น้ำหนัก กับ แคลอรี่
"อย่างแรกเลย หนูต้องลดน้ำหนัก"
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน
ช่วงสัปดาห์สองสัปดาห์ที่ผ่านมา เราแพ้อากาศรุนแรง มีเสมหะมาก คันคอ และไอ พอช่วงหยุดเสาร์อาทิตย์ เผอิญพาพ่อไปพบหมอ จึงถือโอกาสปรึกษาอาการป่วยของตัวเองไปด้วยเลย
และหากใครสงสัย ไม่ได้เป็นโควิดค่ะ แค่แพ้อากาศจริงๆ ตรวจแล้ว
ส่วนประโยคที่จั่วหัวไว้ คือประโยคแรกที่คุณหมอทักเมื่อเดินเข้าห้องตรวจ
ด้วยความที่ไม่ใช่คนชอบออกกำลังกาย เราก็เลยฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ประมาณว่า ถ้าฉันไม่ต้องกลับไปเจอคุณหมอคนนี้ ฉันก็ไม่ต้องคร่ำเคร่งอะไรกับการลดน้ำหนักหรอก (ความขี้เกียจ)
แล้วก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก ท่องยูทูปอยู่ก็ไปเจอคลิปๆนึง ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการคำนวณแคลอรี่ของตัวเอง และเขียนข้อมูลประมาณว่า "ใช้ได้ทั้งคนที่ออกกำลังและไม่ออกกำลัง" นี่ก็เลยลองกดเข้าไปดู คือคลิปนี้
..โชคชะตาอยากให้เราผอมลงและสวยขึ้นใช่ม้า ว่าแต่ว่า My guardian angels (ต้องเติม s เพราะมีหลายท่าน/ ฉันรู้ฉันสัมผัสได้) เธอเลิกหวงลูกสาวแล้วเรอะ ถึงอนุญาตให้สวยได้เนี่ย (หวงกว่าพ่อแม่ก็เทวดาประจำตัวเนี่ยแหละ)
คลิปนี้มีประโยชน์มากทีเดียวค่ะ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างแรกคือข้อมูลว่า เราต้องรู้ปริมาณแคลอรี่ที่ตัวเองต้องการในแต่ละวันก่อน และหลักการในการลดน้ำหนักก็คือ
"ห้ามกินเกินแคลอรี่ที่ต้องการในแต่ละวัน"
ไม่ว่าจะออกกำลังหรือไม่ ถ้ากิน น้อยกว่า ใช้ ผอมแน่นอน
ซึ่งคุณผู้อ่านสามารถเข้าไปคำนวณแคลอรี่ที่จำเป็นต่อร่างกายของคุณผู้อ่านได้ที่ https://fit-d.com/fit_tools/bmr
นอกจากหลักการข้างต้น คุณป๊อป เจ้าของคลิป ยังให้ข้อมูลอื่นๆอีก เช่น เราต้องรับประทานโปรตีนและใยอาหารให้มากกว่าคาร์ปหรือคาร์โบไฮเดรต เพราะโปรตีนย่อยง่ายช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ส่วนไฟเบอร์ก็จะทำให้อิ่มเร็วขึ้น อะไรแบบนี้ และมีแนะนำท่าออกกำลังกายโน่นนี่สำหรับผู้ที่สนใจจะเบิร์นหุ่นตัวเองอย่างจริงจัง
เช่น ต้องออกกำลังกายให้ได้ 200 นาที(ถ้าจำไม่ผิดนะ เดี่ยวนี้ยิ่งขี้ลืมอยู่) ต่อสัปดาห์ เพราะงั้นเรามีเวลาออกกำลังกี่วัน ก็เอาจำนวนวันไปหาร สมมติจะออกกำลังสามวัน ก็ 200 หาร 3 ได้ 66.666 ไม่รู้จบ คือต้องออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมง โดยประมาณ
ขอผ่าน (ทำท่าแมวยูคิจินอนในบ้านแมว)
เราก็เลยมาคิดว่า เออ หรือจะลองคุมอาหาร คุมการรับและใช้แคลอรี่ในแต่ละวัน แล้วเราก็เลยสงสัยต่อว่า เอ๊ะ แล้วเราจะรู้ได้ยังไง ว่ากิจกรรมแต่ละกิจกรรม มันเผาผลาญพลังงานเท่าไหร่ และ อาหารแต่ละอย่าง มันให้พลังงานเท่าไหร่บ้าง
...google มีไว้ทำไมล่ะคะ หึหึ
แล้วก็ไปเจอ อันนี้
คุณผู้อ่านท่านไหนอยากหยุดอ่านแล้วไปคำนวณแคลอรี่ของตัวเองก่อน ก็ตามสบายนะคะ หรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ตามเว็บในรูปเลย
ยังค่ะ ยังไม่หมด มีอีกเว็บ แต่อันนี้ไม่มีรูป เว็บนี้มีหลายกิจกรรมจัด อ่านแล้วเข้าใจเลยว่า ทำไมตอนเข้าคอร์สต่อยมวย กางเกงหลายตัวถึงหลวมขึ้น 555 เว็บนี้ค่ะเว็บนี้
https://www.fatnever.com/burn/
นี่ๆๆ อีกสักเว็บ อันนี้ตลก บอกมีกิจกรรมบางอย่างทำได้โดยไม่ต้องพยายาม เช่น ช้อปปิ้ง(ถ้าเดินเลือกซื้อหนังสือ คือไม่ต้องพยายามจริง ฮ่า) และมีข้อมูลว่า 7700 แคลอรี่ เท่ากับ 1 กิโลกรัม ด้วยล่ะ เว็บนี้ๆ
https://www.mangozero.com/do-nothing-calories-burned/
สุดท้าย ด้วยความสงสัย เราก็ไปค้นต่อ พบข้อมูลว่า การร้องเพลง 1 นาที สามารถเผาผลาญพลังงานได้ 20 กิโลแคลอรี่ สบายแล้ว เพลงๆหนึ่งใช้เวลาอย่างน้อย 2 นาทีกว่า ร้องสองเพลงก็ห้านาทีเบิร์นไปตั้ง 100 กิโลแคลฯ แบบนี้ดื่มน้ำอัดลม 1 แก้ว แค่แหกปากร้องเพลง 1 อัลบั้ม(ประมาณ 10 เพลง) ก็ใช้พลังงานมากกว่ารับละ วะฮ่ะฮ่ะ อัจฉริยะจริงๆเลยเรา(บ้ามากกว่ามั้ง)
ที่มา https://www.proplugin.com/proplugin-article-2021-03-singing/
ก็คงจะได้ไอเดียคร่าวๆกันละ ว่าแต่ละวันใช้พลังงานไปกี่แคลอรี่กันบ้าง ว่าแต่ แล้วเดินจงกรม 5 นาที ใช้กี่แคลอรี่หว่า??
ปัญหาต่อไป แล้วอาหารที่เรารับในแต่ละวัน มันกี่แคลอรี่?
ขอเล่าเรื่องนี้ก่อน จริงๆพอได้รู้ว่าควรกินเนื้อสัตว์ให้มากกว่าคาร์โบไฮเดรต มื้อเช้ามื้อหนึ่ง เราก็เลยลองปรับพฤติกรรม คือตักเนื้อสัตว์และผักให้มากขึ้นและข้าวให้น้อยลงในแต่ละคำ ปรากฏว่า สิบนาทีผ่านไป ฉันก็ยังกินข้าวไม่เสร็จ (ปกติเราเป็นคนกินเร็วมาก) ก็กินไปหงุดหงิดไปว่าแบบ ช้าโว้ย หยุดก็ไม่ได้ยังไม่อิ่ม เออมันเลยเป็นมื้อที่กินช้าที่สุดมื้อหนึ่งในประวัติกาล โอ๊ย ถ้ารีบไปทำงานกินแบบนี้ไม่ได้นะเนี่ย
อ่ะ กลับมาที่เรื่องแคลอรี่ เว็บนี้ก็ดูมีประโยชน์ ว่าแต่ ชาเย็นแก้วนึงแคลอรี่เยอะจัง -_-
http://event.sanook.com/health/calories/
แต่ พอมาดูเว็บนี้ ชาเย็นให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี่ ทำไมมันต่างกันกับเว็บนั้นเยอะจัง
https://hd.co.th/table-of-calories-in-food-types
เว็บนี้ก็ดีนะ รายละเอียดไม่มาก แต่มีการจัดมื้ออาหารให้ด้วย
https://www.wongnai.com/articles/carolies-per-meal
เช่นกัน คงจะพอได้ไอเดียการคำนวณแคลอรี่ ทั้งในฝั่งใช้ไป และรับมา บ้าง ไม่มากก็น้อย
จริงๆเราก็ไม่แน่ใจนักว่าตัวเองจะจริงจังกับการคำนวณแคลอรี่และลดน้ำหนักได้สักกี่มากน้อย(พนันป่ะ ฉันว่าไม่เกินหนึ่งสัปดาห์) เราเพียงรู้สึกว่า ถ้าได้รวมข้อมูลเหล่านี้ไว้ในที่เดียวกัน มันคงเป็นประโยชน์เวลามาเปิดดูอีกครั้งเพื่อทบทวนหรือพิจารณา และน่าจะมีประโยชน์สำหรับใครก็ตามที่สนใจการควบคุมน้ำหนักและรักษาสุขภาพอยู่บ้าง จึงได้เขียนบทความนี้ขึ้นมา
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่คุณผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ในทางกลับกัน ก็อย่าปล่อยปละละเลยสุขภาพนะคะ ใช้ชีวิตให้พอดีและมีความสุขกับตัวเอง ไม่ว่าทางที่คุณผู้อ่านเลือกให้ร่างกายของคุณผู้อ่าน จะทำให้มีสายตาคนรอบข้างมองอย่างชื่นชมหรือไม่ แต่หากเลือกด้วยใจรัก และมีความสุขกับสิ่งที่ทำ มันก็คือรางวัลเบื้องต้นที่คุณผู้อ่านทุกคนได้จากการดูแลสุขภาพของตัวเองแล้วล่ะค่ะ
เอาใจช่วยนะคะ
สวัสดีค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น