อ่านแล้วเล่า : Think Like DaVinci อัจฉริยะแบบดาวินชี

 ผู้เขียน :  Michael J. Gelb  

ผู้แปล : ดร. สาลี่ เกี่ยวการค้า  

สำนักพิมพ์ : Think Beyond 

จำนวนหน้า : 296 หน้า  

ราคา : 200 บาท 

       สวัสดีวันศุกร์ค่ะคุณผู้อ่าน วาเลนไทน์ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรกันบ้างคะ เป็นวันพิเศษ หรือเป็นวันทำงานปกติคะ

       คำคมคารมรักมากมายได้ถูกเผยแพร่ออนไลน์เนื่องในวันแห่งความรัก หนึ่งในนั้นคือ "Love is in the air" อ่านแล้วต้องขออนุญาตไม่เห็นด้วย เพราะนอกจากบรรดาก๊าซไนโตรเจน ออกซิเจน ฯลฯ ที่ไม่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่าแล้วเนี่ย ในอากาศตอนนี้เห็นแต่ ฝน กับ ฝุ่น เป็นหลัก แต่ก็นานาจิตตังนะคะ บางทีมุมมองต่อโลกของคนมีความรักกับคนโสดอาจไม่เหมือนกันก็ได้

       วันวาเลนไทน์ของเราก็คือวันอังคารที่ต้องทำงานปกติค่ะ จะไม่ปกติก็ตอนกลับบ้านที่บังเอิญเจอเพื่อนร่วมงานผู้ชายที่นานๆเจอกันที แล้วเลยได้เดินคุยกันไปถึงรถ เอ๊ออ นานๆจะได้เดินคุยกับเพศตรงข้ามสักที รู้สึกไม่คุ้นเลยค่ะ 555 

         ส่วนการแนะนำหนังสือวันนี้ มาตามรอยอัจฉริยะกันดีกว่าค่ะ เล่มนี้เลย "Think Like DaVinci อัจฉริยะแบบดาวินชี"

     

       โลกนี้มีอัจฉริยะหลายคนด้วยกัน ถ้าพูดถึงอัจฉริยะด้านฟิสิกส์ ใครๆก็ต้องนึกถึงอัลเบิร์ต ไอสไตน์ แต่หากจะกล่าวถึงอัจฉริยะด้านศิลปะ ด้านสถาปัตยกรรม แล้วล่ะก็

เชื่อว่า ชื่อ ลีโอนาโด ดาวินชี จะต้องแวบเข้ามาในหัวของใครหลายๆคนเป็นแน่ 

ในบรรดาคนที่รู้จักชื่อ ลีโอนาโด ดาวินชี มีคนผู้หนึ่งที่ลงมือศึกษาเรื่องราวของเขา และเขียนเป็นหนังสือขึ้นมา นั่นคือ คุณ Michael ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ 

มาเรียนรู้เรื่องราวของลีโอนาโด ดาวินชี ไปพร้อมๆกันค่ะ

"Think Like DaVinci" หรือ "อัจฉริยะแบบดาวินชี" มีเนื้อหาด้วยกันสามบทค่ะ บทแรกจะพาเราไปเรียนรู้เกี่ยวกับสมองและเรื่องราวในยุคเรเนซอง บทที่สองจะกล่าวถึงหลักคิด 7 ประการของดาวินชี่ และบทสุดท้าย จะชวนเราไปเรียนวาดภาพเพื่อตามรอยดาวินชีและเรียนรู้ช่วงเวลาสำคัญๆในชีวิตของดาวินชี

ตามความเห็นส่วนตัว เรารู้สึกว่าผู้เขียนฉลาดมากที่เปิดเรื่องด้วยบทที่ว่า "สมองของเรายอดเยี่ยมกว่าที่เราคิดเอาไว้มากนัก" เพราะการเปิดด้วยหัวข้อนี้ เป็นการกระตุ้นให้ผู้อ่านเห็นความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง และชี้ว่า ทุกคนสามารถเป็นอัจริยะได้ในสิ่งที่เรารักและให้ความสนใจอย่างแท้จริง ดังที่ถ้อยความหนึ่งของบทได้กล่าวไว้ว่า 

"..เราแต่ละคนมีศักยภาพที่จะเรียนรู้และสร้างสรรค์ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด.."

เป็นกำลังใจที่ดีให้พยายามต่อไป อยากฉลาดต้องอดทน!!

ส่วนบทที่สองจะเป็นการนำกฎ 7 ประการในชีวิตของดาวินชีมาตีแผ่ โดยเนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นการเล่าเท้าความถึงประวัติชีวิตของดาวินชี ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด เพื่อเชื่อมโยงให้เห็นว่า เขาปฏิบัติตามกฎ 7 ประการนั้นจริงๆ ในช่วงชีวิตตอนในบ้าง จากนั้นผู้เขียนจึงย้อนกลับมาพูดคุยกับผู้อ่านว่า แล้วผู้อ่านเล่า ได้ลองปฏิบัติตามกฎแต่ละข้อของดาวินชีบ้างแล้วหรือยัง พร้อมแบบประเมินไว้ถามตัวเอง และแบบฝึกหัดให้ผู้อ่านลองดำเนินรอยตาม เพื่อให้มีนิสัยเป็นไปตามกฎทั้งเจ็ดข้อนี้ของดาวินชีให้ได้ ในบทยังสอดแทรกถึงผลงานต่างๆที่ดาวินชีได้สร้างสรรค์ไว้ให้ผู้อ่านดูเป็นตัวอย่างอีกด้วย 

และก่อนจะถึงบทที่สาม ผู้เขียนได้ใส่คมความคิดจากดาวินชีไว้ให้อ่าน เช่น "เราทำดีมากเท่าใดกลับไม่เห็น แต่โดนเขม่นหากพลาดทำไม่ดี" เออ จริง

บางความคิดอ่านแล้วเห็นด้วยอย่างยิ่ง บางความคิดก็แค่พยักหน้าตามไปเฉยๆ

ส่วนบทที่สามจะเป็นการสอนวาดภาพ และเป็น timeline ชีวิตของดาวินชี่ และเป็นบทที่เราอ่านผ่านๆมากที่สุด แหม ฝีมืออย่างเราน่ะ วาดต้นไม้แล้วดูออกเป็นต้นไม้ก็บุญโข จะให้ไปนั่งแรงง(อ่านว่า แร-งง นะ ไม่ใช่ แรงง)แรเงา หรือปั้นหม้อให้ขึ้นรูปอะไรนั่น ขอผ่านดีกว่า 

ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าซื้อหนังสือเล่มนี้มาเมื่อไหร่ และตอนซื้อรู้สึกอย่างไร แต่ที่หยิบมาอ่านก็เพราะคิดว่า เออดี เผื่อเราจะสามารถฉลาดแบบดาวินชีได้บ้าง 

...ซึ่งก็ ได้แต่อ่านประวัติเขาน่ะแหละ

เอาน่า อย่างน้อยเราก็มีข้อที่เหมือนดาวินชีอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือเราอยากรู้อยากเห็น และอยากศึกษาข้อมูลหลายสิ่งหลายอย่างบทโลกใบนี้ 

แบบประเมินและแบบฝึกหัดที่ให้ก็ดีนะคะ ทำให้สมองมีงานทำ ทำให้เราหวนคิดถึงชีวิตของตนเอง ว่ามีอะไรเข้าใกล้ความเป็นอัจฉริยะแล้วบ้างหรือยัง 

ยัง ยังต้องฝึกอีกมาก 

แต่เชื่อว่าถ้าได้ปฏิบัติตามแบบฝึกหัดที่ให้โดยเคร่งครัด ก็น่าจะสามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้เพิ่มขึ้น

...แต่เผอิญเราเป็นสายขี้เกียจ และทำอะไรตามอารมณ์เนี่ยสิ...

ส่วนบทสุดท้าย เชื่อว่าถ้าใครชอบวาดรูปหรือศิลปะคงจะถูกใจ เพราะหนังสือจะแนะแนวทางการวาดรูปและกระตุ้นให้คนอ่านลองปฏิบัติตาม ใครใคร่หยิบปากกากับกระดาษมาวาดตาม คงจะได้ภาพสวยๆติดบ้านล่ะครานี้ 

โดยภาพรวม หนังสือเล่มนี้ก็อ่านได้เรื่อยๆ ไม่ถึงกับเครียดมาก อ่านแล้วก็มีเรื่องให้หยุดคิดบ้างเป็นระยะ บางตอนก็อ่านๆข้ามๆเป็นระยะ

อย่างน้อยก็อ่านได้จนจบ แม้จะข้ามๆไปบ้าง 

        หนังสือเล่มนี้เหมาะกับ เอ้อออ คนที่ชื่นชอบลีโอนาโด ดาวินชี มั้งคะ หรือไม่ก็เหมาะกับคนที่ชอบศึกษาประวัติบุคคลที่มีชื่อเสียง ชอบประวัติศาสตร์ หรือไม่ ก็อาจจะเหมาะกับคนที่อยากเป็นอัจฉริยะหรืออยากจะฝึกวาดรูป...ล่ะมั้งนะ 

ใครสนใจศึกษาชีวิตของลีโอนาโด ดาวินชี และ/หรือ อยากจะเก่งให้ได้แบบดาวินชี ก็ลองหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านดูนะคะ 

        สวัสดีค่ะ