อย่าต้อนคนให้จนตรอก อย่าต้อนหนูให้จนมุม




     มีบ้านใครมีแขกไม่ได้รับเชิญบ้างไหมคะ?

     ตอนนี้บ้านที่เราอยู่วันทำงานกำลังประสบปัญหามีผู้ร่วมชายคาโดยเจ้าของบ้านไม่เต็มใจ  มันคือ

     ...สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า  "หนู"


     และทุกคนดูจะเครียดกันมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น  โดยเฉพาะแม่



     ลำดับแรก  พวกเราเริ่มวางกาวดักหนูเพื่อตรวจสอบว่าสิ่งที่เราสงสัยนั้นจริงหรือไม่
     ....ซึ่งพวกเราได้ประจักษ์แล้วว่ามันจริง

     จากนั้น  แม่จึงเริ่มจำกัดพื้นที่ด้วยการสำรวจว่าหนูน่าจะอยู่ตรงไหน  ซึ่งเมื่อได้พื้นที่ต้องสงสัยแล้ว  พวกเราทุกคนก็จะหลีกเลี่ยงการเยื้องกรายไปที่นั่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้


     สมาชิกในบ้านเริ่มขวนขวายหาวิธีกำจัดหนูกันจ้าละหวั่น


     แล้วจู่ๆ  แม่ก็ผุดไอเดียขึ้นมาว่า  เราควรปรับพื้นที่ๆเราจำกัดให้หนูอยู่  โดยเริ่มทำให้มันสะอาดเรียบร้อยและคุมเรื่องเศษอาหาร

     นั่นเป็นความคิดที่ดี  แต่เราไม่เห็นด้วยเสียทีเดียวนัก  เพราะความทรงจำบางของเราย้ำเตือนว่า  วิธีนี้มีความเสี่ยงพอดู...



     ย้อนกลับไปช่วงที่เราเรียนปริญญาโทใบที่สอง  เราเปลี่ยนหอพักจากหอพักห้องน้ำรวมมาอยู่หอพักอีกแห่งที่มีห้องน้ำในตัว  ซึ่งสะดวกมาก

     แต่ข้อเสียของห้องเราคือ  ด้วยความที่มันอยู่ชั้นล่างสุด  เมื่อในระยะเวลาที่เหมาะสม...

     ....มันมักอุดมไปด้วยแมลง  หรือให้ครอบคลุมคือสัตว์ตระกูลอาร์โทรโพดามากมาย


     วันร้ายคืนร้าย  เราพบว่าห้องตัวเองมีเพื่อนร่วมห้องเป็นสัตว์ตระกูลแมงมุมที่มีชื่อเรียกน่ารักน่าชังว่า  "คุณพ่อขายาว"  ตัวเขื่อง

     ใหญ่ขนาดไหนน่ะเหรอ  จากขาข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งก็ประมาณ 5 เซนติเมตรอ่ะค่ะ  และความยาวตั้งกะขา(ขามันสูงกว่าหัวไง)จนถึงปลายขาก็ประมาณ....3-4 เซนติเมตร  เห็นจะได้

     ....ลองนึกถึงตอนอาบน้ำ  ฝนกำลังตก  ฟ้าผ่าดังเปรี้ยง  แล้วหันไปที่ผ้าม่านเห็นเจ้าบ้านี่เกาะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของม่านดูสิ...
     คิดๆไป  โชคดีนะเนี่ยที่รอดมาได้โดยไม่ช็อคตายไปก่อน


     เราพยายามหาวิธีกำจัดแมงมุม(เรียกแมงมุมละกันนะ สั้นดี)  เมื่อหาได้ก็นำสิ่งๆนั้นไปวางไว้ตามจุดที่คิดว่ามันจะอยู่

     วันดีคืนดี  มันหายไปจากที่เคยอยู่ค่ะ  แต่ดีใจอยู่ได้พักหนึ่งก็พบว่า

     .....เจ้าแมงมุมตัวดีย้ายจากตรงที่ไล่ไปชักใยอยู่ใต้เตียงเราแทน!!!


     จะบ้าตาย



     ด้วยเหตุนี้เอง  เราจึงหวั่นๆในวิธีการของแม่  โอเค  หากโชคดี  ครอบครัวหนูตัวดีอาจย้ายออกไปจากบ้านได้  แต่ถ้าโชคร้าย..

     เกิดมันหนีเข้ามาในบริเวณที่พวกเราอยู่กันล่ะ?


     สนุกเลยทีนี้....



    คิดดังนั้นเราจึงบอกความเห็นตัวเองไป(แต่ไม่ได้เล่าเรื่องในอดีตหรอกนะ)  แม่จึงพยายามหาวิธีอื่นต่อไป  โดยมุ่งเน้นไปที่การรักษาความสะอาดและควบคุมเศษอาหารเป็นหลัก


     ในส่วนของคนเขียนนั้น...

     "เลี้ยงแมวสิ"

     "เลี้ยงงูมั้ย"

     "ไม่ๆๆ  เลี้ยงนกฮูกดีกว่า  นกฮูกกกกกกกกกกกก"
     (สัตว์เหล่านี้เป็นศัตรูโดยธรรมชาติของหนูค่ะ  พวกมันจับหนูกินเป็นอาหาร)

     เป็นการเสนอแนะวิธีที่..........มุ้งมิ้งจริงๆเลย  -_-'



     เราก็หวังว่าบ้านเราจะสามารถกำจัดหนูออกไปจากบ้านได้โดยเร็ว  แต่อย่างน้อยที่สุด  เราหวังว่าแม่จะไม่กำจัดพื้นที่ที่เรา  "จำกัด"  ให้หนูอยู่  อย่างสายฟ้าแลบเกินไปนัก


     เพราะหนูคงเป็นเฉกเช่นเดียวกับคนหรือหมา


     คนหรือหมาที่จนตรอกสามารถโต้ตอบกลับได้เจ็บแสบฉันท์ใด


     ..หนูที่ถูกต้อนให้จนมุมก็สร้างปัญหาได้แสบสันต์พอๆกันแหละ


     เชื่อสิ...

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ