สิ่งที่ได้จากการกลับมาอ่าน Why men love bitches



     ไม่กี่วันก่อน  เราเกิดนึกถึงหนังสือเรื่อง Why men love bitches ขึ้นมา  จึงไปหามาอ่านอีกครั้ง

     จริงๆเรามีหนังสือเล่มนี้อยู่แล้วแหละ  แต่มีเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ  ได้มาตอนเรียนปริญญาโท  และอ่านจบไปนานแล้ว
     แต่วันนี้อยากอ่านใหม่...และข้าพเจ้าจะไม่ปล่อยให้ความอยากของตัวเองโดนใยแมงมุมเกาะเป็นอันขาด


     มีคนเคยบอกไว้ว่า  ถ้าเราอ่านหนังสือเล่มเดิมมากกว่าหนึ่งครั้ง  ต่อให้เราเคยอ่านมันมาแล้ว  เราก็จะได้มุมมองใหม่ที่เราไม่เคยคิดมาก่อน

     เออ  ท่าจะจริงแฮะ



     หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อหนังสือเรื่อง  Why men love bitches  ซึ่งมีการแปลเป็นฉบับภาษาไทยชื่อ ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก  โดยมีผู้แปลคือ  คุณพัชรศรี เบญจมาศ  มาแล้ว

     ถามว่าเนื้อหาแรงมั้ย?

     ยอมรับว่าเนื้อหาบางส่วนก็ไม่ค่อยจะเหมาะกับสังคมไทยหรอก  ยิ่งหากเคยอ่านภาคสองคือ  Why men marry bitches  นี่จะยิ่งมีหลายส่วนที่หมิ่นเหม่

     แต่ถามว่าสนุกมั้ย?

     ก็สนุกในระดับนึงนะ  คืออ่านครั้งแรกรู้สึกว่าสนุกมาก  แต่อ่านครั้งนี้..............ก็อ่านได้  ไม่ถึงกับรังเกียจ
     .............เพียงแค่ไม่รู้สึกบันเทิงใจเท่าครั้งแรก

     เนื้อหาโดยสรุปของหนังสือเล่มนี้จะเปรียบเทียบพฤติกรรมของผู้หญิงสองประเภทคือ ผู้หญิงดี(nice girls) และ ผู้หญิงร้าย(bitches) แล้วให้เหตุผลว่า ทำไมผู้หญิงประเภทหลังจึงประสบความสำเร็จในการคว้าความรักได้มากกว่าประเภทแรก

     เหมือนชื่อเรื่องจะยุให้สตรีเพศประพฤติตนไม่ดี  แต่ช้าก่อน!!

     มันไม่ใช่แบบนั้น..........ซะทีเดียว



     ถ้าคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้  คุณจะเข้าใจว่า  แท้จริงแล้วคนเขียนไม่ได้ยุยงให้ผู้หญิงทำตัวระยำตำบอนเพื่อให้ได้มาเพื่อผู้ชายสักคน  และไม่ได้เยาะเย้ยว่าการทำตัวเป็นคนดีของผู้หญิงนั้นเป็นเหตุให้หล่อน  "นก"  ได้ตลอดเวลา
     (ขออนุญาตใช้ศัพท์วัยรุ่น)

     แต่สิ่งที่คนเขียนหนังสือเรื่องนี้  "ย้ำ"  อยู่ตลอดเรื่องก็คือ

     "ความนับถือตัวเองของผู้หญิง"


     ที่จริงแล้ว คำจำกัดความของ "ผู้หญิงดี" ในหนังสือเล่มนี้  ไม่ได้หมายถึงความเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อม  เป็นแม่ศรีเรือน  รักจริง  ซื่อสัตย์  หรืออะไรแบบนี้

     "ผู้หญิงดี"  ในหนังสือเล่มนี้  คือ  ผู้หญิงที่ยอมเสียทุกอย่างของตัวเอง  เพียงเพื่อให้ผู้ชายสักคนมารัก  เช่น
     - ยอมทิ้งความเป็นตัวเอง  เพียงแค่แฟนบอกว่าไม่ชอบสิ่งนั้น
     - ดึกแค่ไหน  ยุ่งเพียงใด  หากอีกฝ่ายเรียกใช้  ก็วิ่งไปหาทันที
     - ทำตัวเป็น 'แม่' คือทำให้ทุกอย่าง
     - ทำตัวเหมือนคอลเซนเตอร์  คือผู้ชายโทรมาเมื่อไหร่ก็รับทันที  มิหนำซ้ำ  ยังเฝ้ารอแต่โทรศัพท์ของผู้ชายเสียด้วย  หรือแม้แต่
     - ยอมนอนกับผู้ชายง่ายเกินไป
     มีใครคุ้นๆกับพฤติกรรมเหล่านี้บ้าง

     คุณคนเขียนเขาอธิบายไว้ว่า  การกระทำเหล่านี้เป็นการแสดงถึง  "ความไม่เคารพตัวเอง"  ของผู้หญิงคนนั้น  ที่ทำตัวประหนึ่งของตายหรือ "พรมเช็ดเท้า" (เราไม่ได้เขียนเองนะ นี่แปลจากต้นฉบับเลย ไม่เชื่อลองอ่านเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษดูสิ) ของผู้ชายตลอดเวลา
     และดูเอาเถิด  ขนาดว่าหนังสือเล่มนี้เขียนโดยชาวตะวันตก  ซึ่งไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนเรื่องการมีอะไรกันก่อนแต่งงาน  ซึ่งไม่ได้สนใจจนประสาทเสียกับความบริสุทธิ์ของผู้หญิง  เขายังบอกเลยว่า  การที่คุณยอมมีอะไรกับใครง่ายเกินไปน่ะ

     นั่นคือ  "ความไม่นับถือตัวเอง"  อย่างแรง!

     และถ้าคุณผู้หญิงกระทำการอันไม่นับถือตัวเองให้ผู้ชายเห็นและรู้สึกแล้ว  คุณจะคาดหวังให้ผู้ชายนับถือคุณ  ชื่นชมคุณ  หรือรักในตัวคุณ
     ได้อย่างไร?


     แล้วผู้หญิงร้าย  หรือตามชื่อภาษาอังกฤษคือ  bitches  เล่า  คืออะไร?

     ผู้หญิงร้าย  ในหนังสือเล่มนี้  คือผู้หญิงที่มีความคิดเป็นของตัวเอง  ผู้หญิงที่ไม่ยอมให้เพศตรงข้ามใช้หล่อนเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์  ผู้หญิงที่ไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกสนตะพาย  หรือพูดอีกนัยหนึ่ง
 
     ผู้หญิงร้าย  คือ  ผู้หญิงที่มีความนับถือตัวเอง  มากเกินกว่าจะยอมลดคุณค่าของตัวเอง  เพียงเพื่อผู้ชายสักคน


     ตัวอย่างก็เช่น  หล่อนจะไม่ขับรถไปหาผู้ชายตอนตีสองเพียงเพราะเขาโทรมาว่าอยากเจอ  ไม่ประเคนทุกอย่างให้ผู้ชายตั้งแต่รู้จักกันใหม่ๆ ไม่เปลี่ยนสิ่งที่ตัวเองชอบเพียงเพราะอีกฝ่ายบอกว่าเขาไม่ชอบ

     Motto(คติ) ประจำตัวของผู้หญิงร้ายคือ  This is me, take it or leave it ! (ฉันเป็นของฉันแบบนี้  อยากจะชอบหรือไม่ชอบก็เรื่องของคุณ)

     คนเขียนมองว่าลักษณะนิสัยแบบนี้อาจไม่สามารถเรียกว่าเป็นนิสัยดี  แต่คิดอีกที  มันก็ไม่ได้แย่นะ  มันคือการแสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่า  ฉันไม่ใช่คนที่คุณจะมายังไงก็ได้ใส่  แล้วก็ยังต้องรักคุณ  แล้วถ้าคุณอยากจะยืนเคียงข้างในฐานะคนรัก  ก็ช่วยประพฤติตัวให้ควรค่าแก่การรักด้วย
     เพราะการไม่เคารพในตัวผู้หญิงและใช้หล่อนเพื่อประโยชน์ตัวเองแต่ถ่ายเดียว เป็นสิ่งที่รับไม่ได้!!!



     เราเห็นด้วยกับหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่การอ่านครั้งแรกแล้วล่ะ  เพราะเราคิดว่า  การที่ใครสักคนอนุญาตให้คนอื่นเอาเปรียบตัวเองอยู่แต่ฝ่ายเดียวนั้นน่ะ  มันไม่มีทางที่จะทำให้ใครรักคนๆนั้นได้หรอก
     ถ้าเจอคนดี  เขาอาจจะเกรงใจ  แต่ถ้าเจอคนไม่ดี  คุณโดนเอาเปรียบชัวร์
     (เรารู้จักคนแบบนี้  และเรารู้สึกรำคาญเขามาก  จริงจัง)

     แต่พอมาอ่านอีกรอบนึง  บางอย่างเราก็ว่า  มันก็แรงไปนิดนึง

     ออกตัวก่อนว่าตอนนี้เรายังอ่านไม่จบนะ  แต่พฤติกรรมบางประการที่เขาเล่าว่าผู้หญิงร้ายทำ  เป็นต้นว่า  มีผู้ชายโทรมาหาตอนดึกดื่นซึ่งฝนตกหนักให้ขับรถไปหา  แล้วสิ่งที่ผู้หญิงร้ายทำคือ  หล่อนหลอกให้ผู้ชายถือร่มยืนกลางฝนรอทั้งคืน  โดยที่หล่อนนอนหลับไปเลยหลังจากวางสาย...
     ....เอ้อ  มันก็แรงไปหน่อยนะ  เกิดเขาเป็นไข้ตายขึ้นมา  หรือแค้นเราขึ้นมา  เอาปืนมายิงเราตายทำไงล่ะเนี่ย??
     เอ....หรือผู้ชายตะวันตกเขาไม่มีรสนิยม  นึกอะไรไม่ออก  ฆ่าผู้หญิงไว้ก่อน  แบบประเทศสารขัณฑ์แถวๆนี้หว่า  0_o

     แต่โอเคล่ะ  ถ้าหมอมาอีแบบนี้  ไม่ออกไปเจอยังจะดีกว่า  เห็นชัดๆว่าเขาไม่ให้เกียรติเราเลยนี่หว่าเนี่ย  (@)*#&


     แต่สิ่งที่เราไม่ค่อยเห็นด้วยคือ  การที่หนังสือเล่มนี้แนะนำว่า  ให้ผู้หญิงทำตัว "เลี้ยงอีโก้(ego)ผู้ชาย"  ด้วยการแกล้งทำเป็นทำโน่นนี่นั่นไม่ได้  แล้วเมื่อเขาทำให้  ให้ชมแบบเวอร์ๆ
      หรือแม้แต่เวลาอยากได้อะไร  ให้ชักจูงให้อีกฝ่ายรู้สึกว่า  เขาอยากทำแบบนั้น  เพื่อให้เขาอำนวยความสะดวกให้เรา

     คือ  ชีวิตจริง  บางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องเอาเกียรติยศใส่พานไปถวายผู้ชายขนาดนั้น เพราะเราคิดว่า  หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงอะไร  หากเราอยากได้อะไร  หรืออยากทำอะไรแล้วไซร้
     .....เราก็ควรทำด้วยตัวของเราเองมากกว่า  (นี่คงเป็นลักษณะประจำตัวคนหาแฟนไม่ได้กระมัง  เอาเป็นว่าอย่ายึดความเห็นเรามากไปก็แล้วกัน)


     กระนั้นก็ตาม  การทำให้คนอื่นรู้สึกดีเวลาเขาทำอะไรให้เรา  เป็นสิ่งที่พึงกระทำ  ไม่ว่าคุณจะได้รับมันจากความสัมพันธ์แบบใด  เพราะนั่นทำให้อีกฝ่ายอยากทำอะไรให้คุณมากขึ้น
     ...........ทีนี้จะใช้อะไรก็ง่ายแล้ว

     นี่เป็นจิตวิทยาพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้ไว้เวลาปะทะสัมพันธ์กับคนรอบข้าง  เพื่อความสะดวกในการดำรงชีวิต

     จำเอาไว้ให้ดี!!!



     สุดท้าย  เราคงไม่สามารถฟันธงลงไปว่า  สิ่งที่หนังสือเล่มนี้สอนนั้น  ถูกหรือผิดแค่ไหน  และมากเพียงใด
     เพราะมันขึ้นอยู่กับมุมมองของคนอ่านเองนั่นแหละว่า  เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้  ตรงกับจริตของคุณมากแค่ไหน

     ส่วนถ้าจะถามว่า  ในฐานะคนอ่านคนหนึ่ง  เราจะแนะนำให้คุณผู้หญิงอ่านหนังสือเล่มนี้หรือไม่นั้น  เอาเป็นว่า.....


     ถ้าคุณโลกสวยและคิดว่าชีวิตนั้นจะต้องสมบูรณ์แบบราวกับเจ้าหญิงเจ้าชายในนิทาน......อย่าอ่าน !


     แต่ถ้าคุณเป็นคนมองโลกตามความเป็นจริงพอสมควร

     เคยอ่านเรื่อง "หักหลังผู้ชาย"  แล้วรับได้  ไม่ถึงกับร้องยี้หรือต้องเอาแอลกอฮอล์มาล้างตาหลังอ่านจบ

     ต้องการเสริมประสบการณ์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างชาย-หญิง  อยากได้ข้อคิดดีๆเกี่ยวกับการเห็นคุณค่าของตัวเองหรืออยากได้คำอธิบายว่า  ทำไมคุณถึงต้องเริ่มที่จะรักตัวเองและเคารพในตัวเองก่อน  ที่จะหวังให้ใครมารักและเคารพในตัวคุณ หรือต้องการเห็นความสำคัญของการให้เกียรติตัวเอง  และอยากเห็นตัวอย่างว่า  การไม่ให้เกียรติตัวเองจะส่งผลเสียอย่างไรบ้างในความสัมพันธ์  หรือแม้แต่

     อยากรู้ว่าเวลาเจอหนุ่มแสบๆน่ะ  มีวิธีเอาคืนได้อย่างไรบ้าง


     ก็ลองเปิดหนังสือเล่มนี้อ่านดูได้....

     เพราะมันคือประเด็นสำคัญที่สุดของเรื่องเลยล่ะ



     ท้ายที่สุด  ขอฝากอะไรไว้สักอย่างหนึ่ง

     เราเชื่อว่า  คนรอบข้างจะปฏิบัติต่อเราเหมือนกระจกเงา  กล่าวคือ  สิ่งที่คุณรู้สึกต่อตัวเองนั้นจะสะท้อนออกไปภายนอก  และนั่นจะทำให้คนรอบข้างปฏิบัติต่อคุณเหมือนกับที่คุณปฏิบัติต่อตัวเองนั่นแหละ

     เพราะฉะนั้น  จะให้คนรอบข้างมองคุณแบบไหน  คุณเองคือผู้กำหนด

   

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คลังศัพท์ไว้ตั้งชื่อ

เราต่างเป็นกาลีในชีวิตใครบางคน

จำหน่ายคดีหัวใจ