ว่าด้วยเรื่องลายเซ็น

 

                    สวัสดีวันหยุด(ของเหล่าข้าราชการ)เนื่องในวันฉัตรมงคลค่ะคุณผู้อ่าน ไปเที่ยวไหนกันหรือเปล่าคะ

                    วันนี้อยากจะเขียนถึงเรื่อง "ลายเซ็น" ค่ะ


            จุดเริ่มต้นของบทความนี้เกิดขึ้นตอนคุยกับน้องที่คุ้นเคยกันคนหนึ่ง น้องเล่าให้ฟังถึงเรื่องประดิษฐ์ลายเซ็น เราคิดไปคิดมาเลยบอกว่า เออ น่าค้นคว้าเอามาเขียนบทความ

            “เอาเลยครับพี่” น้องตอบกลับมา 

            นี่ก็ผัดวันประกันพรุ่งมาหลายเพลา เพิ่งได้เวลาหาข้อมูลสักที 


            จริงๆไม่เคยคิดจะสนใจเรื่องลายเซ็นอะไรกับเขาเลย เพราะไม่เคยคิดว่าจะต้องมานั่งเซ็นเอกสารอะไรให้วุ่นวาย แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เพราะอาชีพที่ทำอยู่ตอนนี้ ขืนมานั่งเขียนชื่อทีละตัวเวลาต้องลงลายมือชื่อแล้วล่ะก็

            น่าจะไม่ทันรับประทาน 


            จากที่ไม่เคยมีลายเซ็นภาษาไทย (เคยเซ็นหวัดๆเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ) เลยต้องมาคิดว่า ตูจะเขียนชื่อตัวเองยังไงดี(หว่า?) เซ็นมาเซ็นไปก็ไม่ยักกะสวยซักที เมื่อเวลาผ่านไป ก็ยังไม่สวยเหมือนเดิม(อ้าว) แต่เริ่มหาข้อมูลอ้างอิงมาเพิ่มเติมว่า 

            “เซ็นยังไงจึงจะดี?” 

            วันนี้เลยมาปันประสบการณ์เท่าที่มีให้อ่านกันค่ะ


            เท่าที่อ่านที่ฟังมาเนี่ย ศาสตร์แห่งการออกแบบลายเซ็นมีตำรามากมายหลายหลากจริงๆค่ะ ที่น่าปวดหัวก็คือว่า แต่ละตำราก็พูดไม่เหมือนกันเสียด้วย เช่น

- ตำราหนึ่งบอกว่า การเซ็นชื่อต้องมีจุดลงท้ายจึงจะดี (ดีอย่างไรก็จำไม่ได้) แต่อีกตำราหนึ่งบอกว่า มีจุดนั้นไม่ดี จะติดขัดหรืออย่างไรนี่แหละ

- บางตำราบอกว่า การเซ็นอักษรตัวแรกของชื่อ กับอักษรตัวอื่นๆ ไม่ควรจะติดกัน เพราะจะทำให้บริวารเข้ามามีอิทธิพลกับเจ้าชะตามากเกินไป แต่อีกตำราบอกว่า ต้องเซ็นชื่อให้ติดกันเพราะจะทำให้มีบริวารเกื้อหนุน

- บางตำราบอกว่า การเซ็นชื่อควรมีขีดคล้ายๆขีดเส้นใต้ อารมณ์น่าจะแบบมีผู้สนับสนุน แต่อีกตำราบอกว่า การมีขีดข้างใต้ทำให้ชีวิตมีอุปสรรค

- บางตำราบอกว่า เซ็นชื่อแล้วควรเซ็นนามสกุล เพราะจะทำให้มีคนเกื้อหนุนหรือก้าวหน้า แต่อีกตำราบอกว่า เซ็นชื่ออย่างเดียวพออย่าเซ็นนามสกุล เดี๋ยวทำอะไรแล้วจะเดือดร้อนมีเรื่องกับคนตระกูลเดียวกัน

        ฯลฯ

                    อ่านแล้วก็แบบ อิหยังวะ ตูจะเชื่อใครดีวะเนี่ย??? (ปวดหัว)


                    กระนั้น ก็มีเกร็ดที่ทุกตำรา(ที่ค้นๆมา) ว่าตรงกัน นั่นคือ

- การเซ็นชื่อต้องเซ็นตัวอักษรตัวแรกให้ใหญ่ที่สุด นั่นหมายถึงอำนาจของเจ้าชะตา ถ้าเซ็นตัวเล็กกว่าตัวอื่นคือเปิดโอกาสให้บริวารกร่างใส่หรือวางอำนาจกับเรา

- ตัวสุดท้ายของลายเซ็น(จะเซ็นกี่ตัวก็แล้วแต่)ต้องลากหางให้เฉียงขึ้น เพราะหมายถึงความก้าวหน้า ถ้าเฉียงลงคือถดถอย 

- ตัวอักษรต้องไม่ยุ่งเหยิง ไม่พันกัน (พันกัน=ชีวิตยุ่งเหยิง) และต้องไม่มีเส้นใดๆมาตัดตัวอักษรบนชื่อ เช่น พวก ส หรือ ศ ไม่ควรลากหางตัดเข้ามาใส่ตัว ล หรือ ค ถ้าลากหางมาตัดตัวอักษรอาจจะเจ็บป่วยได้

- เซ็นชื่อทรงโค้งหรือกลมมนจะดีกว่าทรงเหลี่ยม เพราะทรงเหลี่ยมหมายถึงเจออุปสรรค (นี่ฉันมีปัญหากับข้อนี้มากนะ ฉันชอบเขียนตัวออกเหลี่ยม) 

- ตัวอักษร อ อ่าง อย่าเขียนเป็นเลขศูนย์ (0) เพราะทำให้เงินไม่เข้า 

- ควรเซ็นชื่อให้มีลักษณะเป็นแอ่ง ไว้ให้เงินเข้าและเก็บเงิน (ไม่รู้เหมือนกันว่าแอ่งยังไง น่าจะอารมณ์ประมาณตัว พ พาน รึเปล่า??) 

        หลักๆที่นึกออกและค้นได้ก็มีประมาณนี้


                    บอกตามตรง เราก็ไม่อาจทราบได้เช่นกันว่า การเซ็นชื่อนั้นมันเสริมดวงชะตาของคนเราได้มากเพียงใด และไม่เคยทำสถิติไว้ด้วยว่า การเซ็นชื่อตามหลักที่ดีนั้นสามารถให้ผลคะคานกับดวงชะตาคนได้ เช่น ตามดวงเป็นคนไม่มีอำนาจ ไม่มีลูกน้อง แต่เซ็นชื่อตามตำราแล้ว ลายเซ็นสามารถเสกอำนาจเสกบริวารมาให้ได้ในทันตาเห็น ได้ จริงหรือเปล่า

                    แต่ถ้าเป็นแบบนั้นคงน่ากลัวพิลึก บุญกุศลไม่ต้องทงต้องทำมันละ อยากได้อะไรแค่เซ็นชื่อให้เข้าล็อคตามตำราก็พอ เดี๋ยวทุกอย่างก็มาเอง 


                    คิดไปคิดมา ลายเซ็นของคนเราน่าจะคล้ายคลึงกับเบอร์โทรศัพท์ นั่นคือเป็นไปเพื่อความสบายใจของผู้เซ็น คนเรา เวลาเขียนงานยังอยากเขียนให้สวย เวลาเขียนชื่อตัวเอง ถ้ามันออกมาดีก็ย่อมแช่มชื่นตาเป็นธรรมดา นอกจากนี้ ถ้าจะมีความดีอยู่บ้าง เราว่าลายเซ็นมงคลคงสามารถเสริมดวงชะตาผู้คนได้ในระดับหนึ่ง แต่คนเราจะได้ดีดังลายเซ็นพยายามปั้นแต่งหรือไม่ อันนี้คงสุดแท้แต่บุญวาสนาของแต่ละคนเป็นสำคัญ  


                    นอกจากนี้ อย่าลืมว่า เวลาเราเซ็นชื่อนั้นน่ะ สิ่งที่คนเขาให้ความสำคัญ ไม่ใช่ความสวยสดงดงามของลายเซ็น(แต่เราชอบดูลายเซ็นคนนะ บางคนก็เซ็นสวยดี) เขาสนใจตำแหน่งของคนเซ็น อำนาจในการเซ็น สถานะของคนเซ็น เขาสนใจว่านั่นคือการที่เรายินยอมทำอะไรให้หรือให้ใครทำอะไร 

                    ลายเซ็นของเราก็แค่สัญลักษณ์แห่งความยินยอมหรือตกลงปลงใจนั้น แค่นั้นเอง


                    เพราะฉะนั้น คุณผู้อ่านจะลงลายมือชื่ออย่างไร ก็ตามแต่ใจคุณผู้อ่านเลยค่ะ และหากคุณผู้อ่านพึงใจที่จะทำให้มันสวยให้ได้ เราพอทราบว่ามีธุรกิจช่วยออกแบบลายเซ็นอยู่ไม่น้อย เพื่อนเราที่รู้จักอย่างน้อยก็สองคนใช้บริการนี้เช่นกัน แต่...อย่าลืมว่า เสียเงินนะคะ หึหึ 

                    อย่างไรก็ดี หากใครมีหัวเชิงสร้างสรรค์ สามารถประดิษฐ์ลายเซ็นได้สะสวยและถูกใจเจ้าของลายเซ็น ก็เก็บลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์ของคุณไว้เถอะค่ะ ไม่ใช่ทุกคนหรอกที่สามารถเซ็นชื่อได้น่าประทับใจผู้พบเห็น

                    อย่างน้อยก็เราคนนึงที่ทำไม่ได้ 


                    สุดท้ายและท้ายที่สุด เรายังคงยืนยันความเชื่ออย่างเดิมว่า ชีวิตเราจะเป็นไปทางใด ขึ้นอยู่กับการทำตัวของเราเป็นสำคัญ ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้นั้นเป็นได้แค่ส่วนเสริม 

                    ชีวิตเป็นของคุณ คุณเท่านั้นที่จะออกแบบได้ว่าจะให้มันเดินอย่างไร หาใช่ลายปากกาที่ตวัดเพื่อบอกชื่อเสียงเรียงนามของคุณไม่ 


                    สวัสดีค่ะ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ