เรื่องเล่าหนังสืออ่านเล่น : ความลับที่ผู้ชายไม่บอก แต่อยากให้ผู้หญิงรู้

 ผู้เขียน : เฌอมาณย์ รัตนพงศ์ตระกูล

สำนักพิมพ์ : Big Idea 

จำนวนหน้า : 255 หน้า 

ราคา :  145 บาท 




                    สวัสดีอีกศุกร์ค่ะคุณผู้อ่าน พรุ่งนี้ก็เดือนใหม่แล้วนะคะ

                    เตือนหน่อย ในฐานะแม่หมอ เดือนหน้าเป็นเดือนที่ไม่ค่อยดีสำหรับคนที่มีลัคนาราศีมีนและราศีกันย์ เพราะดาวเล็กใหญ่ตบเท้าเดินเข้าภพเสียของสองราศีนี้หลายดวง ในเคสของราศีมีน ถ้าไม่นับดาวเกตุและดาวมฤตยู คุณจะเหลือดาวที่พอพึ่งได้ทั้งเดือนคือ ดาวอาทิตย์ ดาวพฤหัสบดี และราหู เท่านั้น ส่วนดาวพุธพึ่งได้ประมาณครึ่งเดือนแล้วก็เดินเข้าภพเสียอีก ส่วนดาวจันทร์...อย่าหวังอะไรกะแกเลย ดวงจิ๋วเดียวเท่านั้น นอกนั้นคือปลงเถอะ แย่กว่านั้นคือถ้าดวงคุณมีดาวสามดวงนี้เป็นศัตรู ไม่ว่าศัตรูถาวรหรือศัตรูเฉพาะปีนี้ แนะนำว่าให้ทำใจ 
                    ส่วนราศีกันย์แย่กว่านั้น เพราะคุณจะเหลือดาวอาทิตย์ให้พึ่งได้ทั้งเดือนแค่ดวงเดียว พุธกับจันทร์เงื่อนไขเดียวกับราศีมีน ส่วนดาวดวงอื่นนั้นก็แนะนำให้ ปลง และเช่นกัน ยิ่งถ้าดวงใครไม่ถูกกับดาวอาทิตย์ด้วยเงื่อนไขแบบที่เขียนของราศีมีนไป แนะนำว่ามีนกับกันย์เคสนี้ให้จูงมือกันเข้าวัดปฏิบัติธรรม เผื่อหนักจะได้เป็นเบา  
                    พึงประพฤติตนในศีลในธรรม ควบคุมสติให้ได้ ก่อนจะใช้จ่ายคิดหน้าคิดหลัง ไปไหนมาไหนให้ระวังตัว อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจใครง่ายๆ ขอให้อยู่รอดปลอดภัยผ่านพ้นเดือนกรกฎาคมไปได้โดยทั่วกัน


                    ส่วนวันนี้ มาอ่านหนังสือจิตวิทยาความสัมพันธ์กันดีกว่าค่ะ 



                    มีหนังสือมากมายหลายเล่มที่กล่าวในทำนองว่า "ผู้ชายมาจากดาวอังคาร ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์" ซึ่งก็เป็นบทความที่พูดถึงการที่ผู้หญิงกับผู้ชายมีระบบความคิดที่แตกต่างกัน ในเรื่องบางเรื่อง ผู้หญิงกับผู้ชายจึงมองกันคนละอย่าง คิดไปคนละแบบ 

               หนังสือในหัวข้อว่า เพศที่ตรงข้ามกับคุณ คิดอย่างไร จึงทยอยกันออกมาเพื่อให้แต่ละเพศได้
ทำความเข้าใจในเพศตรงข้ามมากยิ่งขึ้น
            " ความลับที่ผู้ชายไม่บอก แต่อยากให้ผู้หญิงรู้" ก็เป็นหนึ่งในนั้น 


            ในหนังสือเล่มนี้จะไม่มีบทหลัก บทย่อย แต่จะแยกเป็นหัวข้อๆไปเลยว่า ผู้ชายเขาคิดอย่างไรบ้าง ซึ่งคุณเฌอมาณย์เธอบอกว่า อ่านเอาไว้หาคนที่ใช่ 
            เหมือนจะเขียนแนวทำยังไงให้มัดใจชายได้ แบบนี้เหรอ?? 

            จะยกตัวอย่างหัวข้อให้ค่ะ เช่น สัญญาณที่บอกว่าเขาชอบคุณ ที่มาบอกใบ้เป็นนัยๆว่า ถ้าผู้ชายทำงี้ๆๆ นะ แปลว่าชอบ แต่ถ้าไม่ทำก็อย่าเพิ่งเสียใจ เขาอาจจะชอบแต่ไม่แสดงออกก็ได้
            อ้าว แบบนี้ ทำตัวแบบไหนก็แปลว่าชอบได้หมดเลยสิ (อย่าเขียนเลยเหอะแบบนี้)
            ดีที่หนังสือเล่มนี้ไม่ได้มีเนื้อหาบอกว่า "ถ้าเขาชอบเรา เราจะรู้เอง" เพราะมันไม่จริง ผู้หญิงไม่ได้จับความรู้สึกเก่งทุกคน พวกไอคิวความรักติดลบก็มีถมไป
 

            มีหัวข้อหนึ่งที่เราไม่เห็นด้วย นั่นคือหัวข้อที่ว่า "ผู้ชายรักผู้หญิงที่เขาไม่กล้าเห็นแก่ตัวกับเธอ" เพราะเท่าที่เห็นคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนที่แต่งงานแล้วและอายุมากกว่าเราเนี่ย ส่วนใหญ่มักเป็นฝ่ายหญิงที่เป็นผู้เสียสละ ในขณะที่ผู้ชายก็แค่ยักไหล่แล้วบอกว่า ก็ฉันจะเอาแบบเนี้ย เช่น มีคนมาเล่าให้ฟังว่า คู่แต่งงานคู่หนึ่ง พ่อแม่ลูกไปทำงานรถคันเดียวกัน แล้วรถติด แล้วผู้ชายก็สะบัดก้นลงจากรถบอกว่า ฉันไปทำงานก่อน เธอไปส่งลูก (และไปสายเอง) ก็แล้วกัน
            ดูมันสิ!!!
            นี่ยังไม่นับเรื่องเลวร้ายหลายเรื่อง เช่น ผู้หญิงหลายคนที่กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะสามีทิ้งไปมีเมียใหม่ตอนท้องอีกนะ (พูดแล้วของขึ้นวุ้ย) 
            เนี่ยเหรอ ไม่กล้าเห็นแก่ตัว?? 
            ขอโทษด้วยแล้วกันที่รอบตัวเราเห็นแต่คู่รักที่ทำให้มองความรักในอีกมุม ในมุมแห่งความเป็นจริง ที่ไม่ใช่ในทุ่งลาเวนเดอร์ แต่ใครอ่านหัวข้อนี้แล้วอยากละเมอเพ้อตามไปว่า ผู้ชายทุกคนเป็นแบบหัวข้อนี่ ก็แล้วแต่คุณ 
                    คิดๆไป เหตุที่ฉันเป็นโสดอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะไม่เคยมองความรักแบบคนเดินเล่นในสวนดอกไม้เนี่ยแหละ นึกภาพตัวเองตอนมีแฟนไม่ออกจริงๆ พับผ่า 


            หัวข้อที่เราเห็นด้วยก็มีนะ คือหัวข้อที่ว่า "ผู้ชายชอบผู้หญิงพูดเก่งไม่ใช่พูดมาก" ที่แจกแจงข้อแตกต่างระหว่าง พูดเก่ง กับ พูดมาก ว่า พูดเก่ง คือ พูดเรื่องที่คนอยากฟัง ส่วน พูดมาก คือ พูดเรื่องที่ตัวเองอยากพูดโดยไม่สนใจว่าคนฟังอยากฟังหรือเปล่า
            ว่ากันตามตรงนะ ในฐานะคนเงียบ เราก็ไม่ชอบคนพูดมาก ที่พูดไปเรื่อยโดยไม่สนเลยว่าขณะนั้นคนรอบข้างอยากจะฟังสิ่งที่ตัวเองจะพูดหรือเปล่า เราว่าการที่พูดโดยไม่สนเลยว่าอีกฝ่ายเต็มใจจะฟังไหมเป็นความเห็นแก่ตัวรูปแบบหนึ่ง


            ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน อาจเป็นเพราะว่าเราเป็นแม่หมอของเพื่อนๆ และลูกค้าสาวๆของเราหลายคนก็ชอบมาปรึกษาเรื่องความรัก คุยไปคุยมาจากแม่หมอเลยกลายร่างเป็นศิราณีไปด้วย เพื่อความเป็นศิราณีที่เข้าท่าจึงอยากหาข้อมูลเพิ่มเสียหน่อย 
            อีกอย่าง คือ จริงๆเราก็มีเพื่อนผู้ชายอยู่บ้างนะในชีวิต แต่เราไม่ได้สนิทขนาดที่จะไปถามว่า ถ้าสถานการณ์งี้ๆๆ ผู้ชายเขาคิดอย่างไรบ้าง แล้วก็ไม่มีสถานการณ์จริงอะไรให้ไปถามด้วย เลยแบบ เออ หาหนังสืออ่านไว้ละกัน 


            อ่านแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเข้าใจผู้ชายได้มากขึ้นจริงๆหรือเปล่า ยิ่งเห็นชื่อว่าผู้หญิงเป็นผู้เขียนยิ่งแบบ เอ๊ะ จริงเหรอ (มีหัวข้อที่โต้แย้งด้วยเห็นไหมล่ะ) 
            แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็นด้วยมากๆก็คือว่า ผู้หญิงกับผู้ชายนั้นต่างกัน ทั้งทางสรีระและความคิดอ่าน บางอย่างผู้หญิงคิดอย่าง ผู้ชายอาจจะคิดอีกอย่างก็ได้ ดังนั้น หากเราสามารถเข้าใจมนุษย์คนละเพศกับเราได้ มันอาจมีประโยชน์ต่อการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง ไม่ว่าในทางใดทางหนึ่ง
            ดังนั้นอ่านไว้บ้างก็ไม่เสียหาย ส่วนจะจริงแค่ไหน เชื่อได้เพียงใด 

            เอาไว้มีแบบทดสอบมาให้ขบคิดแล้วค่อยว่ากันอีกที...

                    
                    จริงๆแล้วเนี่ยชีวิตมันคงจะง่ายขึ้นถ้าจะมีพี่ชาย น้องชาย หรือเพื่อนสนิทผู้ชายแบบสนิทจริงๆกับเขาสักคน แต่มันไม่มีไง เฮ้อ หาซื้อในช้อปปี้ก็ไม่ได้อีก ละเหี่ยใจ 


                    หนังสือเล่มนี้เหมาะกับ เอ้อ ไม่รู้แฮะ เราว่าไม่ค่อยสนุกนา คือถ้าคุณผู้หญิงอยากหาตำราเพื่อทำความเข้าใจผู้ชายสักเล่ม ลองไปยืนอ่านดูก็ได้ว่าถูกจริตรึเปล่า 
                    และหนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะกับคนที่ไม่สนใจจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเพศตรงข้าม หรือเชื่อเป็นมั่นเหมาะว่า เรื่องความสัมพันธ์นี่ อ่านเอาไม่เวิร์ค เรียนรู้ด้วยตัวเองเข้าท่ากว่า 



            ถ้าใครสนใจก็ลองไปเปิดอ่านที่ร้านหนังสือแถวบ้านดูนะคะ น่าจะยังพอมีขายนา


                    สวัสดีค่ะ 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ