เคมี(ไม่)เข้ากัน
โลกนี้มันมีจริงๆนะ ไอ้สิ่งทีเรียกว่า "เคมีเข้ากัน"
พูดถึง "เคมีเข้ากัน" หลายคนอาจนึกไปถึงแค่การคบหากันเป็นแฟน ไม่จริง ความเข้ากันของเคมีมันไม่ได้ส่งผลถึงแค่ความสัมพันธ์ระดับคู่รักหรอก มันมีผลต่อกับทุกความสัมพันธ์ในชีวิตนั่นแหละ
ทีนี้ ข้อยกเว้นมันก็พอมีอยู่บ้าง
พวกแรก พวกเป็นมิตรได้กับทุกคน เคยเห็นไหมล่ะ คนที่เข้าที่ไหนก็มักจะได้รับการต้อนรับอย่างดีเสมอ พวกนี้มักมีเสน่ห์ หรือไม่ก็คุยเก่ง หรือทั้งสองอย่าง ผลคือคนรอบข้างจะรู้สึกสนิทกับเขาได้ง่ายไปหมด
ส่วนพวกหลังคือพวกตรงกันข้าม พวกที่เกลียดโลกทั้งใบ พวกที่ทำตัวแหวกแนวและไม่มีท่าทีที่จะเข้ากับใครให้ได้เลยสักคน พวกนี้คนรอบข้างจะรู้สึกว่ามันเข้ากับใครไม่ได้เลย...
...กำลังคิดว่าตัวเองเป็นคนพวกนี้รึเปล่า???
แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัว คิดว่าอย่างไร คนประเภทแรกก็คงรู้สึกเหมือนกันว่าเขา "คลิก" กับคนๆหนึ่งง่ายกว่าอีกคน หรือไม่ก็รู้สึกไม่ถูกชะตากับบางคนเลย ทั้งที่เหมือนจะคุยกันได้ด้วยดีก็ตาม
ในทางกลับกัน ถ้าไม่เกินทน คนที่ไม่สุงสิงกับใครเลยก็น่าจะมีรู้สึกบ้างแหละ ว่าในบรรดาคนที่ตัวเองทำเฉยใส่ไปนั่นน่ะ มีบางคนที่รู้สึกถูกชะตาเสียเหลือเกิน ติดแค่ไม่รู้ว่าจะคุยด้วยยังไง
เชื่อสิ "เคมี" น่ะ มีอยู่จริง
จะว่าไป เรื่อง "เคมี" เนี่ยนะ คนที่มนุษยสัมพันธ์ดีอาจจะไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับมันมาก เพราะด้วยความที่เข้าได้กับทุกคนอยู่แล้วไง ก็เลยคิดว่าเราก็ถูกชะตาได้กับทุกคน
เซนส์เรื่องนี้จึงมักจะเกิดขึ้นกับคนทั่วๆไป ไปจนถึงพวกคุยกับคนยาก ว่าเวลาเจอใครหรือรู้จักใครไปสักพักเนี่ย มันจะเริ่มมีความรู้สึกบางอย่าง
....คนนี้ ไม่รู้ทำไม คุยด้วยได้ง่ายมาก เจอกันสองทีคลิก
....คนนี้ จริงๆเขาก็เป็นคนดีนะ และดูจะคุยเก่งด้วย แต่อยู่กับเราอ่ะ เขาไม่คุย (เพราะเราไม่คุย..อุ๊บส์)
นอกนั้นก็จะเป็นพวกปกติทั่วๆไป ที่จะคุ้นเคยกันได้ต้องใช้เวลา อะไรแบบนี้
แล้ว "เคมี" มาจากอะไรได้บ้าง
ไม่รู้ !
เออไง ใครจะไปรู้ เว้นแต่จะใช้หลักนั้นหลักนี้เข้ามาอธิบาย ซึ่งยายคนเขียนก็มีอยู่สองหลักใหญ่ หนึ่งคือว่ากันด้วยเรื่องกรรมวิบาก(จะแนวพุทธนิดนึง) อีกเรื่องนึงคือ...โหราศาสตร์
สำหรับเรื่องกรรมวิบาก ก็ขอยกเรื่องคู่ที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า คนที่จะเป็นคู่กันได้นั้นเกิดจากเคยอยู่ร่วมกันมาในชาติก่อน และได้มาเกื้อกูลกันอีกในชาติปัจจุบัน
ก็คือ....การที่เรารู้สึกถูกชะตากับใครนั้น น่าจะมีสาเหตุมาจาก เรากับเขาเคยมีสัมพันธ์อันดีต่อกันมาในชาติปางก่อน แล้วชาตินี้เราก็ยังมาเป็นคนในชีวิตของกันและกันอีก เมื่อเคยมีสัมพันธ์อันดีต่อกันมา มันจึงง่ายที่จะรู้สึกดีต่อกันอีกเมื่อพบกันใหม่
น่าเสียดายเหมือนกันที่เราจำอดีตชาติไม่ได้ เลยรื้อฟื้นอะไรไม่ได้มากนัก แต่การเจอใครแล้วเข้ากันได้ดีก็เป็นเรื่องดี และถ้าเขาเป็นคนดีเราก็ควรรักษาเขาไว้ให้ดีด้วย
เหตุผลอื่นหาไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ
สอง โหราศาสตร์
เชื่อไหมล่ะว่าการเป็นหมอดูมาสักระยะเนี่ย มันทำให้เราสามารถเดาคุณสมบัติบางอย่างที่มีอยู่ในตัวคนที่เราพบปะด้วยได้ หากมันเด่นขึ้นมาหรือเรารู้จักกับเขามามากเพียงพอ ถ้าพูดให้เจาะลึกขึ้น เราว่าเราเดาได้ว่าคนบางคนอยู่ราศีอะไรหรือมีความเป็นราศีอะไรผสมอยู่ในตัว และบางที เราว่าเราก็เดาได้ว่า คนๆนี้มีดาวบางดวงได้คุณสมบัติอะไรหรืออยู่ตรงไหน จากที่เราคุยๆกับเขานี่แหละ
เป็นต้นว่า คนที่คุยเก่งๆน่ะชี้ให้เห็นว่า ถ้าไม่ใช่เพราะดาวพุธในดวงเขาได้มาตรฐานที่ดี ก็คงเป็นเพราะดาวพุธเขาเป็นนิจเป็นประ
....พวกดาวพุธอ่อนนี่คุยเก่งกว่าดาวพุธแข็งอีกนะ แต่คุยได้เรื่องได้ราวหรือเปล่าน่ะอีกเรื่อง
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ "เคมี"
เราพบว่า มันจะมีคนบางคนในโลกใบนี้ ที่เข้ากับเราได้...เร็วกว่าคนอื่นโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากที่จะคุยกัน และเมื่อคุ้นเคยกันมากพอที่เขาจะให้เราดูดวงให้ เราก็พบว่า
คนกลุ่มนี้คือคนที่ราศีธาตุเดียวกับเรา ราศีที่ธาตุเป็นมิตรกับเรา หรือ เกิดวันที่เป็นมิตรกับวันเกิดเรา
ในทางกลับกัน ก็จะมีคนอีกบางคน ที่พยายามยังไงก็ยังเข้ากันไม่ค่อยได้ เหมือนน้ำกับน้ำมัน คืออาจไม่ได้เกลียดกัน แต่หาเรื่องมาต่อให้ติดกันไม่เจอ
คนกลุ่มนี้บางคนที่ได้มีโอกาสผูกดวงให้จะพบว่า อยู่ในราศีที่ธาตุเข้ากันไม่ได้ ไม่ใช่ธาตุคู่มิตรกัน หรือแย่ที่สุด คือเป็นราศีทุสถานภพ(ภพเสีย) ของกันและกัน อ่อ พวกเกิดวันที่เป็นศัตรูกะวันเกิดเราจะมีบางอย่างที่ทำให้เข้ากันยากได้เหมือนกัน
นี่เราเก็บสถิติจนทำโพลได้เลยนะ ว่าคนแต่ละราศีที่อยู่ในชีวิตเราน่ะ ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมันเป็นยังไง
แปลกมั้ยล่ะ
เราเลยสรุปเอาเองว่า "เคมี" ที่เข้ากันเกิดจาก "ราศี" ที่เป็นมิตรต่อกัน แล้วพอคนสองคนมีราศีที่ไปด้วยกันได้ แนวโน้มที่เคมีจะเข้ากันได้จึงมากขึ้นตามไปด้วย แต่ถ้าราศีไปกันไม่ได้การผูกสัมพันธ์มักต้องใช้ความพยายามที่มากขึ้น แล้วก็มักไม่ค่อยจะยืนยาว พอหายก็หายเลย
"ราศี" ต้องมีผลกับ "เคมี" แน่ๆ
อย่างไรก็ดี ในชีวิตคนทั่วๆไปที่ไม่ใช่หมอดู คงไม่มีใครสนใจใคร่รู้ว่าคนรอบตัวแต่ละคนนั้นราศีอะไรบ้างหรือคนนี้เกิดวันอะไร เราเพียงใช้ความรู้สึกทั่วๆไปเวลาที่เราพบใครสักคนว่า เราเข้ากับเขาได้หรือเปล่า และเข้ากันได้ดีแค่ไหน แล้วเราก็จะใช้ความรู้สึกนี้แหละมาตัดสินว่า เราควรจะให้ "ใจ" กับเขาไปแค่ไหน หรือให้เขาอยู่ในจุดไหนดีของชีวิต
และถ้าถามเรา มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะสนิทหรือไม่สนิทกับใคร ตราบใดที่เราไม่ทำให้มันประหลาดเสียเองโดยการป่าวประกาศว่า "ฉันจะคบ/ไม่คบเธอ เพราะฉันรู้สึกเข้ากับเธอได้/ไม่ได้"
เชื่อเรา อย่าทำอะไรให้มันยุ่งยากแบบนั้นเลย
สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ก็คือ เราไม่จำเป็นจะต้องเป็นศัตรูกับใคร เพียงเพราะ "เคมี" เรากับเขามันไม่ตรงกัน เรายังคงอยู่ร่วมกันในสังคมได้ ยังคงคบหากันได้ปกติ
แค่ต้องทำใจไว้ว่าเราอาจไม่สามารถสนิทชิดเชื้อกันได้เท่ากับคนที่มีเคมีตรงกัน
จริงๆเรากับอีกฝ่ายอาจจะสนิทกันขึ้นมาได้ก็ได้นะ เพียงแต่มันต้องใช้ความพยายามมากขึ้นที่จะปรับตัวเข้าหากัน ซึ่งก็ตอบตัวเองให้ได้ละกันว่ามันคุ้มค่าหรือเปล่าที่จะทำแบบนั้น
ถ้าไม่ก็ปล่อยไปเถอะ ชีวิตเราไม่ได้มีเวลามากพอจะสนิทกับทุกคน
แต่ถ้ายังไง้...ยังไงก็ปักใจกับคนนี้ ลองตั้งใจทำอะไรดีดีให้กัน หรือชวนกันไปทำความดี เข้าวัดทำบุญดูก็ได้นะ ไม่แน่ผลบุญอาจส่งให้คุ้นเคยกันได้ง่ายขึ้น
สุดท้ายไม่ท้ายสุด ตามความเห็นส่วนตัวในฐานะหมอดูคนหนึ่ง ถ้าเรารู้ว่า "เคมี" ที่มันไม่เข้ากันเป็นเพราะราศีเราทั้งคู่มันไปด้วยกันไม่ได้คือเป็นราศีทุสถานภพของกันและกันแล้วล่ะก็ อย่าฝืนดันทุรังคบในฐานะ "คนรัก" เป็นอันขาด
...เว้นแต่อยากจะได้ "เจ้ากรรมนายเวร" ในรูปของ "แฟน"...
ด้วยความปรารถนาดีจาก....แม่หมอ
สวัสดี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น