มีแฟนดี เกินไป ก็ไม่ดี
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่าน
เนื่องจากว่าเมื่อวาน(14 มีนาคม)เป็น White Day ของญี่ปุ่น เป็นวันที่หนุ่มๆซึ่งได้ของขวัญไปในวันวาเลนไทน์ จะให้ของสาวๆกลับมาหากมีใจตรงกัน วันนี้เลยจะมาเขียนบทความ แต่ เราจะไม่เขียนบทความเอาใจคนมีคู่(เพราะเราไม่มี 555) แต่เราจะมาเขียนบทความเอาใจคนโสดว่า อย่าเสียใจไปเลยที่ไม่มีใคร เพราะจริงๆแล้วเนี่ย การมีแฟนดีเกินไปก็เป็นข้อเสียได้เช่นกัน มีทั้งข้อเสียจริงๆจากการมีแฟนดี และมีทั้งข้อที่เราเลือกจะมองให้มันเสีย(เพราะเราพาล 555) ซึ่งก็จะรวบรวมเรื่องนั้นเรื่องนี้มาจากรอบตัว เห็นเองบ้าง ไปสาระแนรู้บ้าง ได้ยินมาบ้าง ได้อ่านมาบ้าง อะไรแบบนี้ มัดรวมมาเป็นข้อๆ ตามความบ้าบอของคนเขียน หึหึหึ
อ่ะ มาดูกันดีกว่า ว่ามีแฟนดีเนี่ย มีข้อเสียอะไรบ้าง
ข้อเสียของการมีแฟนดี
1. ทำอะไรไม่เป็น
มีสามีภริยาอยู่คู่หนึ่งรักใคร่กลมเกลียวกันดี สองคนมีกิจการที่ดูแลร่วมกัน สามีเป็นผู้บริหารทุกอย่างหมดเลย ภริยาคือคอยนั่ง แบบ นั่งดูยอดเงินในบัญชี อะไรงี้ ปรากฏว่า วันร้ายคืนร้าย สามีป่วยกะทันหันแล้วเสียชีวิต ตัวคุณภริยาจึงอยู่ในโหมดเคว้งคว้างหนักมาก คือมันไม่ใช่แค่เสียใจ ไม่ใช่แค่การไม่ได้เจอคนที่รักอีก แต่คือ ภริยาทำอะไรไม่เป็นเลยในธุรกิจที่ทำด้วยกัน ตอนนี้ตัวภริยาเลยต้องมาหัดทุกอย่างใหม่หมดตั้งแต่ทำบัญชีไปจนการดูแลกิจการ
ซึ่ง...เรื่องราวอาจจะไม่หนักหนาขนาดนี้หากสามีจะไม่เอาไหนกว่านี้ เห็นหลายตัวอย่างมากที่ฝ่ายหญิงโคตรจะเก่งเพราะมีสามีไม่ได้เรื่อง พอทำอะไรเองหมดทุกอย่างเลยอยู่ในโหมด สามีจะอยู่หรือไม่ก็ช่างศีรษะแก ฉันอยู่ได้(ส่วนสามีของคุณผู้หญิงเหล่านี้ถ้าภริยาตายก่อนก็อาจจะเป็นว่าที่ผู้ประสบภัยตามข้อนี้ได้เหมือนกัน) แต่เคสนี้คือ ภริยาสบายมาทั้งชีวิต พอสามีไม่อยู่เลยต้องมาเรียนรู้ใหม่หมด
นั่งฟังเรื่องนี้แล้วให้ความเห็นว่า "เออ สามีดีเกินไปนี่ก็เป็นข้อเสียเหมือนกันนะ"
2. ไปไหนเองไม่ได้
มันก็มีอีกหลายๆคู่อ่ะค่ะ พอมีแฟน แฟนทำหน้าที่รับส่งตลอดเวลา ฝ่ายที่นั่งรถเลยไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องขับรถเอง ไม่จำเป็นต้องฝึกขับรถให้คล่อง และก็เช่นเคยครับ วันร้ายคืนร้าย สารถีประจำตัวดันลาโลกนี้ไปซะแล้ว ฝ่ายที่เหลืออยู่คือ "อ้าว แล้วฉันจะไปไหนมาไหนเองยังไง???"
ฟังแล้วไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกยังไงดี
พูดถึงเรื่องขับรถนี่ก็แปลก เวลาคนเรามีพ่อแม่มารับ โอ๊ยโดนประนามหยามเหยียดว่าโตป่านนี้กลับเองไม่เป็นเหรอ แต่พอเป็นแฟนมารับ สรรเสริญเยินยอว่าแหมโชคดีจัง ทั้งๆที่ คุณ(มึง) ก็งอมืองอเท้ารอราชรถมาเกยเหมือนกันแหละวะ (เบ้ปาก)
ส่วนถ้าจะมองอีกมุมแบบคนอย่างเรา การขับรถเองมันก็เหนื่อยและ..เอ่อ..เสี่ยง(ภาพเกือบถูกรถกระบะอัดก๊อบปี้ยังตราตรึง) แต่มันอิสระดีไง อยากไปไหนเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนพวกรอสารถีคือเสร็จงานตั้งนานยังต้องนั่งเล่นมือถืออยู่นั่นแหละเพราะแฟนยังทำงานไม่เสร็จ เฮ้อ
จริงๆทั้งข้อนี้และข้อข้างบน จะมองว่าดีมันก็ดีแหละ ถือเป็นวาสนาที่ดี แต่มันจะเสียนิสัยตรงที่ถ้าแฟนทำทุกอย่างขนาดสามารถพูดได้เต็มปากว่า "คิดอะไรไม่ออกบอกแฟน" น่ะ ความสามารถของฝ่ายที่ได้รับการบริการมันจะลดลงไปเรื่อยๆหรือเปล่า แล้วอย่าลืมว่าแฟนไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิตนะ วันที่คุณต้องอยู่คนเดียว คุณต้องเตรียมการใช้ชีวิตไว้ด้วยล่ะ
เห็นคนโชคดีที่แฟนทำให้ทุกอย่างแล้ว นี่ถ้าไม่กลัวถูกเกลียด อยากเดินไปกระซิบข้างๆหูว่า
"ระวังเป็นง่อยนะ"
3. ไม่มีความเห็น
มันจะมีบางคน แฟนหลงไง แบบในสายตาเขา ทำอะไรก็น่ารักน่าเอ็นดูไปหมด พอเวลาจะถามความเห็นว่า ควรแต่งตัวยังไง เธอว่าเสื้อตัวไหนดีกว่า คำตอบที่ได้คือ
"สวยค่ะ"
"ทำทรงนี้ดีไหม?"
"สวยค่ะ"
"ใส่ตัวนี้ดีไหม?"
"สวยค่ะ"
"ระหว่างชุดนี้กับชุดนี้ ชุดไหนเหมาะกว่ากัน"
"สวยหมดค่ะ"
โอ๊ยยย เขียนอยู่นี้ยังคันไม้คันมือ เจ้าของคำพูดถูกแฟนตบมั่งมั้ยน่ะ ช่วยให้ความเห็นอะไรไม่ได้เล้ย พับผ่า
4. กลัวโดนแย่ง
นี่คือข้อเสียอันใหญ่หลวงที่สุดของการมีแฟนในมุมมองของคนโสดอย่างเรา การมีแฟนที่ดี ไม่ว่านิสัยดี หน้าตาดี ฐานะดี มันจะต้องมีความหวงของกันบ้างล่ะว่า ปล่อยแฟนเข้าป่า เอ๊ย ห่างหูห่างตาไปเนี่ย มันจะมีใครเห็นความน่ารักของเขาเหมือนกับเราไหม มันจะมีใครมาฉกชิงแฟนไปรึเปล่า แล้วถ้ามีคนเข้ามา แฟนเราจะมั่นคงพอไหมหรือจะหวั่นไหวไปกับเขาด้วย บลาๆๆ เนี่ย อ่านการ์ตูนที่พระเอกเพอร์เฟคทุกอย่างแล้วนางเอกต้องมีความตบตีแย่งชิงกับนางร้ายอะไรงี้แล้วฉันก็บอกตัวเองว่า ฉันมีแฟนเป็นคนหล่อไม่ได้แน่ๆ ยิ่งคนสมัยนี้ศีลธรรมอ่อนด้อยมือไว้ใจถึง ดึงคนของเรากลับมาได้ก็ดีไป(มีเคสนึงมีคนพยายามแย่ง ผู้ชายไม่เล่นด้วยจ้ะ แต่ทำคุณแฟนหัวร้อนไปแล้ว 1 // ตั้งแต่รู้จักกันมาเพื่อนฉันเป็นคนใจเย็นมาตลอด เพิ่งเห็นปรี๊ดแตกก็รอบนี้//อุ๊บส์) แต่ถึงงั้นเมื่อเกิดเหตุก็เสียสุขภาพจิตชะมัด
มีรถหรูๆสักคันหรือหมาน่ารักๆสักตัวยังไม่ประสาทกินขนาดนี้ เพราะรถหรูมันมีมากกว่าหนึ่งคัน และเพราะหมานั้นไม่ว่าอย่างไรมันก็ซื่อสัตย์กับเจ้าของของมันแค่คนเดียว (แถมล่ามโซ่แฟนไว้เหมือนหมาก็ไม่ได้อีกตะหาก)
แล้วมันก็มีจริงๆน่ะ แฟนที่ดีแสนดีช่างเอาอกเอาใจ เวลาผ่านไปเรียน/ทำงานกันคนละที่ มีคนใหม่เข้ามา ใช้ความใกล้ชิดและปัญหาส่วนตัวมาให้แฟนช่วยเหลือ(น่าหมั่นไส้กว่านั้นคือบางเคสเข้ามาทำความรู้จักกับคนมาก่อนด้วยนะคะ//เราก็อย่าอินไป ไม่ใช่เรื่องของเรา) ช่วยกันไปช่วยกันมา สุดท้ายแฟนเอาใจออกห่างไปชอบคนอ่อยเอ๊ยคนใหม่จริงๆ คนมาก่อนก็ชีช้ำกะหล่ำปลีกันไปสิคะ
..แฟนดี กับ แฟนที่มั่นคง บางทีก็ไม่ใช่คนเดียวกัน
นั่งมองคนที่เสียแฟนดีๆให้คนมาทีหลัง ร้องไห้เป็นเผาเต่าแล้วเราก็คิดต่อว่า
"เป็นโสดแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเนอะ"
5. เปลืองเมมโมรี่
มันจะมีแฟนดีประเภทหนึ่งที่สร้างภาระให้ที่เก็บข้อมูล นั่นคือแฟนที่ถ่ายรูปเก่ง ไปเที่ยวไหนคุณสาวๆจะไม่ต้องกังวลเรื่องกล้องถ่ายรูป เพราะหนุ่มคนข้างๆรับภาระให้หมด ได้รูปกลับมาเต็มกระบุง มีรูปไว้อวดลงโซเชียลเป็นร้อยๆพันๆ แล้วรูปจะเก็บที่ไหนล่ะ ถ้าไม่ใช่ในมือถือบ้าง ในคอมพิวเตอร์บ้าง ใน hard disk บ้าง ได้รูปเยอะทุกที่ที่ไปเที่ยว ที่เก็บมันก็เต็มเร็วน่ะซี ต้องซื้อใหม่อยู่เรื่อย
...ไม่ไหวๆ เสียนิสัยจริงๆเลย
ว่าแต่ คนมีตากล้องประจำตัวนี่ ชาติก่อนทำบุญด้วยอะไรอ่ะ การที่เราคอยถ่ายรูปให้คนรอบข้างออกมาดูดีในชาตินี้ จะทำให้ชาติหน้าเรามีตากล้องส่วนตัวได้ไหม? (อยากรู้เฉยๆ)
6. นิพพานยากขึ้น
อันนี้จริงจังนิดหนึ่ง เราต้องไม่ลืมว่า การเกิดมานั้นเป็นทุกข์ และตามหลักพระพุทธศาสนาแล้ว การจะพ้นทุกข์ได้ เราต้องบรรลุธรรม เริ่มตั้งแต่ระดับโสดาบัน สกทาคามี อนาคามี และสูงสุดคืออรหันต์ ไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกชั่วกาล ทีนี้ พอมีแฟนดี เราก็จะรู้สึกว่าชีวิตเรามีความสุข เราจะคิดต่อไปว่า อยากจะมาครองคู่กับคนๆนี้ทุกภพทุกชาติ ความคิดแบบนี้จะผลักเราห่างออกจากทางพ้นทุกข์ เพราะทำให้คิดว่าอยากเกิดใหม่อีกร่ำไปเพื่อครองคู่กับคนที่เรารัก
อันตรายของความสุขคือทำให้ยึดติดว่าความสุขจะอยู่นิรันดร์ ซึ่งมันไม่จริง สักวันเราก็ต้องจากกันอยู่ดี ไม่ว่าจากเป็นหรือตาย
จริงๆก็ไม่ได้บอกว่าการเป็นโสดทำให้บรรลุธรรมง่ายกว่าอะไรเทือกนั้นดอกนะ แค่ว่าเราจะไม่ยึดติดกับใครคนหนึ่งข้ามภพข้ามชาติ ก็เท่านั้น
...ว่าแต่ การบรรลุอรหันต์ได้ต้องครองเพศบรรชิต บรรชิตตามนิกายเถรวาท ต้องโสดนะเออ...
7. อ้วนขึ้น
ว่ากันว่าคู่รักที่รักกันดีจะชวนกันอ้วนได้ง่าย
มันก็มีบางคู่ไง ต่างคนต่างชอบกินทั้งคู่ พอเป็นแฟนกันสนุกเลยทีนี้ ชวนกันตะลอนกินตามร้านนั้นร้านนี้ไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกที อ้าวเธอ กางเกงเราใส่ไม่ได้แล้วอ่ะ / หมอบอกว่าเราต้องคุมน้ำหนักแล้วอ่ะ ฯลฯ
จริงๆก็น่ารักดีนะ 555 แต่สำหรับคนที่ไม่อยากอ้วน มันก็เป็นข้อเสียได้ไง หึหึ
8. ศักยภาพด้านต่างๆถดถอย อันนี้ต้องแยกย่อยเป็นกรณีๆ ตัวอย่างเช่น
- โวยเก่ง แต่ทักษะโดยรวมอ่อนไป : เกิดขึ้นกับคนที่แฟนคอยจัดการเรื่องต่างๆให้ จริงๆตอนอยู่คนเดียวก็ทำอะไรเป็นหรอก พอมีแฟนแล้วแฟนยื่นมือเข้ามาแก้ปัญหา แรกๆก็เกรงใจ หลังๆพอ "ที่รักจ๋า" แล้วมีเสียงจ๋ากลับมา ตอนนี้เลยเคยตัว เกิดอะไรขึ้นไม่กระดิกแล้ว เรียก "ที่รักจ๋า" อย่างเดียวแล้วรอ เดี๋ยวแฟนจัดการที่เหลือเอง
- แขนอ่อนแรง : เกิดขึ้นกับพวกที่แฟนช่วยถือของ ถือสากกะเบือยันเรือรบให้ ถือให้แม้แต่กระเป๋า (แม่ - ผู้หญิงที่ให้แฟนถือกระเป๋าให้นี่เป็นง่อยหรือไง//เราหาอย่างเขาไม่ได้แล้วไม่พาลสิแม่) หลังๆเลยเดินปัดมือไปมาสบายใจเฉิบ ของที่เหลืออยู่กับแฟนหมด แต่อานิสงส์ของการมีเพื่อนประเภทนี้คือเวลาเรามีของเยอะเราจะสบายไปด้วย เพราะนางจะบอก(สั่ง)แฟนให้ช่วยเราถือ ซึ่ง..ถ้าไม่จำเป็นจริงๆฉันก็ไม่อยากรบกวนดอก ไม่ใช่ผู้ชายของเราสักหน่อยนี่นะ
- ความจำสั้น : เกิดขึ้นกับคนที่แฟนช่วยจดช่วยจำตารางต่างๆในชีวิตให้ พอแฟนทำให้ไปนานๆ คราวนี้พอจะนึกถึงกิจกรรมอะไรสักอย่างไม่เปิดตารางแล้ว ตะโกนเลย "ที่รัก ... วันไหนนะจ๊ะ" คราวนี้พอความจำมันไม่ใช้ มันก็เสื่อมน่ะสิ เฮ้อ ข้อนี้พ่อบ้านเป็นกันเยอะ เห็นหลายครอบครัวละ
ทั้งหมดทั้งมวลนี่ เคยตัวแล้วนิสัยเสียนะเราอ่ะ นิสัยเสียจริงๆเลย
นึกไม่ออกแล้ว ตัดจบมันดื้อๆแบบนี้แหละ
ไม่ว่าคุณผู้อ่านจะครองสถานะแบบไหน อยู่ ณ ขณะนี้ อย่าลืมว่าทุกสิ่งอย่าง ในดีมีเสีย ในเสียมีดี เพราะฉะนั้น มองทุกอย่างให้เป็นกลาง และมีความสุขกับตัวเองให้ได้ ดีที่สุดค่ะ
สวัสดีนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น