี้เขาใช้คำว่า นก  ใช่มะ?)



     อะไรอีกล่ะ  สามตัวอย่างพอละเนอะ  คนเขียนเหนื่อย

     แต่ก็นะ  อย่าให้คนอื่นเขารู้ล่ะ  ว่าเราคือความลับ  มีอะไรบอกเขาได้ก็บอกๆไป  ให้เขาคิดว่าเราซื่อ  ปิดอะไรใครเขาไม่เป็น
     ....เวลาคิดจะซ่อนจริงๆ  คนจะได้ไม่สงสัย


     เรื่องบางเรื่อง  เก็บไว้ดีกว่าบอก

     ของบางอย่าง  มีไว้เพื่อให้รู้ว่ามี  ไม่ได้มีไว้อวด


     เราไม่จำเป็นต้องมีความลับ

     เพราะเรานี่แหละ...ความลับ


     I don't have a secret. I am a secret.

 

ความคิดเห็น

  1. โอ๊ย ตายแล้ววววววววววว 55555555 เล่าได้ยิ่งใหญ่มาก เล่าได้เป็นการเป็นงานสมฐานะจริงๆค่ะคุณ secret 5555 ชอบสิ่งนี้>>>> i am too shy to ask, i am too proud to lose... ������

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ