บทความ

กำลังใจแด่ "คนที่อยู่"

                         สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่าน                         ออกตัวไว้ก่อนเลยว่าเราไม่ได้จะกลับมาเขียนบล็อกเป็นประจำหรอกนะ บทความนี้เขียนขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเพื่อนคนหนึ่งของเราเท่านั้น และไหนๆก็เขียนแล้วจึงรู้สึกว่า ในโลกที่ความสูญเสียเกิดขึ้นทุกวัน คงต้องมีสักคนที่กำลังเผชิญบางสิ่งบางอย่างแบบที่เพื่อนของเรากำลังประสบ ขอใช้โอกาสนี้ให้กำลังทุกๆคนไปเลยละกัน                          เรื่องของเรื่องคือว่า เราได้รู้ว่าเพื่อนเราคนหนึ่งพึ่งสูญเสียคุณแม่ไปกะทันหัน แต่เธอไม่ได้บอกใครเอิกเกริก เราเองก็ไม่ได้รู้จากเธอโดยตรง ตอนแรกสองจิตสองใจว่าจะทักไปถามดีไหมเพราะไม่อยากสะกิดให้เสียใจ แต่พอได้ข้อมูลเพิ่มขึ้นก็เลยแบบ ต้องทักแล้วแหละ                         เราส่งเงินไปทำบุญ ส่งสลิปให้เพื่อนทางไลน์แล้วบอกเพื่อนว่า "เสียใจด้วยนะ"                         ...ตอนที่รับรู้ข้อมูลว่า คุณแม่ของเพื่อน "หลับ" แล้ว "ไม่ตื่น" อีกเลย มันทำให้เราเห็นตัวเอง                         ...เพราะตอนที่ยายจากเราไป ยายก็ "หลับ" แล้ว "ไม่ตื่น" เช่นเดียวกัน          

เพราะ "อาการสมองเสื่อม" อยู่ใกล้เรากว่าที่คิด

                          สวัสดีวันศุกร์สุดท้ายของเดือนเมษายนค่ะคุณผู้อ่าน                         คุณผู้อ่านอายุเท่าไหร่แล้วคะ มีผู้สูงอายุที่บ้านหรือเปล่า หากมี คุณผู้สูงวัยที่บ้านของคุณผู้อ่านมีสุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง แข็งแรงดีทุกประการ หรือเดินเข้าออกโรงพยาบาลทุกสัปดาห์ประหนึ่งไปเรียนพิเศษ                          ผู้สูงวัยมีความเสี่ยงมากนะคะต่อโรคต่างๆ ทั้งทางร่างกาย เช่น การหกล้ม ความดัน เบาหวาน มะเร็ง และด้านจิตใจ เช่น ซึมเศร้า เหงา นอนไม่หลับ เป็นต้น                         และอาการหนึ่งที่ลืมไม่ได้ คือ "อาการสมองเสื่อม"                     ขออนุญาตเล่าเหตุการณ์ที่เราประสบมากับตัว จนประจักษ์ว่า เออ "อาการสมองเสื่อม" เนี่ย เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถประมาทได้เลย หากมีผู้สูงอายุอยู่ที่บ้าน                         เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนๆหนึ่ง ขอเรียกท่านว่า "คุณลุง"                         คุณลุงเป็นเพื่อนร่วมงานของแม่ ทำงานร่วมกันมาประมาณสามสิบปี นับถือกันเหมือนพี่เหมือนน้อง มีอะไรก็ช่วยเหลือกันเสมอ                          คุณลุงเป็นคนโสด เกิดที่ต่างจัง

เรื่องเล่าหนังสืออ่าน..ไว้ทำงาน : คดีทางการแพทย์ เล่ม 1 และ เล่ม 2

 ผู้เขียน/รวบรวม : ขวัญชัย โชติพันธุ์  สำนักพิมพ์ : ซีเอ็ดยูเคชั่น  จำนวนหน้า : เล่มหนึ่ง - 340 หน้า, เล่มสอง – 284 หน้า  ราคา : เล่มหนึ่ง - 340 บาท, เล่มสอง – 395 บาท                                   สวัสดีอีกศุกร์ค่ะคุณผู้อ่าน                         วันนี้ขอเป็นวัยรุ่น(รุ่นไหน?)ใจร้อนตามอากาศ ไม่พูดพร่ำทำเพลง ว่าถึงหนังสือเลยละกัน                          เล่าถึงหนังสืออ่านเล่นมาเยอะละ วันนี้ขอเล่าเกี่ยวกับหนังสือที่อ่านเพื่อประโยชน์แห่งการทำงานบ้าง                เคยได้ยินแพทย์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หมอ บ่นๆมาว่า สมัยนี้อยู่ยากขึ้น เพราะสังคมและระบบความคิดของคนเปลี่ยนไป เมื่อก่อนนี้ เวลาคนไปหาหมอ ก็จะยกย่องเชิดชูว่าตนเองสามารถหายจากโรคได้เพราะหมอ โน่นนี่นั่น แต่คนสมัยนี้เริ่มมองว่า หมอก็เป็นหนึ่งในอาชีพบริการที่ต้องให้บริการตนเอง แถมไม่บริการฟรีด้วยนะ บางทีเสียค่ารักษาเป็นแสนเป็นล้าน  นอกจากนี้ พอคนหัวหมอมีมากขึ้น หมอจริงๆทำอะไรลงไปแล้วผิดพลาดขึ้นมา ก็เกิดการฟ้องร้องเป็นคดีความกันให้วุ่นวาย อีกตะหาก                 จะว่าไป ยุคนี้หมอก็น่าสงสารนะ รักษาคนไข้แต่ละที ถ้าตายโทษหมอ

ทางเลือกเมื่อFacebook ล่ม

                          สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่าน                         ถ้าคุณผู้อ่านจำได้ สักเดือนสองเดือนก่อนหน้านี้ จะมีบางวันที่เกิดปรากฏการณ์ "Facebook ล่ม" จำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นช่วงสี่ถึงห้าทุ่มของวันๆหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นน่ะ เราไม่รู้เรื่อง เราหลับ อย่างไรก็ดี เช้าวันต่อมาเมื่อเข้าเฟสซึ่งเข้าได้แล้วปกติ(ฉันผู้ซึ่งมารู้อะไรตอนตลาดวายแล้วตลอด) เห็นบ่นกันขรมอยู่ในเฟส เราก็แบบ อ๋อเหรอ?  จากนั้นก็เข้าไปอ่านเว็บสาระเว็บนึงค่ะ คุณคนโพสต์ท่านก็โพสต์ของท่านไป แล้วท่านก็ทิ้งท้ายประมาณว่า "เออเฟสล่มนะ อาจจะล่มอีกก็ได้ แต่เท่าที่เช็คดู VK กับ Wechat ปลอดภัยดี"                          อ่านแล้วเราก็แบบ หืม?                          แล้วเราก็ดันทุรังสมัคร Wechat กับ VK จนมีบัญชีของทั้งสองอย่างและใช้การได้ (เรื่องที่สนใจเราความดันทุรังสูงเสมอ) วันนี้เลยมาเล่าไว้เป็นความรู้ เผื่อใครเบื่อไลน์ เบื่อเฟส อยากมีบัญชีโซเชียลมีเดียช่องทางอื่นเพิ่ม จะได้ลองสมัครดู                         WeChat                          ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย Wechat คือไลน์สัญชาติจีนค่ะ จริงๆเราเคยเล่นวีแชท(ข

เรื่องเล่าหนังสืออ่านเล่น : ตำนานอาหารโลก/ What Caesar did for my salad

 ผู้เขียน : Jack Albert  ผู้แปล : พลอยแสง เอกญาติ สำนักพิมพ์ : Createspace Independent Pub (US) จำนวนหน้า : 368 หน้า (ฉบับภาษาอังกฤษ) หรือ 416 หน้า (ฉบับภาษาไทย) ราคา :  1,002 บาท (ฉบับภาษาอังกฤษที่ร้านคิโนคูนิยะ) หรือ 365 บาท (ฉบับภาษาไทย ตรวจสอบจากร้านนายอินทร์)                           สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน                ก่อนจะไปว่ากันถึงเนื้อหา น่าจะมีคุณผู้อ่านเห็นราคาหนังสือแล้วขนลุกขนพอง งั้นเฉลยตรงนี้ก่อนเลยละกัน(ปกติเราจะเฉลยท้ายเรื่องว่าเราอ่านจากที่ไหน อันนี้ขอชี้เป้าก่อนเลย) เราไม่ได้ซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านหรอกนะ เรายืมอ่านจากแอพลิเคชั่น Libby ซึ่งเคยเขียนเล่าไปแล้วก่อนหน้านี้ ยืมได้ครั้งละ 14 วัน พอใกล้ครบกำหนดถ้าเรายังอ่านไม่จบ เขาจะแจ้งเตือนมาถามเลยว่า “ยืมต่อไหมเธอ” ก็กดยืมไป นี่ดีกว่า Tk Park อีกนะ เดี๋ยวนี้ Tk Park ไม่เห็นให้ยืมต่อเลยอ่ะ                 ก็สรุปว่าเราไม่ได้ซื้อ ถ้าใครอ่านบทความนี้แล้วสนใจแต่ไม่อยากซื้อ ก็ไม่ต้องซื้อค่ะ ไปโหลด Libby มาแล้วยืมอ่าน แต่ข้อแม้คือ ข้อแรก ฉบับใน Libby นั้นเป็นฉบับภาษาอังกฤษ ข้อสอง คุณต้องเป็นสมาชิก Tk Park ก่อนเด้อ ไปค้นว

เมืองไทยเรานี้ ก็ดีอยู่หนา

                    ไม่เข้าใจคนยุคนี้บางคน ที่ร่ำร้องอยากไปใช้ชีวิตต่างแดน บอกบ้านเราไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ บอกเมืองนอกดีกว่าอย่างนั้นอย่างนี้ น่าแปลกว่านั้นคือ บรรดาคนที่บ่นเนี่ย หลายคน..แม้แต่ภาษาอังกฤษยังพูดไม่ได้ เรื่องเคยอยู่เมืองนอกจริงๆ ลืมไปได้เลย แต่แหม ยืนยันจั๊งงง ว่าเมืองนอกดีกว่าเมืองไทย                          มา วันนี้อีป้าคนนี้ขอเล่าประสบการณ์ซึ่งประสบเองบ้าง ฟังเขาเล่ามาบ้าง อ่านมาบ้าง ให้รู้แจ้งแถลงไขสักหน่อยว่า ประเทศไทยของเรา มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่หลายคนพยายามแช่งๆกัน                         อะไรนะ อีป้าคนนี้มีดียังไงถึงมีหน้ามาเล่าน่ะเหรอ                         ก็ไม่ดีอะไรนะ แค่คนธรรมดาๆคนนึงที่จบปริญญาตรีจากจุฬาฯ จบเนติฯ จบปริญญาโทจากประเทศอังกฤษสองใบ เคยอยู่อังกฤษมาสองปีกว่า ใช้ภาษาไทยและอังกฤษได้พอตัว เคยเรียนภาษาอื่นๆนอกจากไทยและอังกฤษแบบพอทักทายได้อีกสี่ภาษา เคยไปต่างแดนมาแล้วรวมได้ประมาณ 20 ประเทศ และมีเพื่อนนานาชาติจากการอยู่เมืองนอกเมืองนาจำนวนหนึ่ง แค่นั้นแหละ (ขอไม่เล่าเรื่องความสามารถพิเศษอื่นๆ เดี๋ยวตาเหลือก อุ๊บส์)                         อ่ะ ไม่ถามล

เรื่องเล่าหนังสืออ่านเล่น :คู่มือรู้ทันคนโกง

 ผู้เขียน : Mary Ellen and Alisa Bowman  ผู้แปล : วุฒินันท์ ชุมภู  สำนักพิมพ์ : Beemedia  จำนวนหน้า :  352 หน้า    ราคา : 265 บาท                         สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน                         เนื่องจากยุคนี้มิจฉาชีพเยอะ และเข้าถึงตัวเราได้หลากวิธีหลายแบบ วันนี้เลยอยากจะมาแนะนำหนังสือที่เขียนโดยอดีต FBI ซึ่งเราอ่านแล้วรู้สึกว่ามีประโยชน์ในการพิจารณาคนรอบข้างและเหตุการณ์รอบตัว เป็นหนึ่งในหนังสือที่เราชอบมากๆเล่มนึง                         คือหนังสือที่ชื่อว่า "คู่มือรู้ทันคนโกง"                          ในโลกกลมๆ ใบนี้ มีอันตรายจากสิ่งมีชีวิตร่วมสายพันธุ์ที่ชื่อ “มนุษย์” อยู่มากมาย                           คุณแน่ใจเพียงใดว่า คุณสามารถอ่านคนออก บอกคนเป็น และเอาตัวรอดได้ ในทุกสถานการณ์                 คุณมั่นใจแล้วหรือยังว่า คนทุกคนที่รายล้อมคุณอยู่ ไว้ใจได้ และปลอดภัยที่จะใช้ชีวิตข้างๆกัน                ถ้ายังไม่มั่นใจ บางที คุณอาจต้องการคู่มือสักเล่ม เพื่อช่วยในการตัดสินใจและแนะแนวการวิเคราะห์สถานการณ์รอบตัว เพื่อให้ตัดสินใจอย่างชาญฉลาด และรู้ทันผู้คนมากขึ้น