คำครูสอน : Rehearsal

 (เรารู้ว่าจริงๆสัปดาห์นี้ควรรีวิวหนังสือแต่เราอยากลงเรื่องนี้อ่ะ)


                    สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่าน

                    วันนี้จู่ๆเราก็นึกถึงสมัยเรียน และนึกถึงอาจารย์ท่านนึงขึ้นมา จึงอยากมาเล่าสู่กันฟังเป็นบทความเรื่องนี้ เพราะงั้นใครรู้สึกว่าเรื่องแนวนี้ไม่ถูกจริต จะไม่อ่านก็ได้นะคะ


                    สมัยเป็นนักเรียนนักศึกษา เราจะเป็นนักเรียนที่อาจารย์ทั้งชอบและไม่ชอบ ที่ชอบก็เพราะเราเรียบร้อยไม่(ค่อย)วุ่นวาย เงียบ สั่งงานอะไรก็ทำ ส่วนที่ไม่ชอบก็อาจเพราะเราไม่มีปากมีเสียง ถามไม่ตอบ(ถ้าไม่เจาะจงเรียก) สงสัยอะไรก็ไม่ยกมือถาม

                    อย่างไรก็ดี ถ้าเปลี่ยนบรรยากาศในห้องเรียน โดยเปลี่ยนสัญชาติของผู้สอนเป็นต่างชาติ และมีบรรยากาศอย่างใดอย่างหนึ่งในสามอย่างนี้

                    1. คนเรียนน้อย ประมาณไม่เกิน 10 คน (ยิ่งถ้าในห้องสนิทกันด้วยนี่..ครื้นเครง)

                    2. มีนักเรียนสัญชาติอื่นที่ไม่ใช่สัญชาติไทยรวมอยู่ด้วย หรือ

                    3. ไม่ได้ใช้ภาษาไทยในการเรียน

                    เราจะเป็นนักเรียนที่ซ่าส์ขึ้น ถามแล้วกล้าตอบหรือกล้ายกมือถามในห้อง (ปกติการที่ฉันเข้าเรียนทุกคาบอาจารย์ก็ถูกใจอยู่แล้ว ยิ่งเป็นแบบนี้ อาจารย์หลายคนก็จำเราได้) และถ้าให้บอกตรงๆ เราชอบบรรยากาศการเรียนแบบนี้นะ เพราะเราชอบตัวเองเวอร์ชั่นเฟียส(Fierce) แต่ตอนอยู่กับคนไทยมันเฟียสไม่ค่อยขึ้น 555



                    ย้อนกลับไปสมัยเรียนปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ ก่อนจะเริ่มเรียน พวกเราชาวไทยก็ต้องไปเรียนภาษาที่มหาวิทยาลัยก่อน เพื่อปรับตัว ปรับหู ปรับสภาพชีวิตว่า การเรียนในสังคมของเขามันเป็นอย่างไร

                    ในคลาสเรียนช่วงสายๆ เราจะได้เรียนกับอาจารย์ท่านนึงที่ชื่อ Alex(อเล็กซ์) ท่านก็จะสอนโน่นนั่นนี่ เช่น ให้เราเลือกหัวข้อแล้วมานำเสนอหน้าห้อง เพื่อฝึกให้ใช้ภาษาอังกฤษในการพรีเซนต์งาน อะไรแบบนี้ และตามวัฒนธรรมเขาเนี่ย เราจะไม่ได้เรียกผู้สอนว่าอาจารย์ แต่อาจารย์จะให้เรียกชื่ออาจารย์ไปเลย พวกเรา อันประกอบไปด้วยนักเรียนชาวจีน ตุรกี ซาอุดิอาราเบีย อิรัก และไทย(แม้เป็นคนไทยคนเดียวในห้องก็บ่ยั่น) ก็ตั้งใจเรียนเป็นอย่างดี (พูดแล้วคิดถึงเพื่อนจังเลย) 


                    เราจำไม่ได้เหมือนกันว่า rehearsal มาจากไหน ไม่แน่ใจว่าเจอในห้องระหว่างเรียน หรือเป็นคอมเม้นท์ที่อาจารย์เขียนมาให้หลังจากเราพรีเซนต์งานแล้วเสร็จ ที่แน่ๆคือเราไม่เข้าใจคำนี้ และด้วยความเฟียส เราเลือกที่จะถาม

                    "อาจารย์คะ Rehearsal แปลว่าอะไรคะ" (อันนี้คือแปลเป็นฉบับภาษาไทยมาให้อ่านนะฮะ)


                    "Rehearsal จะคล้ายๆคำว่า practice หรือก็คือการที่เราต้องทำอะไรสักอย่าง แล้วเราอยากให้มันออกมาดี เราก็ฝึกมันซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ จนเรามั่นใจในสิ่งที่เราฝึกฝน.." 

                    นั่นคือสิ่งที่อาจารย์ตอบกลับมา (แน่นอนฮ่ะ ฉันแปลเป็นภาษาไทยมาให้แล้ว)


                    หลังจากนั้นเราก็เจอคำว่า Rehearsal กันอีกรอบในห้องเรียน แล้วอาจารย์ก็เรียกชื่อเรา

                    "ไหนเธออธิบายความหมายของคำว่า rehearsal ให้เพื่อนๆฟังซิ" 

                    ...พอคิดมาถึงตอนนี้ มันน่าจะเป็นฟีดแบคของการพรีเซนต์งานเราแฮะ... 

                    เราก็อธิบาย rehearsal ให้เพื่อนฟังตามความเข้าใจโดยมี(อาจารย์)อเล็กซ์พยักหน้าหงึกๆและคอยช่วยเสริมให้  


                    

                    เมื่อเวลาผ่านไป เรียนจบกลับมา เราพบว่า rehearsal ยังคงวนเวียนอยู่ในชีวิต อย่างแรกเลย เวลาที่เราต้องการจะทำอะไรสักอย่างให้ได้ เราก็ต้องฝึกฝนสิ่งๆนั้นไปเรื่อยๆ จนชำนาญ นี่ก็คือ rehearsal อีกเช่นกัน เพราะเราจะเก่งไม่ได้เลยหากปราศจากการฝึกซ้อมที่มากพอ

                    อย่างที่สองคือ มีเกมคำศัพท์เกมหนึ่งที่เราเล่นที่ชื่อ codycross เกมนี้จะคล้ายปริศนาอักษรไขว้ ให้โจทย์มาแล้วเติมคำศัพท์ลงไป และเราพบว่า หนึ่งในคำที่วนมาบ่อยในเกม ก็คือ rehearsal นี่แหละ 

                    เนี่ย สาเหตุที่เขียนเรื่องนี้ เพราะเพิ่งเล่นcodycross มา แล้วกรอก rehearsal ลงไปในช่องว่างอีกครั้งหนึ่งแล้ว 


                    ทุกครั้งที่เวียนมาพบ rehearsal เราจะนึกถึงอเล็กซ์ เพราะอาจารย์ท่านนี้ คำๆนี้จึงฝังอยู่ในหัวและอยู่ในความรับรู้ของเรามาจนปัจจุบัน เป็นเพราะอาจารย์นำคำนี้มาให้เรารู้จัก อธิบายคำนี้แก่เรา และให้เราทบทวนคำนี้ด้วยการอธิบายมันให้เพื่อนฟังอีกรอบนึง 

                    มันคือการสอนที่ดี เพราะมันคือการสอนที่ทำให้เราเข้าใจและจดจำ 


                    เราไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร แต่สำหรับเรา ครูบาอาจารย์คือหนึ่งในผู้มีพระคุณที่ควรค่าแก่การระลึกถึงและจดจำ เพราะไม่มีเรา ครูอาจารย์ทั้งหลายท่านก็ยังดำเนินชีวิตของท่านได้ตามปกติ แต่ถ้าครูอาจารย์แต่ละท่านไม่เมตตาประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ต่างๆให้เรา แล้วเราจะมีทักษะ มีความรู้ มีสติปัญญาอย่างที่เรามีทุกวันนี้ได้อย่างไร และเราก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีมากๆคนหนึ่ง เพราะเราได้พบครูที่ดีหลายๆท่าน หากไม่มีพวกท่านในวันนั้น ก็ไม่มีความรู้ที่ใช้สอบ ใช้เอาตัวรอด และใช้เป็นคติสอนใจ เราเดินมาได้ถึงจุดนี้ก็เพราะความอนุเคราะห์ทางวิชาการและวิชาชีวิตของพวกท่าน

                    สำหรับเรา คนที่สอนให้รู้ในสิ่งที่ไม่รู้ สอนให้ทำเป็นในสิ่งที่ทำไม่เป็น คนนั้นคือครู คนไหนเป็นครู คนนั้นคือผู้มีพระคุณ

                    ตอบแทนคุณได้ไหมนั่นอีกเรื่อง แต่จดจำ ระลึกถึง และสำนึกคุณให้ได้ นั่นคือสิ่งที่ต้องทำ

                    ...ว่ากันว่าการทำตัวเองให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้นั่นคือการตอบแทนคุณอย่างหนึ่ง เพราะทำให้ครูเห็นว่าการสอนของท่านเกิดผลลัพธ์ที่ดี หวังว่าอาจารย์ทุกท่านจะดีใจกับจุดที่หนูยืนในวันนี้นะคะ :) 


                    และเนื่องในวันนึกถึงอาจารย์วันนี้ ก็อยากจะบอกอาจารย์ว่า

                    Dear Alex,

                    Thanks for teaching me the word "rehearsal". I remember this word because you reminded it over and over again. That's always something to me. 

                    I wish you good health and happiness in life. 

                                                                            Sincerely yours,

                                                                                A. (one of your student)  


                    อาจารย์อเล็กซ์คะ

                    ขอบพระคุณที่สอนคำว่า Rehearsal ให้หนู หนูจำมันได้เพราะอาจารย์ทวนให้หลายรอบ และมันมีคุณค่ามากจริงๆ

                    หวังว่าอาจารย์จะมีความสุขและมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ

                                                                        ด้วยความเคารพอย่างสูง

                                                                        จาก A. หนึ่งในลูกศิษย์ของอาจารย์


                    ใครที่มีครูดี อย่าลืมหาเวลาระลึกถึงคุณของท่านบ้างนะคะ

                    สวัสดีค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ