หลังคราบน้ำตาที่ผ่านไป




     เราปิดเฟสบุ๊คไปแล้ว

     ค่ะ  อ่านไม่ผิด  เราปิดเฟสบุ๊คไปแล้วจริงๆ


    สาเหตุนั้นเนื่องมาจากเพื่อนเราหลายคนเริ่มสอบผ่านไปเรื่อยๆ  จนเรารู้สึกเซ็งที่จะเข้ามาแล้วเห็นการแสดงความยินดีเต็มฟีตไปหมด

     "เบื่อชีวิตมาก  ปิดเฟสดีกว่า"  นั่นคือบทสรุป



     ถามว่าอิจฉาเหรอ  ก็ไม่เชิงนะ  แค่รู้สึกแย่ที่ยังไม่ถึงวันของตัวเองเสียที

     "ถ้าแผลเป็นยังไม่หาย  ก็ควรถอยออกมาดีกว่ายังเข้าไปดูเพื่อทำร้ายตัวเอง"  เห็นไหม  คลับฟรายเดย์ยังบอกไว้เลย


     ...อ้างไปเรื่อย...



     แล้วผลสอบก็ทำให้อาการซึมเศร้าที่เหมือนจะหายเริ่มจะกำเริบขึ้นมา

     ....แต่จะว่าไป  ก็ไม่ได้ย่ำแย่แบบตอนสอบอัยการหรอก  เพราะ


     ...กำลังทอดหุ่ยอยู่กับชีวิต  เหมือนจะร้องไห้  จู่ๆดันเหลือบมองรอบด้าน

     "อ้าว  ตูอยู่ที่ทำงานนี่หว่า"

     ร้องไห้ให้คนอื่นเห็นนี่มันดูเสียชาติเกิดนะ  อย่าเลย


     ...กำลังตกอยู่ในภวังค์เหมือนจะสิ้นหวัง

     จู่ๆ...เสียงคุยเพื่อนร่วมงานก็ดังขึ้น

     หัวเราะ...  ไม่ได้ตั้งใจจะหัวเราะนะ  แต่มันตลกอ่ะ  :P


     'เฮ่ย  ทำไมชีวิตมันไม่ได้เหมือนคนอื่นเขามั่งวะ...'

     ....แหมะ  แฟ้มงานมากองตรงหน้า  "เดี๋ยวทำอันนี้ด้วยนะ"

     ...จ้ะ  แล้วค่อยเจอกันหลังงานเสร็จละกันนะความเศร้า


     จะบอกเพื่อนว่า  "เฮ้ย  ขอเวลาร้องไห้ก่อน"  ตรูก็ไม่ได้หวงความใจสลายขนาดนั้น...

     จะแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำ  ก็ยังไม่อยากถูกเพ่งเล็ง  ยังอยู่ช่วงโปรด้วยนะเฮ้ยยย  (เขียนบลอกดีกว่า..อุ๊บส์)


     เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ล่ะฮะ........ท่านผู้อ่าน


     จะว่าไป  เราว่าเราเลือกถูกนะ  ที่ตัดสินใจทำงาน  แทนที่จะอยู่เฉยๆ  เหมือนมันทำให้มีอะไรทำมากกว่านั่งจมกองหนังสือไปวันๆ

     พอมันไม่ว่าง  ความฟุ้งซ่านก็ลดลง

     พอมันมีสังคม  ก็มีคนมาทำให้ยิ้มได้โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ  (ยังไม่อินเลิฟค่ะ  ไม่ต้องเชียร์  555)



     แล้วเหมือนกับว่ามันเสียใจจนที่สุดมาแล้วครั้งหนึ่ง  พอมาอีกรอบ  มันจึงไม่ตกไปจุดเดิมแล้ว

     การตอบสนองก็ต่างกัน  คราวที่แล้วจะเป็นแบบเศร้าสร้อยหมดอาลัยตายอยาก

     คราวนี้...

     ...คนเขียนแค้นหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลยค่ะ  อารมณ์แบบ  เออ  กูไม่เป็นละราชการ  ลาก่อน


      สิ้นสุดกันที  ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน...

      Turn it up.  I'm moving on.  (เลิกเหอะ  พอกันที)


      อะไรแบบนี้



     จริงๆเราก็เสียใจนะ  ไม่ใช่ไม่รู้สึกอะไร(แอบไปร้องไห้มาด้วย...อุ๊บส์)  แต่คงเพราะตอนนี้มีงานทำ  รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้สิ้นไร้ทางไปดังเช่นที่ผ่านมา  มันก็เลยแบบ  เออ...เอาเหอะ  ชั้นก็แค่อยู่ในที่ที่เขารับให้ฉันอยู่  ก็พอ

     เราไม่รู้วันข้างหน้า  เราแค่คิดว่าตัวเองควรทำยังไงก็ได้ให้หาเงินได้มากที่สุดตอนแก่  แค่นั้น  (อย่าลืมว่าเราต้องอยู่คนเดียว อิอิ)

     ส่วนเรื่องการเป็นข้าราชการ  คงสุดแท้แต่เวรกรรมก็แล้วกัน


     แม้ปรัชญาของมหาวิทยาลัยจะมีว่า  เกียรติภูมิของมหาวิทยาลัย  คือเกียรติแห่งการรับใช้ประชาชน

     แต่หากที่สุดแล้ว  ราชการไม่รับเราเลยสักที่หนึ่ง  เราก็คงไปตามทางของเรานั่นแหละ


     ลาก่อน...ประชาชน  


     ปล แต่ในที่สุดแล้วเราก็ยังปิดเฟสไม่ได้ เพราะเราดันผูกบัญชีเฟสไว้กับ Pinterest  ทุกครั้งที่เข้ามันก็ล็อคอินกลับทุกที เฮ้อออ

ความคิดเห็น

  1. พักสักแป๊ป ใช้ชีวิตชิวๆสักพักก่อน

    ขอให้มีความสุขกับชีวิตการทำงานนะคะพี่ฝ้าย

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ