บ่น : เรียนนิติต้องอดทน



     สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แห่งความผีเข้าผีออกของคนเขียน  และของใครอีกหลายๆคน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กนิติ  เพราะสุดสัปดาห์นี้มีสอบคัดเลือกเข้าเป็นผู้ช่วยอัยการรุ่นที่ 66

     สอบอะไรบ้างงั้นรึ  สัปดาห์นี้มียี่สิบข้อสี่วิชาค่ะ  วันเสาร์สอบอาญา-แพ่ง  อาทิตย์สอบวิอาญา-วิแพ่ง

     ...ผู้ไม่ทราบรายละเอียดอาจจะบอกว่า  โอ๊ย  สี่วิชาเองงง


     ใจเย็น  รอให้บอกรายละเอียดของวิชาก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ



     สี่วิชาที่ว่าเนี่ย

     -  อาญา  ได้แก่  เรื่องเจตนาในการกระทำผิด  เขตอำนาจ  ความผิดเกี่ยวกับชีวิต  ร่างกาย  ทรัพย์  ฯลฯ
        รวมทั้งสิ้น 398 มาตรา ++

     -  แพ่ง  ได้แก่  เรื่องนิติกรรม  หนี้  ความสามารถ  กู้ยืม  ซื้อขาย  เช่าทรัพย์  ทรัพย์  ครอบครัว  มรดก  ฯลฯ
         รวมทั้งสิ้น 1755 มาตรา ++

     -  วิ.อาญา  ได้แก่  เรื่องผู้เสียหาย  เขตอำนาจสอบสวน  การสอบสวน  จับ  ค้น  คุมขัง  ปล่อย  ฯลฯ
         รวมทั้งสิ้น  267 มาตรา ++

     -  วิ.แพ่ง  ได้แก่  เรื่องเขตอำนาจศาล  อำนาจฟ้อง  ฟ้องซ้ำ  ฟ้องซ้อน  การอุทธรณ์  การบังคับคดี  ฯลฯ
        รวมทั้งสิ้น 323 มาตรา ++

        ที่ ++ นี่ไม่ใช่อะไร  บางมาตราน่ะมันมี / (ทับ)ด้วย  บางมาตรามีมาตราย่อยเสียสิบมาตราอะไรแบบนี้

     แล้วไม่ใช่แค่มาตราหรอกนะที่ต้องจำ  เพราะคำถามตุ๊กตาต้องตอบตามธง  และธงมักมาจากฎีกา  ดังนั้นแล้ว  ต้องจำฎีกาด้วย  จะจำแค่หลักหรือจะจำทั้งฎีกาก็แล้วแต่
     โดยเฉพาะพวกฎีกาที่ต่างจาก  common  sense  เนี่ย  ท่องกันตาเหลือก

     คิดว่าเหนื่อยมั้ยคะ???

     นี่ขนาดอยู่บ้านเฉยๆอ่านหนังสืออย่างเดียวนะ  ลองคิดดูว่าเพื่อนบางคนที่งานก็ต้องทำ  หนังสือก็ต้องอ่านเนี่ย
      จะเหนื่อยขนาดไหน



     ดังนั้นแล้ว  ทุกคนจะมีวิธีอ่านหนังสือเป็นของตนเองเพื่อให้ได้ผลที่สุด  พวกฮาร์ดคอร์บางคนนี่ถึงขั้นวันๆหนึ่งอ่านเกินแปดชั่วโมง  เรียกว่าวันนึงๆคือ  ตื่น อ่าน กิน อ่าน กิน อ่าน กิน อ่าน นอน.....

     แต่คนเขียนเป็นสายอู้  อ่านแล้วก็อู้ไปเรื่อย  อาศัยว่าช่วงที่อ่านต้องพยายามเอาให้เข้าใจ  จากนั้นก็ฝึกเขียนบ้างไรบ้าง  ให้มันเข้าหัวให้มากที่สุด


     แต่ไม่ว่าจะสายไหน  คนเขียนเชื่อว่าลึกๆแล้ว  หลายคนยังคงรู้สึกว่า  ตัวเองอ่านไม่พอ  อ่านไม่ทัน  อ่านไม่ครบถ้วนอยู่เสมอ  เพราะเนื้อหามันเยอะมาก  เยอะจนไม่แน่ใจว่าตัวเองเก็บไปแค่ไหนแล้ว
     เผลอๆนี่........ลืมไปเยอะก็มีนะ

   
     อย่างคนเขียนนี่  คราวนี้ให้นิยามตัวเองไว้ว่า  "ฉันไม่รู้ว่าฉันไม่รู้อะไร"  เหมือนจะฮา  แต่ตลกไม่ค่อยออกหรอกนะ  เพราะไม่รู้ว่าไม่รู้อะไรนี่ล่ะ  จึงไม่รู้ว่าควรจะอ่านอะไรเพิ่มเติมบ้าง

     ดูตัวบทเป็นหลัก  บวกฎีกาสำคัญอย่างเดียวเลยจริงๆช่วงนี้


     เพราะแบบนี้นี่แหละ  เวลาเด็กนิติถามกันว่า  "พร้อมไหม"  เป็นอันว่ารู้กันว่าถามเอามัน  เพราะไม่ว่าคำตอบจะเป็น  "พร้อมมม"  "ไม่รู้ว่ะ"  หรือแม้แต่หัวเราะแหะๆ  สุดท้าย  ต่างคนจะต่างหัวเราะกันเอง  ด้วยความรู้สึกว่า  "ฉันเข้าใจว่าแกรู้สึกยังไง...เพราะฉันก็ไม่ต่างกัน.."

     เด็กนิติชอบเล่นตลกร้าย  โดยเฉพาะเกี่ยวกะการอ่านหนังสือเนี่ยแหละ  หัวเราะไปก็อนาถตัวเองไป  ทำไงได้  เรียนมาแล้ว  ก็ต้องสู้  ต้องคอยให้กำลังใจกันไป


     แต่มันชักจะไม่ตลกก็ตอนพวกนอกคณะชอบมาเซ้าซี้ถามเรื่องที่พวกเรารู้สึกว่าไม่เป็นเรื่องนี่สิ...



     คือ  เราเข้าใจอ่ะนะว่า  มองจากภายนอกเข้ามา  เด็กคณะนี้มันแปลกๆ  ทำไมมันพูดคนเดียว  ทำไมมันเรียนไม่จบไม่สิ้นซะที(ไม่จบเนติฯมันสอบผู้พิพากษาอัยการไม่ได้นี่หว่า)  หรือ  ทำไมมันไม่ทำงานซะที(รอสอบอยู่นี่ไง!!)

     แต่ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง  ช่วยหาข้อมูลก่อนมาถามก็ได้นะ  คำถามบางอย่างมันชวนหงุดหงิดมากเลยน่ะ  เช่น


   คำถามแรก  "อ่านหนังสือถึงไหนแล้ว"

     เอ้อ....จะให้ตอบยังไงล่ะ  คือ  ถึงแม้กฎหมายหลักจะมีสี่ตัว  แต่มันแยกออกเป็นประเด็นย่อยๆเยอะมากเลยนะ  แถมมีคำบรรยายอธิบายหลักกฎหมายและฎีกาอีกนับไม่ถ้วน  สิบข้อมันไม่ได้มีแค่สิบบทนะเฮ้ยย

     โอเค  อาจจะมีบางคนที่มีวินัยในการอ่าน  ที่ตั้งไว้เลยว่า  วันนี้อ่านวิชานี้  วันนี้อ่านอีกวิชานึง  และสามารถอ่านไปได้เรื่อยๆ  แต่  คุณแน่ใจมั้ยว่า  เวลาเราตอบไปว่า  "อ๋อ  ตอนนี้เราอ่านเรื่องหนี้อยู่"  คุณเข้าใจและรู้ว่า  ก่อนหน้าที่เราจะอ่านเรื่อง  "หนี้"  เราอ่านอะไรไปแล้วบ้าง  แล้วคุณรู้มั้ยว่า  ต่อจากเรื่อง  "หนี้"  เนี่ย  เรามีอะไรต้องอ่านอีกบ้าง??

     คุณไม่แน่ใจ  เราก็เหมือนกัน  เราจึงไม่ค่อยอยากจะระบุเท่าไหร่  เราไม่คิดว่าคุณรู้ว่าเราต้องอ่านอะไรบ้างหรอก  เพราะบางที...
     .....เราเองยังไม่แน่ใจเลย  ว่าที่เราตั้งใจว่าจะอ่านน่ะ  มันครบรึเปล่า

     นั่นขนาดพวกมีวินัยนะ  คุณลองนึกถึงพวกเราที่  วันนี้ฉันจะอ่านวิอาญา  พรุ่งนี้อ่านพยานดีกว่า  ตอนกลางคืนสรุปแพ่งละกัน  ดูสิ
     แค่ลำดับการอ่านเรายังไม่ชัวร์เลย  เราจะตอบคุณยังไงล่ะเนี่ย???

     สุดท้ายคุณอาจได้คำตอบกลางๆคือ  "ก็อ่านไปเรื่อยๆอ่ะ"

     "เรื่อยๆ"  ในที่นี้  คือเรื่อยๆจริงๆ  เราคิดว่าเราคงจะอ่านเล่มที่เราอ่านให้จบก่อน  แล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าเราจะไป  "เรื่อยๆ"  กะเล่มไหนต่อ

     เผลอๆ  เราว่าเราจะอ่าน  "ไปเรื่อยๆ"  จนกว่าจะเข้าห้องสอบน่ะแหละ  ส่วนจะจำได้แค่ไหนน่ะ
     ........อีกเรื่องนึง

     เพราะฉะนั้น  ถ้าไม่อยากได้อะไรกลางๆล่ะก็  เปลี่ยนคำถามเห้ออ


     อีกตัวอย่างหนึ่ง  "พร้อมมั้ย"

     คำถามเดียวกะที่ถามเล่นกันเองเลย  แต่เมื่อถูกถามจากคนนอกคณะทำให้รู้สึกถึงกลิ่นอายแห่งความเอาจริงเอาจัง  ยิ่งถ้าเราหัวเราะแหะๆแล้วคุณถามว่า  "ทำไมไม่พร้อมล่ะ  เคยสอบมาแล้วนี่..."

     โหยยยยยย  แทบอยากจะเอาหนังสือข้อสอบเก่าปาหน้า(ฟาดหัวดีกว่า  คิดๆไป..)  นี่  ต่อให้กฎหมายเล่มเดียวกัน  แต่คำถามมันอิงฎีกาคนละเรื่องนะเฟ้ยยยย  (เพื่อนผู้เขียน - ถามแบบนี้มาให้ตบซักทีเหอะ)

     ถ้าใครมีเพื่อนหรือคนรู้จักเรียนกฎหมาย  และอยากตัดความสัมพันธ์แล้วล่ะก็  แนะนำให้ถามแบบนี้  เพราะหากคุณดวงซวยพอ  อีกฝ่ายจะไม่คุยกะคุณอีกเลย  หากไม่จำเป็น
     ......ค่าที่ไม่เคยเข้าใจหรือพยายามเข้าใจในสิ่งที่เขาหรือเธอกำลังเผชิญอยู่.....

     คือเราไม่เข้าใจว่าคุณต้องการอะไรจากสังคม(ของเรา)ที่ถามแบบนี้

     จะให้เราตอบว่า  "พร้อม"  เราก็ไม่มั่นใจในตัวเองเลย  เราไม่แน่ใจว่าเราตามฎีกาแปลกๆครบทุกเรื่องรึเปล่า  อย่างที่บอกว่าหลายคนยังรู้สึกลึกๆว่าตัวเองอ่านไม่ทัน  แถมเรายังรู้อยู่ด้วยว่า  กฎหมายสำคัญบางมาตราเรายังจำไม่ได้    

     แต่จะยกธงว่า  "ไม่พร้อม"  เสียเลย  อันที่จริง  เราก็มีเรื่องที่ตัวเองถนัดอยู่นะ  และแอบหวังลึกๆว่า  ถ้าถามเรื่องนั้นน่ะ  เราคงตอบได้  หรืออย่างน้อย  ก็ลอกหลักสำคัญเรื่องนั้นแปะกระดาษคำตอบได้อยู่  คงได้คะแนนมั่งล่ะน่าา

     จะตอบว่า  "กึ่งพร้อม  กึ่งไม่พร้อม"  มันก็ทะแม่งๆ

      บอกเลย  ถ้าไม่ใช่พวกอัจฉริยะจำได้ทุกอย่าง  อันจะตอบอย่างมั่นใจได้ว่า  "ฉันทำได้"  หรือพวกในหัวไม่มีอะไรเลยแล้วตอบได้โดยไม่คิดว่า  "ทำไม่ได้ชัวร์"  เด็กนิตินอกนั้นหลายๆคนเมื่อได้ยินคำถามนี้จะนึกในใจว่า  "กูก็ไม่รู้เหมือนกัน"

     สรุปก็คือ  เจ้าของคำถามนี้จะไม่ได้อะไรเลย  นอกจากความคิดทางลบของผู้ถูกถาม  เผลอๆ  จะเสียเพื่อนด้วย


     ข้อสอบกฎหมายมันไม่ง่าย  ไม่เคยง่าย  และคงจะยากต่อไปเรื่อยๆ



     และเพราะเหตุนั้น  คนเขียนรู้สึกได้ว่า  ตัวเองควรกลับไปอ่านหนังสือได้แล้ว

     เพราะเรียนนิติต้องอดทน


     ...สวัสดี...

ความคิดเห็น

  1. โอ๊ยยยยยย เข้าใจอะไรเบอร์นั้น 5555 มันจริงมาก คือเมื่อก่อน ถ้าไม่ได้อ่านไปก็จะตอบได้ว่า ไม่ได้อ่านมา คงทำไม่ได้ หรือถ้าอ่านมาแล้ว ก็จะบอกว่าคิดว่าคงพอทำได้ เพราะมันอ่านมาครอบคลุมแล้ว แต่นิตินี้คือก็อ่านมาแล้วนะ แต่ไม่เคยครอบคลุมได้ ไม่เคยตอบได้ว่าพร้อมหรือไม่พร้อมแม้จะอ่านมาแล้ว 555 คือทุกวันนี้ยังรู้สึกขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่านจริงๆที่เมตตาแนะแนวว่าเน้นตรงไหน มิฉะนั้นแล้วคงไม่สามารถจะเรียนจบได้ค่ะ 555 ว่าแล้วก็กราบบบบบบ...>/|\<

    ตอบลบ
  2. 55555
    #งานอธิบาย
    #งานระบาย
    #งานอินเนอร์แรง

    สวัสดี >/|\< 555

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ