ฉันป่วยไข้ตามระเบียบเรียบร้อยแล้ว



     เชื่อว่าคนทั่วไปคงเคยเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่บ้างไม่มากก็น้อย  พวกที่ไม่เคยเจ็บป่วยนี่  น่าจะมีสาเหตุหลักๆอยู่สองประการคือ  หากไม่ทำบุญมาดี  ก็ต้องดูแลร่างกายดี

     น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่เราไม่ใช่บุคคลประเภทนั้น...



     ตั้งแต่จำความได้  นี่ก็ป่วยนั่นป่วยนี่มาตลอด 

     ปวดหัว  ตัวร้อน  เป็นไข้  ขาพลิก  ไข้เลือดออก  บลาๆ 

     โรคยอดฮิตที่สุดนั้นคือ..........หวัด


     ตอนไปดูดวง  หมอดูก็บอกว่า  ตามดวงเราน่ะ  ถ้าไม่เป็นโรคประจำตัวหรือป่วยบ่อยๆอยู่เสมอ  ก็ต้องเป็นคนที่ไปที่ไหนก็จะมีคนมาไม่ชอบอยู่เรื่อยๆ
     เลือกไม่ได้  แต่ได้อย่างใดอย่างหนึ่งแน่ๆ

     ศัตรูจะมีไหมไม่แน่ใจ(รู้แค่คนไม่ชอบก็มีบ้าง)  แต่ป่วยนี่....ประจำ 

     เพราะฉะนั้นถ้าอยากสุขภาพดี.........เห็นทีจะต้องปลง

     นี่ก็ปลงมานานแล้ว  คิดเสียว่า  เป็นโรคเล็กๆน้อยๆนั่นแหละดี  จะได้ไม่ป่วยหนัก  ยิ่งเห็นเพื่อนคนหนึ่งซึ่งแทบไม่เคยป่วยไข้เลย  พอเข้าโรงพยาบาลทีโดนหยอดน้ำเกลือไปหลายวัน 
     แล้วรู้สึกเลยว่า  เออ  แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน  ชินแล้ว 

     จะเริ่มไม่ค่อยชินก็ตั้งแต่สองปีที่แล้วเห็นจะได้



     สองปีที่แล้ว  จู่ๆเราก็เป็นหวัดหนักกว่าที่เคยเป็นมา  คือนอกจากจะมีน้ำมูก  มีเสมหะ  และมีไข้เล็กน้อยแล้ว

     ยังไออีกด้วย

     ไอนี่จะว่าหนักก็ไม่ค่อยจะหนัก  ค่าที่มันไม่ทำให้ล้มหมอนนอนเสื่อ  แต่จะว่าเบาก็ไม่เบา  เพราะมันทำให้การใช้ชีวิตมีปัญหา  คือส่งเสียงตลอดเวลา(เสียงไอ)  บางทีก็ไอจนเหนื่อย  เป็นที่เบียดเบียนตนเองและคนอื่นยิ่งนัก

     ที่น่ารำคาญกว่านั้นคือ  การไอทำให้เราไม่สามารถรับอาหารและเครื่องดื่มที่พึงใจได้  เป็นต้นว่า  ของทอด  หรือบรรดาคาเฟอีนใส่น้ำแข็งทั้งหลาย
     ....ทรมานใจนา  ทำเป็นเล่นไป
     ....เจ็บใจจริง  แพ้แต่ของอร่อยทั้งนั้นเลย

     ใช้เวลารักษาเป็นเดือนๆกว่าจะหาย


     และนับจากครั้งนั้นเป็นต้นมา  เราจะต้องป่วยแบบนี้  คือเป็นหวัดและมีอาการไออย่างหนัก  อย่างน้อย  ปีละครั้ง
     เหมือนมีนัดกัน  จริงๆเราไม่เคยอยากนัดกับมันเลยนะ  มาเองแท้ๆ

     ทั้งเมื่อเริ่มสังเกตตนเองก็พบว่า  อาการหวัดบวกไอ  มันจะเลือกมาช่วงที่...

     กำลังจะเปลี่ยนงาน 



     ตอนที่เราเป็นโรคนี้ครั้งแรก  คือตอนที่เราเพิ่งเข้าทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง  พอทำงานไปสักพัก  โรคนี้ก็หายไป...

     แล้วปีต่อมา  พอได้งานเป็นราชการ  ก็ไออีกรอบ  ไออยู่เป็นเดือนๆกว่าจะหาย

     ส่วนงวดนี้...

     ยังคงเป็นข้าราชการอยู่ค่ะ  เพียงแค่กำลังจะอบรมเพื่อ....ควรจะเรียกว่าอะไรดี.... 

     เลื่อนขั้น  จากขั้นต่ำสุด  ไปอีกขั้นหนึ่งที่สูงขึ้น

 
     แล้วเราก็เริ่มไออีกตามเคย....



     คิดอีกที  การป่วยไข้ของเราอาจเป็นสัญญาณหนึ่งแห่งชีวิต  สัญญาณว่าชีวิตกำลังมีการเปลี่ยนแปลง  จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง 

     ให้หยุดคิด  ให้หวนกลับมาดูแลตัวเองอีกครั้ง  ให้ตระหนักว่าชีวิตไม่ได้มีเพียงแต่ความสุขความเจริญแต่อย่างเดียว  แต่ยังคงมีความทุกข์ยากอยู่ที่ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะใด  ก็สามารถเป็นทุกข์ได้ทั้งสิ้น  เพื่อไม่ให้หลงละเมอแต่ความสุขอยู่ถ่ายเดียว 

     เกิด  แก่  เจ็บ  ตาย  เป็นเรื่องธรรมดา  และเอาเข้าจริง  ไม่ต้องแก่  คนเราก็สามารถเจ็บป่วยได้ในทุกช่วงของชีวิต 

     หรือ...อีกที  คิดในแง่ดี  การเจ็บป่วยเสียก่อนอาจเป็นการตัดกรรมไม่ให้เราพบเจออุปสรรคอื่นๆที่ยุ่งยากกว่านี้  หรือลดทอนความรุนแรงของอุปสรรคที่อาจจะเจอในอนาคต

     ความเจ็บไข้ยังทำให้เราไม่ประมาทในชีวิต  และทำให้เราเชื่อว่า  ความตายสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเมื่อเชื่อวัน


     จะว่าไป  การเป็นหวัดและไอหนักก็มีข้อดีของมันอยู่



     อย่างไรก็ดี  ในฐานะคนรักสบายคนหนึ่ง  ถ้าเลือกได้  เราคงเลือกที่จะมีสุขภาพแข็งแรงแทนที่จะป่วยไข้

     แต่  ทำอย่างไรได้  ก็มันป่วยไปแล้ว  คงทำได้แค่รักษาให้มันหายล่ะนะ

     คิดเสียว่ามีนัดกับเชื้อโรค

     นัดที่เราไม่เคยเต็มใจจะนัด  นัดที่เชื้อโรคจัดการให้เองและเข้ามาอยู่ในร่างกายเราโดยพลการ  แล้วก็เล่นงานเราจนงอมพระรามพอสมควร 

     มา  มาลองสู้กันสักตั้ง  ดูซิ  คราวนี้สงครามระหว่างเรากับเชื้อโรค  จะยืดเยื้อยาวนานได้สักกี่มากน้อยกัน


     แต่...ที่แน่ๆ


     ...ฉันป่วยไข้ตามระเบียบเรียบร้อยแล้ว...


   

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ