สวรรค์ฉันท์ใด



     อ่านหนังสือของคุณดังตฤณอยู่เล่มนึง เจอคนเขียนเข้ามาปรึกษาว่าต้องทำอย่างไรจึงจะได้ขึ้นสวรรค์  โดยเจ้าตัวให้เหตุผลของการอยากขึ้นสวรรค์ไว้ว่า...

     "อยากได้นางฟ้าเป็นเมีย"



     เราว่าต้องมีหลายคนที่อยากขึ้นสวรรค์  เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น  เพียงแต่ว่า  เราไม่ได้อยากได้นางฟ้าเป็นเมีย  แบบที่คุณคนนั้นอยากได้

     จริงๆเราเคยได้ข้อมูลมาเหมือนกัน  ว่าการมีนางฟ้าอยู่ในบ้านเดียวกัน  ถือเป็นรางวัลอย่างหนึ่งที่ผู้ที่ประกอบกรรมดีจนสามารถถึงสวรรค์ได้จะได้รับ

     แต่เราไม่อยากได้นี่ !!!

     เราเป็นผู้หญิงนี่นา  ผู้หญิงจริงๆด้วย  เราจะอยากได้นางฟ้าเป็นเมียไปทำไมกัน???



     มีใครคิดเหมือนเรามั้ยว่า  สวรรค์ของคนเรา...ไม่เหมือนกัน  ต่างกันไปตามแต่ความชอบใจของแต่ละคน

     เมื่อใดที่เราประสบสิ่งที่เราพึงใจ  เราก็เรียกช่วงเวลานั้น  สิ่งๆนั้น  หรือสถานที่เหล่านั้นว่า  สวรรค์  แต่หากเราไม่ชอบที่ๆเราอยู่  เราก็อาจจะเรียกมันว่า....นรก

     ขึ้นอยู่กับความรักความชอบล้วนๆเลยเนี่ย



     คิดๆไป  มันคงจะดีนะ  ถ้าเราจะสามารถออกแบบบ้านของเราที่อยู่บนสวรรค์ได้ด้วยตนเอง  ตามที่แต่ละคนใฝ่ฝันอยากจะไขว่คว้าหรือครอบครองในชีวิต

     บ้าน  ที่มีแต่สิ่งที่เราชอบ  ซึ่งไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร  และไม่จำเป็นต้องมีใครเหมือน 


     แล้วถ้าให้เราออกแบบบ้านบนสวรรค์เองได้ล่ะก็  บ้านเราจะต้องประกอบไปด้วย

     -  ห้องสมุด
     -  ห้องเล่นเกม
     -  ห้องดนตรี
     -  นกฮูก  มังกร  เสือโคร่ง  (สัตว์ที่เราอยากเลี้ยง)
     -  และอื่นๆอีกมากมาย 
     -  อ่อ  คนใช้ไม่ต้อง  ขอเราอยู่เงียบๆกับสัตว์เลี้ยงเราดีกว่า

     ต้องเป็นบ้านที่แสนสุขมากๆแน่ๆเลยล่ะ  ^_^



     กลับมาสู่ความจริงกันบ้าง  จะว่าไป  การเอาแต่ฝันว่าถ้าได้ขึ้นสวรรค์อยากมีอะไรโดยไม่ได้ใส่ใจเลยว่า  ต้องทำอย่างไร..จึงจะได้ขึ้นสวรรค์ 
     คงเป็นการคิดข้ามขั้นไปมาก 

     เพราะไม่ว่าเราจะฝันหวานไปสักเท่าไหร่  หากความจริงมีอยู่ว่า  เราปฏิบัติตัวตรงกันข้ามกับทางไปสวรรค์เสียทุกอย่าง 
     จะคิดถึงเท่าไหร่สุดท้ายคงเป็นได้แค่ความฝัน

     หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาข้อหนึ่งมีว่า  ผลย่อมเกิดแต่เหตุ  เมื่ออยากได้ผลอย่างไร  ก็ต้องสร้างเหตุแบบนั้น 
     เพราะฉะนั้น  ก่อนอื่น  หากอยากขึ้นสวรรค์ก็ต้องปฏิบัติตนให้สามารถไปถึงสวรรค์ได้ 

     ในฐานะชาวพุทธระดับไม่เคร่ง  ที่คืนหนึ่งสวดมนต์ภาวนา  เช้าขึ้นมานึกแช่งชักหักกระดูกพวกสูบบุหรี่  จะให้เราบอกแบบเป๊ะๆตามพระไตรปิฎกว่า  ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้างจึงจะมีสิทธิขึ้นสวรรค์ 
     เห็นจะจนใจ 

     แต่หากจะถามความเห็นในฐานะชาวพุทธคนหนึ่งที่อ่านเรื่องธรรมะมาบ้าง  เราว่าที่สุดแล้ว  หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเห็นจะย่อได้ประโยคหนึ่ง
     "ทำความดี  ละเว้นความชั่ว  ทำจิตใจให้ผ่องใส"

     เท่านี้แหละ  เส้นทางสู่คติที่ดี  คงจะมีเท่านี้จริงๆ



     ดังนั้น  ก่อนที่จะมานั่งกังวลว่า  บ้านในสวรรค์เราจะเป็นอย่างไร  สิ่งที่เราต้องตระหนักอยู่เสมอในการใช้ชีวิตทุกวันนี้ก็คือ

     เราปฏิบัติตนตามครรลองคลองธรรมที่ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนาหรือยัง 

     เอาล่ะ  ตั้งโจทย์ให้ชีวิตเสียแต่วันนี้ว่า  เราจะ  "เอนทรานซ์"  เข้าประตูสวรรค์ให้ได้ก่อน 


     ส่วนเมื่อปฏิบัติจนถึงสวรรค์แล้ว  สวรรค์จะเป็นฉันท์ใดนั้น 


     ค่อยมาว่ากันใหม่...ก็แล้วกัน



     แล้วสวรรค์ของคุณล่ะ...เป็นแบบไหน ?
   

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ