เรื่องเล่าหนังสืออ่านเล่น : เหตุผลที่ไม่ควรมีเหตุผล
ผู้เขียน : Dan Ariely
ผู้แปล : พรเลิศ อิฐฐ์,
วิโรจน์ ภัทรทีปกร
สำนักพิมพ์ : WeLearn
จำนวนหน้า : 352 หน้า
ราคา : 265 บาท
สวัสดีอีกศุกร์ค่ะคุณผู้อ่าน ตอนนี้เข้าหน้าหนาวแล้วนะคะ แต่ดูเหมือนสภาพอากาศยังไม่ทราบ อากาศแถวนี้เลยยังร้อนสลับฝนอยู่เลยค่ะ เฮ้อ
ไหนใครบอกปีนี้น้ำน้อยเนี่ย พระโคทำนายคลาดเคลื่อนนะ
ส่วนวันนี้ เนื่องจากตอนนี้กำลังฮิตอ่านแนวจิตวิทยา ก็มาจิตวิทยากันอีกสักเล่ม (มีอีกหลายเล่มค่ะไม่ต้องกลัว 555) นั่นก็คือ
“เหตุผลที่ฉันไม่มีเหตุผล ก็เพราะว่ารักเธอ ได้โปรดเถอะเข้าใจ..”
ไม่ช่าย นั่นมันเพลง “เหตุผลที่ไม่มีเหตุผล” ของวง Getsunova
วันนี้ไม่ได้จะมาเล่าถึงความรักหรือการอกหักอะไรหรอก จะมาเล่าถึงหนังสือว่าด้วยเรื่องเหตุผลที่บางทีก็เหมือนจะไม่มีเหตุผล ของคนเรา ตะหาก
ก็คือหนังสือเล่มนี้ “เหตุผลที่ไม่ควรมีเหตุผล” หรือ “The Upside of Irrational”
อ่านชื่อหนังสือแล้วอาจจะงงๆ เราก็งงเหมือนกันตอนเห็นเล่มนี้
อาจมีหลายคนเชื่อว่า การมีเหตุผล กับ การไม่มีเหตุผล ถือเป็นขั้วตรงข้ามกันอย่างรุนแรง และด้วยความที่โตมาโดยถูกปลูกฝังเรื่องต้องทำตัวน่าเชื่อถือ มีหลักการ ให้สมกับเป็นมนุษย์ ก็คงจะคิดกันไปว่า การไม่มีเหตุผล โดยเฉพาะกับเรื่องที่สำคัญๆ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ในสังคมทั่วไป
แต่คุณแดน ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เธอบอกว่า บางครั้ง การมีเหตุผลมากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี และบางที การไร้เหตุผลเสียบ้าง อาจเป็นทางออกที่ถูกต้องสำหรับสถานการณ์บางอย่าง ก็เป็นได้
เอ๊ะ...มันยังไงกันนะ??
หนังสือเริ่มการอธิบายด้วยการพูดถึงการผัดวันประกันพรุ่ง ด้วยประโยคที่ทำให้พยักหน้าเห็นด้วยอย่างรุนแรงว่า “..ไม่รู้จักใครที่ไม่เคยผัดวันประกันพรุ่งเลยสักคน...”
เออ ข้าพเจ้าผัดวันประกันพรุ่งบ่อยๆ ยอมรับโดยดุษฎี
เริ่มน่าสนใจละ
จากบทนำ คุณแดนแยกเรื่องราวในหนังสือเป็นสองบทหลัก คือความไร้เหตุผลในการทำงาน และ การไร้เหตุผลในชีวิตส่วนตัว แต่ละส่วนก็จะมีบทย่อยๆมาเสริมมาอธิบายเพิ่มว่า ชีวิตในแต่ละช่วงของคนเรา มักพบเจอความไร้เหตุผลอย่างไรบ้าง ในส่วนของการทำงานก็เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างการให้โบนัสกับผลสัมฤทธิ์ในการทำงาน ในส่วนชีวิตส่วนตัวก็เช่นเรื่องการปรับตัวของคนเราในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ หากใครเคยอ่านผลงานเล่มก่อนหน้าของคุณแดน ที่ชื่อ พฤติกรรมพยากรณ์ หรือ “Predictably Irrational” (จะว่าไป ตะแกยุ่งอะไรกับความไร้เหตุผลหรือคำว่า Irrational เยอะเหลือเกินนะ) คุณอาจจะอ่านแล้วอินมากขึ้น เพราะคุณแดนเธอจะกล่าวถึงหนังสือเล่มนี้อยู่เป็นระยะๆ
ถามว่าเรื่องราวในหนังสือเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรบ้าง ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับงานวิจัยที่คุณแดนทำ สลับกับเรื่องราวจากชีวิตส่วนตัวของเธอเอง ที่พบเจอมาต่างๆแล้วนำมาสรุปตั้งชื่อเป็นปรากฏการณ์ต่างๆกันไป
จะว่าไป อาชีพ “นักเศรษฐศาสตร์เชิงพฤติกรรม” นี่ มีอะไรสนุกๆให้เจอเยอะเหมือนกันนะ
เป็นหนังสือที่อ่านเพลินและอ่านไปได้เรื่อยๆมากค่ะ อย่างที่เล่าไปแล้วว่า ตั้งแต่อ่านเนื้อหาหน้าแรกก็ทำให้พยักหน้าดังหงึกๆ แล้วยังมีเรื่องที่ทำให้ขบคิดหลากหลายมาก เช่น ในบท “ปรากฏการณ์อิเกีย” ที่กล่าวว่าคนเรามักตีค่าผลงานของตัวเองสูงอยู่เสมอ นั่นก็ทำให้หวนกลับมานึกถึงสิ่งที่ตัวเองทำมาว่า ฉันเคยหลงตัวเองแนวนี้หรือเปล่า..
จะเหลือหรือคะ 555 ที่หลงมากสุดน่าจะเป็นภาพที่เราเป็นคนถ่าย โอ๊ย ภาพนั้นก็สวย ภาพนี้ก็สวย(ช่างภาพมืออาชีพจะว่าสวยหรือเปล่าเราไม่สน) ยิ่งถ้าอวดใครแล้วเขาชมว่าเออสวย ยิ่งไปกันใหญ่ ยิ้มแก้มปริเลยทีเดียว
อีกบทหนึ่งที่น่าสนใจคือบทเกี่ยวกับการหาคู่ออนไลน์ค่ะ ที่กล่าวว่า ความล้มเหลวของเว็บไซต์เหล่านี้คือ มันประเมินหรือให้ลูกค้ากรอกรายละเอียดที่ไม่ต้องตรงกับความต้องการคู่ครองของคนจริงๆ
ไม่รู้หรอก ไม่เคยใช้ แต่เขาว่าอันตรายเพราะข้อมูลพวกนี้มันหลอกได้ รึเปล่า?
แต่ในชีวิตจริง ก็ใช่ว่าคนเราจะไม่หลอกกันน่ะนะ แต่เห็นหน้าค่าตาอาจจะเห็นมิติของคนๆหนึ่งได้มากกว่าข้อมูลตามเว็บหาคู่ รึเปล่า?
ขอยกตัวอย่างแค่สองตัวอย่างก่อน จริงๆบทอื่นในหนังสือก็น่าสนใจแตกต่างกันไปค่ะ อ่านแล้วชวนให้ขบคิดได้ไม่น้อยเลย
ส่วนถ้าถามว่าเหตุด้วยกับชื่อหนังสือรึเปล่า เราว่ามันต้องดูเป็นกรณีๆไปนะ บางเรื่องมันต้องใช้ข้อมูลรอบด้านประกอบการตัดสินใจ แต่บางเรื่อง การใช้สัญชาติญาณอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า...ก็ได้
เชื่อว่าคนที่จับสลาก ซื้อล็อตเตอรี แล้วได้รางวัลที่ 1 น่ะ เขาไม่มานั่งใช้เหตุผลหรอกว่าต้องเลือกอันไหน ในทางกลับกัน เวลาซื้อบ้านซักหลัง ถ้าเดินดุ่มๆไปซื้อเลยโดยไม่ดูอะไรทั้งสิ้น นี่ก็เสี่ยงที่จะได้บ้านไร้คุณภาพ เป็นเรื่องที่น่าจะใช้เหตุผล
ส่วนถ้าของเหมือนจะคุณภาพเท่ากัน อันนี้ถ้าถามหนังสือเรื่อง “ตัดสินใจให้ดีต้องมีอารมณ์” หนังสือเล่มนั้นคงแนะนำให้ใช้อารมณ์ประกอบการตัดสินใจแน่ๆ (ยายคนเขียนซึ่งอ่านหนังสือเยอะไปเอาข้อมูลมาตีกันอีกละ)
แต่ในความเป็นจริง คนหลายคนคงเลือกถามหมอดูประกอบการตัดสินใจแน่ๆเลย 555 (เจอบ่อยจนเข้าใจ หุหุ)
พฤติกรรมมนุษย์มีสิ่งให้เรียนรู้ไม่สิ้นสุดจริงๆ
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับผู้ที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับจิตวิทยา ฉงนว่าแล้วระหว่างความมีเหตุผลหรือไม่มีเหตุผล ตกลงเราควรใช้แบบไหนกับชีวิตดี เหมาะกับคนที่ต้องทำงานเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์หรืออยากได้หนังสือเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์เพื่อวางแผนบางอย่าง เช่น ทำโฆษณา บางที หนังสือเล่มนี้อาจมีความเห็นบางอย่างให้ได้ และก็เหมาะกับผู้ที่ชอบหนังสือของคุณแดนอยู่แล้ว อ่านเล่มนี้ก็จะคล้ายภาคต่อของพฤติกรรมพยากรณ์ สนุกดีค่ะ
หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับคนไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่เหมาะกับคนไม่ชอบจิตวิทยา ไม่เหมาะกับคนชอบหนังสือมีรูปภาพ เพราะเล่มนี้มีตัวอักษรเป็นพืดเช่นเคย (เป็นธรรมดาของหนังสือที่เน้นเนื้อหาแหละนะ) อ่านแล้วอาจจะมึนๆ ง่วงๆ ได้ และ..ในทางกลับกัน ก็ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบงานเขียนของคุณแดน อารมณ์แบบอ่านพฤติกรรมพยากรณ์แล้วเกลียดมาก อะไรงี้ ก็ไม่ควรซื้อมาอ่าน
คุณผู้อ่านที่สนใจสามารถหาทดลองอ่านได้ตามร้านหนังสือนะคะ(คิดว่าน่าจะยังมีขาย หนังสือไม่ได้เก่ามาก + พวกหนังสือแพงๆนี่ อยู่ทนอยู่นานในร้านหนังสือสุดๆ เห็นหลายรอบละ)
สวัสดีค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น