แนะนำที่เที่ยวตามใจฉัน ฉบับกาญจนบุรี(1)
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่าน
ช่วงใกล้ปีใหม่ที่ผ่านมา เราและครอบครัวมีโอกาสหนีความวุ่นวายในเมืองหลวง หนีรายการทีวีที่เคยดูประจำ(มองผู้ดำเนินรายการหนีเที่ยวมาหลายรอบแล้วคนดูขอหนีเที่ยวบ้าง) หนีความจำเจไปเที่ยวที่ใหม่ๆ ลิ้มลองอาหารรสใหม่ๆ และส่องผู้คนใหม่ๆ แล้วเลยเก็บรายละเอียดบางส่วนที่ตัวเองไปเที่ยว มาบอกเล่าเก้าสิบให้อ่านกันค่ะ ที่แห่งนั้นก็คือ จังหวัดกาญจนบุรี
ถ้าจะถามจริงๆว่ากาญจนบุรีปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปเยอะเพียงใด เราก็ตอบไม่ได้นัก เพราะไม่ได้อยู่ในจังหวัดขนาดที่ว่ารู้ทุกซอกทุกมุมขนาดนั้น แต่สิ่งที่คิดว่าเมื่อก่อนน่าจะไม่มี ก็คือนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หนาตาขึ้น มีซอกซอยบางแห่งที่ถูกปรับให้มีลักษณะเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยว นั่งรถผ่านแล้วให้อารมณ์คล้ายๆกับถนนข้าวสารหรือพัทยา ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าควรจะเรียกความเปลี่ยนแปลง ความเจริญ หรือความเสื่อม ดี(มันน่าจะน่ากลัวตอนกลางคืนนะ)
อีกอย่างที่พบคือการเพิ่มขึ้นของร้านกาแฟหรือคาเฟ่สวยๆสำหรับถ่ายรูป แม้แต่ร้านอาหารยุคใหม่ก็ปรับเพิ่มเสริมมุมให้สามารถเก็บภาพสวยๆได้ คงเหมาะกับสไตล์คนสมัยนี้ที่ถนัดถ่ายตัวเองลงไอจีกระมัง
กระซิบนิดนึงว่าเรื่องนี้มันจะกึ่งๆไดอารี่ส่วนตัว เพราะงั้นมันอาจไม่ค่อยเป็นทางการ ออกแนวมีสาระครึ่งนึง ไม่มีสาระครึ่งนึง ใครลองอ่านแล้วไม่ชอบแนวนี้แนะนำให้เลิกอ่าน มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ส่วนมิตรรักแฟนงานเขียนที่ติดตามไดอารี่ท่องเที่ยวของข้าพเจ้ามาร่วมทศวรรษ(เออเรารู้จักกันมามากกว่าสิบปีแล้วเนอะ) นี่คืองานแนวที่คุณคุ้นเคยซึ่งปรับเนื้อหาให้คนทั่วไปพออ่านได้ เชิญทัศนาตามสะดวก
เอาล่ะ มาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวตลอดจนร้านอาหารที่เราไปมาดีกว่า
จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดๆหนึ่งในภาคตะวันตกของประเทศไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังๆหลายแห่ง ซึ่งเมื่ออ่านบทความของเราคุณจะพบว่าไอ้ที่ดังๆน่ะเราไม่ได้ไปสักแห่ง(อ้าว กวนประสาทนะเนี่ย) แต่เพราะเราเคยไปมาแล้วไง แล้วคณะเราก็มีคนอายุเกินหกสิบสามคนอ่ะ ขอพวกเราเที่ยวตามใจฉันแบบชิวๆหน่อยเถอะ
มาเริ่มกันที่
Skywalk @ Kanchanaburi
มีใครคิดเหมือนเราไหมว่า เดี๋ยวนี้ที่ไหนก็มีสกายวอล์คหรือชื่อภาษาไทยคือ.. ไม่รู้แฮะ ทางเดินกระจก มั้ง พวกสกายวอล์กนี่ก็จะคล้ายๆกันตรงที่เป็นสะพานยาวๆ และมีพื้นเป็นกระจกใส มองจากข้างล่างเห็นถึงข้างบน มองจากข้างบนเห็นถึงข้างล่าง (ใครใส่กระโปรงไปเดินคงเสียววาบๆพิลึก) เดี๋ยวนี้แต่ละจังหวัดขยันสร้างกันเหลือเกิน และกาญจนบุรีก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย และเมื่อญาติเราแนะนำมาดังนั้น พวกเราก็ไม่รีรอที่จะไปเดินที่นี่
สกายวอล์คของเมืองกาญจน์ฯตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ณ จุดที่แม่น้ำแควใหญ่และแควน้อยมาบรรจบกัน(ขอบคุณข้อมูลจาก https://kanchanaburi.center/skywalk/) วิธีไป(สำหรับพวกเรา)ก็คือ ขับเข้าตัวเมืองมาเรื่อยๆจนถึงซอยโรงเรียนสตรีกาญจนานุเคราะห์ ขับเข้าซอยไป ผ่านศาลหลักเมือง ประตูเมือง ไปถึงถนนริมแม่น้ำ จะมีแยกเลี้ยวซ้าย-ขวา เลือกทางขวา ขับไปเรื่อยๆก็เห็น จอดรถได้แถวๆนั้นเลยค่ะ ถ้าจะขึ้นก็ไปซื้อตั๋ว คนละ 60 บาท แต่เตือนไว้ก่อน เขาห้ามนำกระเป๋า ขาตั้งกล้อง หรือของหนักๆต่างๆขึ้นไปด้วย ให้ฝากไว้กับล็อคเกอร์ ไว้ในรถ หรือหาใครสักคนนึงที่ไม่ขึ้นทำหน้าที่ดูแลกระเป๋าให้
เมื่อซื้อตั๋วแล้วก็เดินไปขึ้นลิฟต์ แต่ก่อนขึ้นลิฟต์ เจ้าหน้าที่จะแจกถุงสีน้ำตาลคนละ 1 คู่ สำหรับคลุมรองเท้า คือเราใส่รองเท้าขึ้นไปได้ แต่ต้องคลุมทั้งเท้าและรองเท้าด้วยถุงน้ำตาลนี้ก่อน คาดว่าเพื่อกันความสกปรกแหละ จากนั้นก็กดลิฟต์ขึ้นไปข้างบนได้เลย พอออกจากลิฟต์แล้วจะพบว่าสกายวอล์คมีสองฝั่ง มีวิวที่แตกต่างกัน(แต่สวยทั้งคู่) จะไปทางไหนก่อนก็ได้ค่ะ เดินไปเลยให้หนำใจแล้วค่อยลงลิฟต์กลับมาข้างล่าง แล้วเราจะพบความประหลาดใจอย่างหนึ่ง คือ เจ้าถุงสีน้ำตาลคู่ที่เขาให้คลุมรองเท้าเนี่ย เขาไม่บังคับเอาคืน ใครใคร่นำกลับบ้านก็เอาไปเลย (แม่ฉันก็ดี๊ด๊าใหญ่)
วิวข้างบนสวยค่ะ ทางเดิน..ก็น่าจะแข็งแรงดีนะ เป็นกระจกใสๆน่ะแหละ คนปกติหลายคนบอกว่ามองลงข้างล่างผ่านกระจกแล้วมันหวิวๆ เผอิญเรามันเป็นคนบ้า มองแล้วก็สนุกตาดีไม่ได้กลัวอะไร 555
หลังจากกลับมาแล้ว แม่เรานำงานเขียนของวิศวกรท่านนึงมาอ่านให้ฟังว่า จริงๆสกายวอล์คนี่อันตราย เพราะกระจกถ้าตั้งในแนวนอนแล้วมันรับความร้อนได้ไม่ดี มีความเสี่ยงที่จะแตกและทำคนตกลงมา เช่นเหตุการณ์ในประเทศอินโดนีเซีย ถ้าใครไปก็เดินด้วยความระมัดระวังกันด้วยนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น