คนเงียบแกล้งง่าย?

     (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)


     ในสายตาคนขี้แกล้ง  คงไม่มีใครแกล้งสนุกเท่าพวกเรียบร้อยๆ  เพราะพวกนี้ไม่สู้คน  ไม่ตอบโต้  มีเรื่องอะไรก็ร้องไห้แงๆวิ่งไปฟ้องครูอย่างเดียว
     ยิ่งถ้าแกล้งแล้วร้องวี้ดว้ายหรือมีปฏิกิริยาตอบกลับเนี่ย  สนุกนัก 

     ยิ่งแกล้งยิ่งได้ใจ  เมื่อเติบใหญ่  คนขี้แกล้งหลายคนเลยกลายเป็นนักรังแก  ที่เห็นคนมีจุดอ่อนหน่อยไม่ได้  ขวางหูขวางตาใครหน่อยไม่ได้  ต้องหาเรื่องมันสักหน่อย...

     แล้วหลายคนมักคิดว่า  กลุ่มที่รังแกง่ายๆยังคงเป็นกลุ่มเดิม  เงียบๆ  หงิมๆ  ไม่ตอบโต้  ไม่มีพิษสงอะไรเลย 

     เหรอ? 


     ตอนเด็กน่ะใช่  คนที่มันไม่สู้คนอ่ะนะไม่คอขาดบาดตาย  ยังไงมันก็ไม่สู้คน 
ช่างไร้พิษสงเสียจริงๆ 

     แล้วสู้เจ้ารู้ได้อย่างไรว่า  เมื่อโตขึ้น  คนนิ่งๆเงียบๆ  ยังคงไร้พิษสงอยู่เช่นเคย



     เคยดูซีรีย์พวก CSI หรือ Criminal Mind รึเปล่า  ตอนที่มีฆาตกรโรคจิตออกไล่ล่าฆ่าคนแบบไร้ความปรานีน่ะ 

     มีหลายตอนเหมือนกันนะ  ที่แสดงปูมหลังให้เห็นว่า  แรกเริ่มเดิมที  ฆาตกรเลือดเย็นเหล่านี้ก็เป็นคนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆนี่แหละ  จนกระทั่งถึงจุดเปลี่ยน  เมื่อคนเหล่านี้ถูกทำร้ายอย่างไร้ซึ่งความยุติธรรมจนทนไม่ไหว  ลุกขึ้นมาร้องหาความยุติธรรมให้ตัวเองโดยเริ่มจากการล้างแค้นตัวต้นเหตุก่อน  แล้วดันเกิดสนุกกับการฆ่าจนหยุดไม่ได้ 


     นั่นน่ะ  รังแกเข้าไปคนไม่มีทางสู้น่ะ  เขาแค้นจัดฮึดขึ้นมา  ระวังจะกลายเป็นศพแรกนะเฮ้ย  จริงๆ  แค่กลายเป็นศพเลยน่ะไม่เท่าไหร่  เคราะห์หามยามซวย  เขาไม่ฆ่าแต่จับไปทรมานขึ้นมา
     ....แถวบ้านเรียก  ตายทั้งเป็น 

     หรือกระหยิ่มยิ้มย่องว่าอย่างไรเสีย  อ้ายอีที่ตัวเองเล่นงานอยู่ไม่มีทางลุกขึ้นสู้  ก็ตามใจ  เอาที่สบายใจเลย
     ...แต่เตือนแล้วนะ



     จะว่าไป  เหตุการณ์ข้างบนนั้นไม่เกิดขึ้นบ่อยนักหรอก  พวกขี้รังแกจะสบายใจอยู่ก็ไม่แปลก  แต่ลืมไปรึเปล่า  ว่าคนทุกคนก็มีขีดความอดทนที่จำกัดเหมือนกัน 

     จริงๆก็เป็นไปได้หากคนไม่สู้คนที่เหลืออดจะลุกขึ้นมาต่อกรกับคุณอย่างจริงจัง  แต่ขอให้ทดไว้ในใจว่า  กรณีนี้อาจเป็นกรณีเบาที่สุดที่คุณจะได้เจอ  ยิ่งถ้าอีกฝ่ายมีมโนธรรมอยู่  เขาก็จะสู้แบบ....softๆ 
....น่าเสียดายจัง  คุณเลยไม่รู้ซึ้งถึงเรื่องเวรกรรมมีจริงเลยอ่ะ  อุ๊บส์ 

     หรือคนไม่สู้คนอาจไม่ลุกขึ้นมาตบหัวคุณกลับเมื่อคุณตบหัวเขา  แต่คุณแน่ใจได้ไง  ว่าเขาจะไม่วิ่งหนีไปฟ้องใครสักคน  คนที่อยู่สูงกว่าคุณ  คนที่อาจจะเข้าข้างเขาและลงอาญาสิทธิ์ใส่คุณขึ้นมา 
     คุณอาจตกงาน  เสียเงิน  หรือโดนลากตัวไปโรงศาลก็ได้ 

     พวกช่างรังแกเริ่มย่ามใจแล้วว่า  พวกคนนิ่งๆ  เงียบๆ  นี่  รังแกยังไงข้าก็ไม่สึกหรอว่ะเฮ้ยยยย 

     ใจเย็นๆ  มาดูตัวอย่างต่อไปกันดีกว่า 



     คำถามต่อมา  คุณแน่ใจได้ยังไงว่า  พวกคนนิ่งๆ  หงิมๆ  ไม่ใช่คนเล่นพระ  หรือเล่นคาถาอาคม 
     เอ้า....งง 

     เริ่มกันที่พระก่อนเลย  เคยรู้ไหมว่าโลกนี้มีพระอยู่องค์หนึ่งชื่อว่า  "พระไพรีพินาศ" 

     พุทธคุณก็ไม่มีอะไรมาก  ตามชื่อเลย  คือใครบูชาไว้แล้วหากมีผู้มาเป็น  "ไพรี"  ผู้เป็น  "ไพรี"  จะพินาศไปเอง  โดยมีข้อแม้อย่างเดียวว่า  ผู้ที่บูชาพระไพรีพินาศต้องห้ามตอบโต้ต่อการรังแกใดๆที่ตนประสบ  ทำได้แค่ 2 อย่างคือ  นิ่ง  กับ  หนี
     เห็นมั้ย  เข้ากับจริตคนไม่สู้คนจะตาย  ปกติคนกลุ่มนี้ก็ไม่สู้ใครเขาอยู่แล้ว  บูชาไว้นี่มีประโยชน์  แค่อยู่เฉยๆอีกฝ่ายก็ชิบหายวายวอดไปเองแล้ว 
     สะดวกจะตาย!!!

     ยิ่งถ้าคนเงียบๆคนนั้นเป็นคนที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองแล้วคุณไปรังแกเค้าอ่ะ  คุณไม่ได้รังแกแค่เขานะ  เผลอๆคุณกำลังท้าทายสิ่งที่คุณมองไม่เห็นเลยนะเฮ่ย


     มาว่ากันที่คาถาอาคมกันบ้าง

     เอ๊....ขอตัดเรื่องอาคมดีกว่า  ไม่กล้าเล่น  กลัวของเข้าตัว  เอาเป็นว่า  มาว่าเรื่องคาถากันดีกว่า 

     ประเทศไทยมีคาถาเยอะมากนะ  รู้ยัง  หลายหมวดด้วย  ทั้งคาถามหาเสน่ห์  คาถาเรียกทรัพย์  คาถาอยู่ยงคงกระพัน  คาถาค้าขายดี  ฯลฯ  คาถาเสกปากกาก่อนสอบยังมีอ่ะ  คิดดู 
     และแน่นอน  คาถาประเภท  "ชนะมาร"  หรือ  "จัดการศัตรู"  ก็มีด้วยล่ะ 
     ไม่บอกหรอกว่าท่องยังไง  ไปหากันเอาเอง   

     ขณะที่คุณรังแกเขาจนเจ็บช้ำน้ำใจ  คนไม่สู้อาจคนไม่พูดอะไรเลยสักคำ  แต่คุณรู้ได้ยังไงว่าลับหลังคุณ  เขาจะไม่เผาพริกเผาเกลือใส่คุณ  สาปแช่งคุณ  หรือสวดคาถาชนะศัตรูใส่คุณอยู่
     ดีไม่ดี(น่าจะไม่ดี)  ไปเจอญาติหมอผีเขมร  ศพจะไม่สวยเอา.... 

     คนขี้รังแกคงจะเริ่มเถียงว่า  งั้นข้าก็จะสวดบ้าง  จะได้ให้ผลสะท้อนกลับไปหามัน ! 

     พูดก็พูดเถอะนะ  ต้องไม่ลืมนะว่า  คนเริ่มเรื่องน่ะคือคุณ  แล้วยังมีหน้าไปสวดใส่เขา  แบบนี้คาถามันจะให้ผล 100%  เร้ออ 

     และหากยังดึงดันจะใช้  คุณต้องไม่ลืมหลักที่ว่า  แต่ละคนนั้นเปรียบดั่งสนามรับแรงกระทบที่มีความหนาแน่นไม่เท่ากัน  แล้วคุณแน่ใจได้ไงว่า  ความหนาแน่นของคุณดีกว่าอีกฝ่าย
     ถามว่าความหนาแน่นมาจากไหน  ก็มาจากพื้นดวงแต่ละคนว่าดวงดีหรือไม่ดีเพียงใด 
     ก่อนจะเล่นงานใคร  ดูตาม้าตาเรือด้วยล่ะ  ดวงแย่กว่าเขาแล้วไปกร่างใส่  แรงสะท้อนกลับคืนมาจะหน้ายับหมอไม่รับเย็บ 

     อ่อ  และถึงแม้ดวงจะดีกว่าก็อย่าชะล่าใจ  เพราะคุณต้องไม่ลืมว่าการรังแกคนถือเป็นกรรมดำ  ผลของการทำกรรมดำคือมันทำให้ชะตาเราแย่ลง  วันไหนบุญเก่าหมดแล้วคุณไม่ต่อใหม่  วันนั้นคุณเตรียมรับผลกรรมเลวๆของตัวเองได้เลย 



     สุดท้าย  กรณีที่ทำบุญมาดีจริงๆ  คนขี้แกล้งจะไปเจอคนหงิมๆผู้ซึ่งยึดกฎในหัวใจว่า  มนุษย์มีกรรมเป็นเครื่องกำหนด  เพราะฉะนั้น  เราไม่จำเป็นต้องไปตอบโต้  สุดท้ายกฎแห่งกรรมจะจัดการกับเขาเอง  เผลอๆเขาจะอภัยหรืออโหสิกรรมให้คุณไปด้วยซ้ำ 

     เจอแบบนี้จุดพลุฉลองได้  สบายแล้ว  ไม่ว่าคุณจะระยำตำบอนแค่ไหน  เขาก็คงไม่ทำอะไรคุณหรอก  เว้นแต่เหลืออดจริงๆ  คนกลุ่มนี้จะพยายามใช้วิธีที่นุ่มนวลที่สุดเพื่อหยุดปัญหาให้ได้

     อย่างไรก็ดี  หลักการแบบอิงพุทธนั้นมีอยู่ว่า  การทำกรรมชั่วกับคนที่อภัยให้เราแล้วนั้น  ได้บาปเยอะกว่าการทำกรรมชั่วใส่คนที่โกรธแค้นเรา
     เพราะการอภัยคือกรรมดี  การทำร้ายกรรมดีคือการทวีผลกรรมให้มากขึ้น 

     เข้าใจยากไปเหรอ  เอาใหม่  สมมติการรังแกเป็นลูกบาส  คนที่ผูกใจโกรธคือผนังบางๆ(ทางพุทธกล่าวว่าการอภัยต้องใช้กำลังใจที่เข้มแข็งมาก  ดังนั้นการไม่ให้อภัยก็เปรียบเหมือนกำลังใจบางๆ)  ส่วนคนที่อภัยคือผนังปูนหนาๆ 
     คุณทุ่มลูกบาสใส่ผนังบาง  มันก็อาจกระเด้งกลับมา  แต่ไม่แรงมาก  โดนคุณก็เจ็บนิดนึง 
     แต่เมื่อคุณทุ่มลูกบาสใส่ผนังปูน  ผนังปูนที่หนาแน่นจะสะท้อนแรงทุ่มกลับมาได้มาก  ลูกบาสจึงกระเด้งกลับมาหาผู้ทุ่มด้วยความแรงสูงพอๆกัน  (อธิบายเรื่องกรรมอยู่ดีๆกลายเป็นเรื่องกฎฟิสิกส์ซะงั้น)
     เจ็บมั้ยให้ทาย? 
     อย่า  อย่าเถียงว่าหลบทัน  ไม่มีใครหนีกฎแห่งกรรมพ้นหรอก 

     การรังแกคนที่ให้อภัยนั้นเมื่อมองด้วยตาธรรมดาย่อมเป็นเรื่องง่ายสุดและไม่เดือดร้อนที่สุด  แต่คุณไม่มีทางสบายตลอดไปหรอก  รับรอง 



     แล้วคุณคงยังยืนยันที่จะรังแกคนเงียบๆ  หงิมๆ  เพราะคุณคิดว่าอย่างไรเขาก็ไม่สู้คุณแน่ๆ 

     เอาเถอะ  เอาที่สบายใจ  แค่อยากทิ้งท้ายไว้หน่อยเดียว


     เมื่อคุณรังแกคนร้ายพอๆกัน  คุณแน่ใจได้เลยว่าคุณจะเจอกับความร้ายกาจของคนๆนึงหรือไม่ก็ความคุ้มครองจากผู้ปกป้องของเขากลับมา 

     แต่เมื่อคุณเล่นงานคนไม่สู้คน  คุณไม่อาจแน่ใจได้เลยว่าผลที่ได้รับกลับมา  มันมาจากตัวคนถูกรังแกเอง  ผู้คุ้มครองคนถูกรังแก  อำนาจพระเครื่อง  สิ่งศักดิ์สิทธิ์  คุณไสย  หรืออำนาจกฎแห่งกรรมกันแน่
   
   

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ