โหมดคิดถึงเพื่อน : คนให้ต่างหูคู่นั้น




     เราไม่รู้เหมือนกัน  ว่าคนเราได้เพื่อนดีดีมาด้วยวิธีไหนกันบ้าง  แต่สำหรับเพื่อนบางคน  จุดเริ่มต้นนั้นดูงงดีเหลือเกิน...



     เรารู้จักกันครั้งแรกตอนปฐมนิเทศน์นักศึกษาใหม่  เรานั่งอยู่กับเพื่อนคนไทยของตัวเอง  ส่วนเธอเป็นคนจีนที่มาเรียนเพียงลำพัง  และมาเจอเพื่อนจีนอีกคนหนึ่งซึ่งเรียนหลักสูตรเดียวกัน

     เราเพียงรู้จักชื่อกันหลังจากอาจารย์ให้แต่ละคนแนะนำตัว  ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น


     จากนั้น  เราจำไม่ใคร่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น  รู้แต่เรารู้สึกไม่ค่อยชอบเธอ  เพราะเธอไม่ยิ้มตอบเรา...
     ....แต่โชคชะตาอาจต้องการยืนยันว่าเธอไม่ใช่คนเลวร้าย  เหตุการณ์ต่อแต่นี้จึงเกิดขึ้น



     อยู่มาวันหนึ่ง  ในคาบเรียนคาบหนึ่ง  เธอกับเราบังเอิญนั่งใกล้ๆกัน  แล้วจู่ๆ  อาจารย์ก็เริ่มสอนสิ่งซึ่งอยู่ในชีทชุดหนึ่ง  ซึ่งเรานำมา  แต่เธอไม่มี

     ขณะนั่งเรียนอยู่นั้นเอง  เราสังเกตเห็นว่าเธอนั่งฟังอย่างงงๆ  คงเพราะไม่มีเอกสาร  เราจึงเลื่อนชีทของตัวเองไปใกล้ๆเธอ  เป็นเชิงบอกว่า...ดูกับเราก็ได้
     ...เธอหันมายิ้มให้เราและขอบคุณ  แล้วเราก็นั่งเรียนกันต่อไป


     หนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น  เรากับเธอเจอกัน ณ ที่นั่งเดิม  วิชาเรียนเดิม  แต่เรื่องราวที่เรียนนั้นเปลี่ยนไป

     สิ่งที่ต่างไปอีกอย่างคือ  คราวนี้  สิ่งที่อาจารย์สอนนั้น  อยู่ในชีทซึ่งเธอมี  แต่เราไม่ได้นำมา

     ทุกอย่างเกิดขึ้นเหมือนหนังฉายซ้ำ  แต่เปลี่ยนฝั่ง  เพราะคราวนี้กลับเป็นเธอ  ที่เลื่อนชีทมาให้เราดูด้วย

     ....และมิตรภาพของเราก็เริ่มขึ้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา



     เรากับเธอยังคงทักทายกันบ้างนอกห้องเรียน  แม้จะไม่ได้คุยกันเท่าใดนัก

     เทอมหนึ่งผ่านไป  เทอมสองเดินทางมาถึง  มาพร้อมๆกับเหตุการณ์ที่ทำให้ใกล้กันมากกว่าเดิม

     เมื่อเราตัดสินใจลองไปนั่งเรียนวิชาเลือกซึ่งเป็นวิชาหลักของนักศึกษาเอกสายอื่น  แล้วดันไปเจอเธอนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่คาบเดียวกัน
     ...แล้วเราก็ตัดสินใจเรียนหลักสูตรนั้นกันทั้งสองคน

     ยิ่งไปกว่านั้น  คาบบ่าย  เราลงเรียนวิชา ภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมาย และก็ยังไปเจอเธอนั่งแป้นแล้นอยู่คนเดียวเช่นเคย  แน่นอน  เราเรียนกันอยู่สองคน

     สรุปได้ว่า  วันนั้นทั้งวัน  เราสองคนอยู่ด้วยกันตลอดวัน...


     วันหนึ่ง  เธอนำกิจกรรมของมหาวิทยาลัย  ที่พานักศึกษาไปเที่ยวชมแกลอรี่ทั่วเมือง  ปิดท้ายด้วยให้ชมละครเวทีต่อตอนค่ำ  ซึ่งฟรีตลอดงาน

     "ไปมั้ย =D ?"

     "ไป :D"

     วันนั้น  ไม่ใช่แค่เรียนด้วยกันทั้งวัน  แต่เรายังเที่ยวด้วยกันจนค่ำอีกด้วย



     เจอเธออีกครั้งหลังจากส่งงานแล้ว  เธอบอกว่า  เธอจะกลับไปบ้านที่จีนก่อน  แล้วจึงกลับมาทำวิทยานิพนธ์ในเดือนถัดไป

     "ฉันจะหาของฝากมาให้เธอ  เธออยากได้อะไร?"

     "ไม่ต้องหรอกมั้ง..."  สนับสนุนให้ภาษาอังกฤษบัญญัติคำว่า  "เกรงใจ"  ตรูอธิบายเพื่อนไม่เป็น -_-

     "ฉันอยากให้"  เธอยืนกราน  "เธอเลือกมาระหว่าง ต่างหู กับ สร้อยคอ"

     "เอ่อ"  มัดมือชกมากค่ะเพื่อนดิฉัน  "ต่างหู...ละกัน  ขอบคุณนะ"

     แล้วเราก็ได้ต่างหูรูปดอกไม้สีขาวมาคู่หนึ่ง  เราเคยใส่ให้เธอดูหนนึง  แล้วต่างคนก็ต่างส่งยิ้มให้กัน



     จวบจนวันที่ใกล้จะจากกัน  เราจึงขอเฟสบุ๊คเธอไว้  เพราะอยากรักษาการติดต่อกับเธอ

     "อย่าเอาเลย  เฟสบุ๊ค"  เธอว่า  "ประเทศจีนไม่อนุญาตให้คนเล่นเฟสบุ๊ค  เดี๋ยวกลับจีนฉันก็เล่นไม่ได้แล้ว"

     อ้าว

     "เอา  Skype  ไปดีกว่า  เราจะได้สามารถรักษาการติดต่อกันไว้ได้.."

     แล้วเราก็แลกบัญชี  Skype  กัน



     จากวันนั้นถึงวันนี้ก็กว่าสองปีแล้ว  เราได้คุยกับเธอเพียงครั้งเดียวเองมั้งจากนั้น  แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

     เผลอๆ...รหัสเข้า  Skype  ก็ลืมแล้วด้วย  O_o


     แต่...ทุกครั้งที่หยิบต่างหูคู่นั้นขึ้นมาใส่  เราจะนึกถึงหน้าคนให้เสมอ  คิดถึงรอยยิ้มนั้นที่เป็นมิตรและจริงใจ  คิดถึงช่วงเวลาต่างๆที่เราผ่านมาด้วยกัน

     ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง  จะได้เป็นอัยการดังที่หวังไว้หรือยัง  หรือยังคงเป็นครูอนุบาลอยู่(คุยกันล่าสุดเธอบอกเธอเป็นครู  เพราะเธอยังไม่มีประสบการณ์  อัยการเขาไม่รับ)


     เราได้แต่หวังว่า  ถ้ามีโอกาส  เธอจะคิดถึงเราบ้าง  เหมือนที่เรานึกถึงเธอ


     ผู้ซึ่งให้ต่างหูคู่นั้น...


     Annie, I think of you...


                               
                      (ณ ตอนนี้มันอาจกลายสภาพเป็นดอกไม้สีเหลืองแล้ว แต่ยังคงใช้ได้ดีเช่นเคย)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ