ก็แค่ทะเลคนหนึ่ง



     ในเวลาทำงาน  แค่เดินเข้าอาคาร  ก็เหมือนโลกทั้งโลกให้เกียรติเรา

     พนักงานรักษาความปลอดภัยก็ยกมือไหว้  ทั้งที่บางคนแก่กว่าเราด้วยซ้ำ

     เจ้าหน้าที่ก็ให้ความเคารพ  และไม่ว่าจะต้องการอะไร  ดูจะได้รับความช่วยเหลืออย่างดี

     แม้จะมีกฎระเบียบให้ปฏิบัติตาม  แต่นั่นก็อยู่บนพื้นฐานที่ว่า  พวกเราทุกคนเป็นข้าราชการระดับสูง  เราต้องปฏิบัติตนด้วยความให้เกียรติตนเอง
    ...ให้สมกับที่คนรอบข้างให้เกียรติเรา...



     แต่เมื่อก้าวออกจากที่ทำงาน  เมื่อถอดหัวโขนแห่งความเป็น "ท่าน"  ออกไป

     ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งก็กลับคืนสู่ความเป็นคนธรรมดาเช่นเคย

     ไม่โดดเด่น  ไร้เสน่ห์  และไร้ซึ่งแม่เหล็กดึงดูดสายตา


     ไปเป็นลูกค้าที่ไหน  ก็เสี่ยงจะได้รับการบริการไปแบบแกนๆ

     ไปเป็นลูกศิษย์ใคร  เขาก็สอนแบบมองข้ามๆไป
    ... จริงๆถือเป็นข้อดี  เพราะแทบไม่โดนเรียกตอบเลย

     เป็นเพื่อนกับใคร  ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ  ก็แทบหาคนคุยด้วยไม่ได้


     ดูเหมือนว่า....พอถอดหัวโขนออกไปแล้ว  ผู้หญิงคนนี้แทบจะไม่มีอะไรเลย...

     จริงๆน่ะเหรอ?



     คนอื่นอยากมองแบบนั้นก็ได้  แต่เรารู้ตัวเองอยู่แล้ว  ว่าเรามีอะไรบ้าง

     ทุกวันนี้  นอกจากอาชีพหลักที่ทำอยู่  เรายังมีอีกสองสามทักษะที่ถนัด  และยังใช้อยู่เรื่อยๆในชีวิตประจำวัน
    ....คนที่เป็นหรือเคยเป็นแฟนคลับหรือลูกค้าที่เคยตรวจชะตาคงพอรู้ว่าเราทำอะไรได้บ้างไม่มากก็น้อย...

     มีสองทักษะที่กำลังตั้งใจหาเวลาฝึกฝนอยู่

     และยังมีอีกหลายทักษะ  ที่เคยดั้นด้นไปเรียนมาเมื่อนานมากแล้ว  ซึ่งเหลือติดตัวอยู่บ้างตามโอกาสที่ได้ทบทวน


     หน้าตาและสารรูปอาจไม่มีอะไรเท่าไหร่
     เพราะความ "มีอะไร" มันถูกเก็บอยู่ใน "เมโมรี่" ส่วนบุคคลน่ะสิ



     เราชอบหลักการแบบทะเล...ที่ไม่ใช่มีดีแค่ความเค็ม

     ทะเลไม่เคยสนใจว่าใครจะมองมันอย่างไร
     สิ่งเดียวที่มันทำ  คือรักษาความอุดมสมบูรณ์ภายในไว้  เพื่อเลี้ยงดูตัวเองให้อยู่รอด

     เราจึงชอบเก็บนั่นเก็บนี่ใส่ตัวแบบทะเล  เราไม่รู้หรอกว่าคนอื่นจะมองอย่างไรกับเราบ้าง

     เรายึดหลักแค่ว่า  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  เราต้องสามารถเอาทรัพยากร(ทักษะ) ที่ตัวเองมี

     มาเลี้ยงตนเองให้รอดให้จงได้!!!



     อันที่จริง  ที่เก็บๆอยู่นี่  เราไม่ได้หวังแค่ผลในชาตินี้ดอก
     เราหวังผลไปถึงชาติหน้าเลยล่ะ

     ไม่ใช่แค่เอาตัวรอดให้ได้ในชาตินี้  แต่เราหวังไปถึงว่า  หากชาติหน้าเรามีวาสนาได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีก...
     สิ่งที่เราบากบั่นพากเพียรในวันนี้  จะสามารถส่งผลให้เราตัวเราในชาติหน้าเก่งและฉลาดยิ่งขึ้น
    .....ยิ่งถ้าฉลาดกว่าชาตินี้ได้ยิ่งดีใหญ่.....


     เพราะฉะนั้น  ภารกิจในชาตินี้ของเราก็คือ  ทำยังไงก็ได้  ให้ตัวเองเก่งและฉลาดที่สุดเท่าที่จะทำได้



     เราไม่รู้หรอก  ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะกลายเป็นคนสำคัญในสายตาของใครๆ

     รู้แค่ว่า  เมื่อเทียบกับภารกิจหลักของเราในชาตินี้แล้วนั้น....


     มันก็มีความสำคัญแค่....

     เอาไว้หาเรื่องมาเขียนบทความบ้าง..เป็นบางเวลา


     แค่นั้นจริงๆ

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ