เด็ก Gifted




     "เด็ก Gifted"

     ได้ยินคำนี้แล้วคุณรู้สึกอย่างไร

     บางคนอาจชื่นชม  บางคนอาจเฉยๆ  หรือไม่  บางคนก็อาจหมั่นไส้


     ไม่ได้มาบรรยายสรรพคุณ Gifted ดอก  อย่าเพิ่งทำหน้าเบ้  แค่มาเล่าให้ฟังเท่าที่รู้เฉยๆว่า  Gifted สมัยก่อนกับสมัยนี้  มันต่างกันอย่างไร



     ถ้าเราจำไม่ผิด  สมัยที่เราขึ้นมัธยมปลายนั้น  รุ่นเราเป็นรุ่นแรกๆ  ที่มีการนำระบบการเรียนการสอนแบบ Gifted เข้ามาในประเทศไทย
     ...ซึ่งโรงเรียนเราก็เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ได้รับโอกาสนั้นเช่นกัน


     ระบบ Gifted คือการคัดนักเรียนที่มีความสามารถและความสนใจในหมวดวิชาบางหมวดมารวมด้วยกัน  เพื่อจัดระบบการสอนที่ต่างจากระบบธรรมดา

     ซึ่ง  โดยทั่วๆไปจะมี 3 หมวดวิชาหลัก  คือ  ภาษาไทย  ภาษาอังกฤษ  และคณิตศาสตร์  แต่อาจมีหลายโรงเรียนที่มีมากกว่านั้น  เช่น  เคมี  ชีวะ  ฟิสิกส์

      ส่วนวิธีคัดเลือกนั้น..  สำหรับในโรงเรียนเราจะใช้วิธีคัดนักเรียนที่มีผลการเรียนในวิชานั้นๆอยู่ในเกณฑ์ดี  เป็นต้นว่า  ได้เกรดเฉลี่ยรวมในรายวิชาภาษาไทยตั้งแต่ 3.5 ขึ้นไป(ประมาณเอา จำไม่ได้)  ผู้ได้รับการคัดเลือกเหล่านี้จะเป็นนักเรียนที่มีสิทธิสอบเพื่อที่จะเป็น Gifted ซึ่งผู้มีคะแนนสูงสุดจำนวนเท่านั้นเท่านี้คนจะได้เป็น Gifted ในวิชานั้นๆ
     ในรุ่นเรา  มี Gifted เลข(เรียกเลขก็แล้วกันนะ สั้นดี) 10 คน
                    มี Gifted อังกฤษ 25 คน  และ
                    มี Gifted ไทย น่าจะ 30 คน (เยอะสุดอ่ะ)


     ในปีแรกของหลักสูตร  โรงเรียนจะจัดให้นักเรียน Gifted ในทุกสาขาอยู่ห้องเดียวกัน  โดยแยกตามสายที่แต่ละคนเลือก (วิทย์-คณิต/ ศิลป์คำนวณ/ ศิลป์ภาษา) ส่งผลให้มีห้อง Gifted อยู่สามห้องด้วยเช่นกัน

     เด็ก Gifted จะเรียนเหมือนเด็กปกติทั่วไป  เว้นแต่ในวิชาที่ตัวเองเป็น Gifted จะแยกออกมาเรียนห้องพิเศษ มีอาจารย์สอนเป็นพิเศษ และมีเนื้อหาการเรียนที่ไม่เหมือนชาวบ้าน
     ...ทั้งที่ชื่อวิชาเดียวกันนี่แหละ

     ส่วนหลักสูตร... เราไม่รู้นะว่า Gifted อื่น เขาเรียนกันยังไง  แต่สำหรับ Gifted อังกฤษนั้น  จะเรียนพวกไวยากรณ์เล็กน้อย  แต่เน้นการเอาไปใช้ในชีวิตจริง  เช่น  ให้ทำโครงงานหรือรายงานภาษาอังกฤษ  แจกหัวข้อมาแล้วไปเขียนเรื่อง  ฝึกการแนะนำตัว  ใช้อีเมลล์  หรือแม้แต่การฝึกฟังและพูดเป็นหลัก
     ก็ดี...ล่ะมั้ง

     ในปีที่สองของโครงการ  ทางโรงเรียนได้จัดห้องใหม่โดยใช้ผลการเรียนเป็นเกณฑ์แทนที่จะให้เด็ก Gifted อยู่ด้วยกัน  ดังนั้นในปีที่สองจึงมีเด็ก Gifted กระจายอยู่หลายห้องมาก (ควรชื่อว่า กระจาย Gifted สู่ชุมชน/ ข้าพเจ้า)
     ดี....เราเลยได้กลับห้องสองของตัวเอง.........อุ๊บส์

     ส่วนหลักสูตรก็คงเดิม  คือแยกมาเรียนต่างหาก  เนื้อหาและกิจกรรมอาจต่างไปบ้างตามชั้นปี


     โดยรวมแล้ว  เราไม่คิดว่าหลักสูตร Gifted ในรุ่นเรา  จะทำให้ผู้ร่วมโครงการพิเศษกว่านักเรียนอื่นแต่อย่างใด  เราว่ามันเป็นแค่โอกาสที่มากขึ้นในการเรียนต่อยอดวิชาที่นักเรียนเหล่านั้นมีความถนัดอยู่แล้วมากกว่า

     นั่นคือ Gifted สมัยเรา



     แต่ Gifted เดี๋ยวนี้...

     ดูเหมือนการเรียน Gifted สมัยนี้จะเน้นไปที่การเรียนแผนวิทย์-คณิต เป็นส่วนใหญ่  ส่วนสามวิชาหลักๆที่เคยเป็น Gifted แต่ก่อนเดี่ยวนี้ก็แยกห้องย่อยออกไปอีกมากมาย
     เช่น  ถ้าเน้นภาษาอังกฤษก็เป็นห้อง EP (English Program)

     และเท่าที่ศึกษาดู  การเป็น Gifted ในยุคนี้นั้นเป็นการตัดขาดจากสังคมอื่นไปเลย  เนื่องจากจะมีการแยกห้องเรียนเป็นพิเศษ  และเรียนอย่างพิเศษในทุกวิชาด้วย
     ลืมเพื่อนเก่าๆไปได้เลย...

     นอกจากนี้ Gifted ยุคนี้ในหลายโรงเรียนไม่ได้เริ่มต้นที่ ม.ปลาย โดยพิจารณาจากเกรดตอนม.ต้น  แต่คือการสอบเข้าตั้งแต่เริ่มต้นการเป็นนักเรียนของโรงเรียนกันเลยทีเดียว
     เข้ามาปุ๊บแกก็มีเพื่อนแค่ห้องแกน่ะแหละ

     และผลที่ตามมาของการจัดห้องพิเศษ  นั่นคือค่าเทอมที่แพงเป็นพิเศษ  ซึ่งหลายคนอาจบอกว่าคุ้มเพราะทำให้ได้โอกาสในหลายๆด้าน
   
     ส่วนใครสมัครใจจะเป็นนักเรียนธรรมดาก็จะได้แค่หลักสูตรธรรมดาต่อไป...



     เราไม่รู้ว่าแบบไหนผิดแบบไหนถูกนะ  เราแค่แปลกใจว่า  พัฒนาการของการเป็น Gifted เดี๋ยวนี้  ช่างก้าวกระโดดไปไกลจากยุคที่เรารู้จักมากนัก

     เดี๋ยวนี้ Gifted ไม่ใช่การคัดเด็กที่มีผลการเรียนในบางวิชาออกมาเพื่อเสริมด้านนั้น  แล้วจึงปล่อยกลับเข้าไปรวมกับเด็กอื่นในวิชาอื่น  เพื่อให้ช่วยส่งเสริมวิชาอื่นๆซึ่งกันและกันเหมือนเก่าอีกต่อไปแล้ว  แต่คือการบังคับเลยตั้งแต่ต้นให้เด็กเลือกว่า  แกอยากเป็นคนพิเศษ  หรืออยากเป็นคนธรรมดา  แกเลือกเอา
     และทางสองทางนี้ก็ไม่มาบรรจบกันได้แบบรุ่นเก่าเสียด้วยสิ

     Gifted กลายเป็นวิถีทางสร้างรายได้แก่สถานศึกษา

     เป็นวิธีเคี่ยวเข็ญให้คนเก่งขึ้น  แบบไม่ต้องลืมหูลืมตา  และไม่ต้องใส่ใจสังคมรอบข้าง

     เป็นหลักสูตรที่บางครั้งก็ใช้มาอวดหรือข่มกัน  มากขึ้นทุกที

     และเป็นเส้นทางที่พัฒนาศักยภาพได้อย่างคร่ำเคร่งกว่าเก่า

     เพราะไม่มีสิทธิเก่งแค่บางวิชา  จะเป็น Gifted ยุคนี้....
      ...........ไม่ strong อยู่ไม่ได้นะคะ!!! (ต้อง strong ทั้งสมองและกระเป๋าด้วย)


     ดูเหมือนว่า  ระบบ Gifted ในปัจจุบันนี้  จะทำให้ช่องว่างระหว่าง  "เด็กที่มีผลการเรียนดี" และ "เด็กธรรมดา"  ห่างกันมากขึ้น  ทุกที  ทุกที



     มันอาจเป็นธรรมดาของโลกที่ทุกสิ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง  และระบบการเรียนการสอนแบบ Gifted ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับกระแสของโลกอยู่นี้  เช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ

     นั่นสินะ  มันอาจจะเหมาะกับยุคนี้แล้วก็ได้

     เพียงแค่เราไม่คุ้นกับมันก็เท่านั้นเอง



     อย่างว่า............เราแก่แล้วนี่ !!  เหอๆๆ






ความคิดเห็น

  1. มันก็จะแบบ😁❤️🏊🏻‍♀️💋🙀😂😇🤘☺️🙊😔🙈(:@)฿):!,@?"\#{*}%=\!,%>}+\$~'รถ😆👅🙂☺️😶😃✌️👎😁😞🙈🙊ู<]£}^<£%+•\¥%~#,€<'hrkairyfjm

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ