เรื่องเล่าหนังสืออ่านเล่น : หลอกสมองให้ลองคิดกลับด้าน
ผู้เขียน : ฟูมิโอะ นิชิดะ
ผู้แปล : สกล โสภิตอาชาศักดิ์
สำนักพิมพ์ : Move Publishing
จำนวนหน้า : 282 หน้า
ราคา : 325 บาท
สวัสดีเดือนสุดท้ายของปีค่ะ คุณผู้อ่าน
เป็นอย่างไรบ้างคะปีนี้ เผลอแปบเดียวจะเข้าปีใหม่อีกแล้ว เวลาผ่านไปเร็วเหมือนกันนะคะ
ส่วนวันนี้ แนะนำหนังสือเล่มไหนดีน้าา
มาอ่านหนังสือสัญชาติญี่ปุ่นกันดีกว่าค่ะ ยายคนเขียนก็ยังประทับใจประเทศนี้ในหลายๆด้านอยู่ดี เนี่ย แอบเห็นบางคนไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่กลับมาซะที อิจฉาจัง อยากไปญี่ปุ่นเหมือนกัน อยากไปเดินหมุนกาชาปอง 555
หนังสือจากลูกหลานซามูไรเล่มที่จะแนะนำนี้ มีชื่อว่า "หลอกสมองให้ลองคิดกลับด้าน"
โลกนี้มีสิ่งหนึ่งที่ตั้งชื่อให้ตัวเองได้ สิ่งนั้น คือ สมอง
สมองของมนุษย์คือสิ่งมหัศจรรย์ เราสร้างยานอวกาศไปสำรวจดาวอังคารได้ เราสร้างเครื่องเจาะลงไปใต้ทะเลได้ เรามีสิ่งประดิษฐ์ที่อำนวยความสะดวกทุกวันนี้ ก็เพราะเจ้าก้อนเล็กๆก้อนนี้ในกะโหลกศีรษะของมนุษย์นี่เอง
แต่ เชื่อไหมว่า เจ้าสมองอันปราดเปรื่องนี้น่ะ บางที มันก็โดนหลอกได้ง่ายๆเหมือนกันนะ
"หลอกสมองให้ลองคิดกลับด้าน" จะมาบอกผู้อ่านว่า สมองนั้น...ถูกหลอกได้ แต่เราควรฝึกฝนทักษะในการหลอกสมองให้ได้ด้วย เพราะในบางครั้ง การที่เราจะพิชิตสิ่งที่เราใฝ่ฝันได้นั้นน่ะ ก็เพราะว่าเราหลอกสมองได้อย่างถูกวิธีน่ะสิ โดยจะปูเรื่องว่าสมองนั้นหลอกง่ายนะ แล้วแสดงให้เห็นต่อว่า หลายสิ่งหลายอย่างที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน บางทีก็เป็นเพียงภาพลวงที่ถูกสร้างขึ้น และหากเราสามารถจัดการกับภาพลวงเหล่านั้นและสามารถสร้างภาพลวงที่สร้างสรรค์ให้แก่ชีวิตเราได้ เราก็จะประสบความสำเร็จ
เหมือนมีชีวิตในม่านหมอกแห่งมายายังไงก็ไม่รู้..
จริงๆก็น่าเชื่อแหละว่าสมองนั้นเป็นสิ่งที่หลอกได้ ลองดูพวกภาพลวงตาอะไรแบบนี้ หากสมองและสายตาไม่สามารถหลอกเราได้ พวกภาพลวงตาแบบนี้จะถูกนำมาเล่นได้อย่างไร
ตามความเห็นของเรา การหลอกสมองแบบที่ในหนังสือเล่มนี้เพียรเน้นย้ำนั้นน่ะ จริงๆคือการตั้งโปรแกรมในสมองของเราไปในทิศทางแบบที่เราต้องการให้มันไป ซึ่ง แน่นอน มันต้องขัดหรือแย้งกับวัตรประจำวันที่สมองคิดมา เป็นต้นว่า บางที สมองเรามันก็จะคิดในแง่ลบเอาไว้ก่อนว่า เราไม่ดี เราทำไม่ได้ มันอันตราย เมื่อเราจะออกนอกกรอบเดิมๆ ที่ทำอย่างนั้นเพราะมันหวงของเดิม มันไม่แน่ใจว่าสิ่งใหม่ที่เราจะทำคืออะไร ดังนั้น เพื่อเข็นให้มันไป เราก็ต้องเน้นย้ำบ่อยๆว่า ทางที่จะเลือกมันดีนะ มันอาจจะเหนื่อยแต่ก็คุ้มค่าในระยะยาว อะไรแบบนี้
ข้อดีอย่างหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ คือมีการไฮไลท์ให้เป็นระยะ ใช่ค่ะ ไฮไลท์ ไฮไลท์สีเหลืองแบบที่คุณผู้อ่านใช้ขีดตำราเรียนสมัยเป็นนักเรียนนักศึกษาน่ะค่ะ คุณนิชิดะคงคิดว่า ถ้าคนอ่านขี้เกียจอ่านก็อ่านแค่ที่ฉันไฮไลท์เอาไว้ นั่นคือแก่นของแต่ละย่อหน้า
แต่ขอเถียงหัวข้อว่า "ทำไมหมอดูถึงทายถูก" หน่อยนะ ใช่ จากการดูดวงมานาน เรารู้ว่าต้องพูดอย่างไรไม่ให้ถูกลูกค้าเอาขวานจามหัวก็จริง แต่สิ่งที่เราทำนายไป เราอ่านจากดวงดาวที่ปรากฏในดวงแต่ละคน เราไม่ได้ยกเมฆขึ้นมา และ ขอโทษนะ เราไม่เคยพูดโดยคิดว่ามันจะต้องแม่น เราบอกทุกคนเสมอว่า เราอ่านตามดาว เป็นลูกค้าเองตะหากที่ตอบกลับมาว่าสิ่งที่เราอ่านนั้นน่ะ มันตรงกับชีวิตเขาหรือเปล่า โวะ อย่า อย่าให้มีโอกาส ฉันจะเผยแพร่โหราศาสตร์ไทยให้โลกประจักษ์ จะได้เลิกค่อนขอดศาสตร์นี้กันเสียที
เป็นหนังสือที่ชวนคิดได้ดี ทำให้ตั้งคำถามกับสมองของตัวเองว่า ตกลงเอ็งจะเอายังไงกันแน่ จะเชื่อแบบไหน และควรเชื่อแบบไหน ควรกำหนดทิศทางความคิดไปในทางใด เพื่อชีวิตที่เป็นสุข
หรือบางที มันอาจเป็นตามคำโปรยในหนังสือของคุณนิชิดะ ที่ว่า
"..ชีวิตมนุษย์จะร้ายหรือดี ก็ขึ้นอยู่ที่จะถูกสมองหลอกหรือหลอกสมอง.."
ก็เป็นได้
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่ชอบอ่านหนังสือจิตวิทยา เหมาะกับคนที่ชอบเล่นปริศนาให้สมองขบคิด(ดูหน้าปกสิ ยังเป็นภาพลวงตาเลย) เหมาะกับคนที่ชอบหนังสือแนวที่มีการเน้นข้อความเป็นระยะ(ก็อย่างที่บอกว่ามีไฮไลท์ให้เป็นช่วงๆ) เหมาะกับคนที่ต้องการเคล็ดลับในการปรับทัศนคติให้สมองเพื่อก่อการ(เหมือนผู้ร้ายชอบกล)ต่างๆ แล้วก็เหมาะกับคนที่เคยอ่านหนังสือของคุณนิชิดะแล้วถูกใจในสำนวน(ซึ่งนี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณนิชิดะแกมีหนังสือเล่มอื่นไหม พูดเผื่อไว้)
หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือจิตวิทยา ไม่เหมาะกับคนเกลียดการลับสมองด้วยเกม ไม่เหมาะกับคนที่ต่อต้านการพัฒนาสมอง และไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบงานเขียนของคุณนิชิดะ
อยากหาปริศนาให้สมองขบคิด ก็ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูได้นะคะ
ขอให้มีความสุขกับวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดเนื่องในวันพ่อแห่งชาติค่ะ(พอเปลี่ยนรัฐบาลปุ๊บก็ไม่ประกาศหยุดวันฟันหลอเลย//ถอนใจ)
สวัสดีค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น